วงแตกกระเจิง! เจ้าหน้าที่ปกครอง บุกทลายบ่อนพนันทับสะแก รวบ 12 นักพนัน
วงแตกกระเจิง! เจ้าหน้าที่ปกครอง บุกทลายบ่อนพนันทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวบ 12 นักพนัน ขณะตั้งวงไฮโล พบเป็นบ่อนพนันถาวร มีอุปกรณ์การเล่นครบครัน
(7 ก.ค. 2568) เกิดเหตุชุลมุนช่วงกลางดึก ระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกับกลุ่มนักพนันหลายราย หลังเจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันที่แฝงตัวอยู่ภายในบ้านพัก หมู่ที่ 5 บ้านทุ่งกอก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เนาวรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านและผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวลับว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนพนันภายในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดซึ่งมักจะมีนักพนันจำนวนมากเดินทางมาร่วมวง จึงได้วางแผนสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและดำเนินการจับกุมในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงได้พบนักพนันจำนวนมาก กำลังนั่งล้อมวงเล่นไฮโลกันอย่างสนุกสนานภายในตัวบ้าน โดยไม่มีท่าทีระแวดระวัง แต่ทันทีที่นักพนันสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเข้าปิดล้อม ต่างพากันตกใจและพยายามหลบหนีอย่างอลหม่าน บ้างปีนรั้วบ้างวิ่งหนีออกทางหลังบ้าน หรือกระโจนลงไปหลบตามพงหญ้าข้างเคียง สร้างความชุลมุนให้กับพื้นที่โดยรอบ
จากคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แสดงให้เห็นถึงภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มนักพนันกระจัดกระจายหลบหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ติดตามค้นหาตัวผู้ที่หลบซ่อนอยู่ตามพงหญ้าและบริเวณรอบบ้าน จนสามารถควบคุมตัวนักพนันไว้ได้ทั้งหมดจำนวน 12 ราย
หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านพบว่าพื้นที่ภายในถูกดัดแปลงให้เป็นลักษณะคล้ายบ่อนพนันถาวร มีการจัดโต๊ะเก้าอี้หนังพร้อมอุปกรณ์เล่นการพนันไฮโลอย่างครบครัน ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของ "บ่อนวิ่ง" ที่มักจะตั้งวงชั่วคราวบนพื้นและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการเปิดให้เล่นพนันในลักษณะถาวรมาก่อนหน้านี้แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับสะแก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะขยายผลสอบสวนเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลใดเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนการเปิดบ่อนแห่งนี้หรือไม่
เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตื่นตัวในพื้นที่ และทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ว่ามีการรับรู้หรือมีส่วนรู้เห็นกับบ่อนพนันแห่งนี้หรือไม่เนื่องจากสถานที่มีลักษณะเปิดให้บริการอย่างชัดเจน และไม่ใช่เพียงการเล่นชั่วคราว
Advertisement
