ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มิ.ย. 2568) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ได้ขยายผลจากกรณีการจับกุมตัว นายสุไลมาน กาซา และนายมูหามะ วาเด็ง พร้อมของกลางวัตถุระเบิดภายในรถยนต์ ในพื้นที่ สภ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายลักลอบขนวัตถุระเบิดเข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นและการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายสุไลมาน เจ้าหน้าที่พบคลิปวิดีโอการฝึกยิงอาวุธปืนภายในสวนส่วนบุคคล ซึ่ง นายสุไลมาน ได้ให้การว่าเป็นสวนของ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี โดยบุคคลที่ร่วมฝึกยิงปืนนั้นในคลิปได้มี นายมูฮัมหมัด (สงวนนามสกุล) เป็นบุตรชายนายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่วมอยู่ด้วย
กระทั่ง เวลา 05.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย. 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนำกำลังเปิดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รวม 4 จุด สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย
โดยจุดที่แรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในสวนของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล อ.แม่ลาน พร้อมได้เก็บพยานหลักฐานจุดนี้ที่คาดว่าเป็นจุดการฝึกยิงปืน
จุดที่สอง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก อ.แม่ลาน และสามารถควบคุมตัว นายมูฮัมหมัด (สงวนนามสกุล) บุตรชายนายกอบต. พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถยนต์กระบะยี่ห้อ triton 1 คันหลักฐานทางกายภาพ
จุดที่สาม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายบ้านพัก อ.แม่ลาน และสามารถควบคุมตัว นายรอมือซี พร้อมยึดหลักฐานทางกายภาพ
จุดที่สี่ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขพัก อ.แม่ลาน สามารถควบคุมตัว นายซอลาฮุดีน พร้อมยึดหลักฐานทางกายภาพ
จากการเข้าตรวจค้นในแต่ละจุด เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดหลักฐานทางกายภาพได้จำนวนมาก รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่ภายในมีข้อมูลการสนทนาผ่านแชตที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการขนย้ายอาวุธ พร้อมตรวจหลักฐานอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 3 คน ไปยัง สภ.แม่ลาน เพื่อทำการบันทึกการควบคุมตัว โดย นายมูฮัมหมัด และ นายซอลาฮุดีน ได้ส่งตัวไปยังศูนย์ซักถาม ฉก.ทพ.43 ส่วน นายรอมือซี ได้ถูกส่งตัวศูนย์ซักถาม ขกท.สน.จชต. เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดและขยายผลว่าทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันหรือไม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลและสอบสวนเชิงลึก หลังได้มีการควบคุมตัวล่าสุด 3 คนไว้ได้ เพื่อหาหาว่าทั้ง 3 คนนี้ มีความเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ และหากมีความเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้หน่วยความมั่นคงจะดำเนินการตรวจสอบบทบาทของบุคคลที่มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยว่ามีลักษณะสนับสนุนหรือเอื้อประโยชน์ต่อการกระทำผิดหรือไม จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
Advertisement