พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.), กรมการปกครอง และหน่วยข่าวกรองทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ค้าและผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญ
จากการปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 22 ราย จาก 9 คดี พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลางจำนวนมหาศาล ได้แก่ ยาบ้า 31.8 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,105 กิโลกรัม และเฮโรอีน 173 กิโลกรัม
การสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้ใช้รถยนต์ดัดแปลงเพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ริมชายแดนแม่น้ำโขงด้านจังหวัดหนองคายและนครพนม ก่อนจะลำเลียงผ่านเส้นทางจังหวัดนครราชสีมา จนกระทั่งถูกจับกุมได้ที่จังหวัดสระบุรีก่อนที่จะนำยาเสพติดไปจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งใช้รถบรรทุกและรถบัสโดยสารในการตบตาเจ้าหน้าที่ ลักลอบขนยาเสพติดจากจังหวัดปทุมธานี ผ่านถนนเพชรเกษม และถูกจับกุมได้ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่ยาเสพติดจะถูกลำเลียงส่งต่อในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อจำหน่ายยังประเทศที่สามต่อไป
พล.ต.อ. ประจวบ เปิดเผยถึงผลการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในห้วงตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ถึง 8 กรกฎาคม 2568 ว่าสามารถสกัดจับยาเสพติดได้รวม 24 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 45 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้าได้รวม 58 ล้านเม็ด, ไอซ์ 2,192 กิโลกรัม และเฮโรอีน 173 กิโลกรัม รวมถึงรถยนต์ชนิดต่างๆ ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด 29 คัน และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดได้รวมกว่า 33 ล้านบาท
การดำเนินการดังกล่าว มุ่งเน้นการกดดันและทำลายเครือข่ายยาเสพติด ทั้งในระดับผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย โดยหลังจากนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะเร่งรัดขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement