ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ส.ค. 2568) เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุพยายามฆ่าโดยใช้อาวุธปืน ภายในวัดแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที
เมื่อไปถึงพบ พระรัชชานนท์ อวะภาค อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลทรายขาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 กระสุนเจาะเข้าบริเวณใต้ชายโครง 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี ผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวดี
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพระภิกษุ 7 รูป และสามเณร 1 รูป กำลังกวาดขยะบริเวณลานวัด สามเณรผู้ก่อเหตุ อายุ 16 ปี ชาวบ้าน ต.ทรายขาว ได้เดินเข้ามาพูดคุยหยอกล้อกับ พระรัชชานนท์ มีการพูดถึงเหตุการณ์เงินหายครั้งก่อน ซึ่งแท้จริงแล้วเงินไม่ได้สูญหาย พระรัชชานนท์ได้พูดเชิงตำหนิว่า ถ้าวันนั้นมึงโทษกู มึงโดนแน่ สามเณรรพีภัทรจึงตอบกลับว่า จะเอาสักเม็ดไหม ก่อนชักปืนยิงทันที 1 นัด ต่อหน้าพระภิกษุรูปอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการจุดตรวจช้างให้ตก ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.โคกโพธิ์ สามารถติดตามจับกุมตัวสามเณร พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำพระผู้บาดเจ็บและผู้ต้องหา เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นได้ทำการสึกสามเณรออกจากสมณเพศ และควบคุมตัวไว้ที่ สภ.โคกโพธิ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พระวัชรพงศ์ พระลูกวัด เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ สามเณรผู้ก่อเหตุบอกว่ามีเงินหาย แต่ความจริงเงินยังอยู่ในกระเป๋า พระที่ถูกยิงจึงพูดว่า ถ้าวันนั้นโทษกู มึงโดนแน่ จากนั้นสามเณรถามว่า จะเอาลูกปืนไหม แบ่งกันคนละเม็ดไหม พระที่ถูกยิงตอบกลับว่า ถ้ากล้าก็ยิงเลย ก่อนที่สามเณรจะชักปืนยิงทันทีต่อหน้าพระลูกวัดคนอื่นๆ หลังจากนั้นได้วิ่งหลบหนีกลับบ้าน
ในช่วงเกิดเหตุ ทุกคนอยู่ด้วยกัน กำลังกวาดขยะ ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าสามเณรมีปืน เพราะปกติก็มักหยอกล้อกันทุกวันและไม่เคยมีปัญหาบาดหมาง ส่วนกระแสในสื่อโซเชียลที่บอกว่าเป็นปัญหาเรื่องยืมเงินไม่จ่ายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะสามเณรผู้ก่อเหตุก็แทบไม่มีเงินที่จะให้ใครยืมได้
พระลูกวัดเปิดตอนท้ายว่า รู้สึกเสียใจมากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพระด้วยกัน ทั้งที่อยู่ร่วมกันมา 3-4 เดือน ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ และไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามเณรมีปืน หากรู้ตั้งแต่แรกคงไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้น ส่วนอาการของพระที่ถูกยิง ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน รู้สึกตัวและตอบสนองได้ดี
Advertisement