(15 มิ.ย. 2568) เวลาประมาณ 16.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา กองกำกับการสืบสวน บก.ตม.6 บูรณาการกำลังร่วมกับ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 และสถานีตำรวจภูธรสะเดา จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ดังนี้
1. นายยูจีน ทาม อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย
2. นายตัน เยย อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย
ข้อหา ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร มีความผิดตาม มาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ ร่วมกันมีใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 6 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 พร้อมของกลางชุดอุปกรณ์เครื่องซิมบ๊อกพร้อมเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ต จำนวนรวม 8 ชุดและอุปกรณ์อื่นๆ รวมกว่า 46 รายการ
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถนนกาญจนวนิช พื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ต่อมาพบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า CX5 หมายเลขทะเบียน PPM90 ขับเข้าด่าน จึงเรียกให้หยุดแล้วตรวจสอบ โดยมี นายยูจีน ทาม อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย ขับขี่ นายตัน เยย อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย นั่งโดยสาร เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย
ผลการตรวจค้นพบเครื่องกระจายสัญญาณซิมบ๊อกซ์พร้อมเครื่องเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตแบบเสียบซิมการ์ด จำนวน 4 ชุด ขณะเดียวกันพบกุญแจพร้อมคีย์การ์ดของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สะเดา จึงนำตัวทั้งสองคนไปตรวจค้นเพิ่มเติม ผลการตรวจค้นพบ เครื่องกระจายสัญญาณซิมบ๊อกซ์ พร้อมเราท์เตอร์สำหรับต่ออินเตอร์เน็ต เพิ่มอีก จำนวน 4 ชุดและอุปกรณ์อื่นๆ อีกว่า 46 รายการ อยู่ในลักษณะกำลังเปิดใช้งาน เชื่อว่าเพิ่งมีการติดตั้ง
จากการตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นเครื่องวิทยุคมนาคม เชื่อว่าลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยการนำกล่องเครื่องขยายสัญญาณเสียงมาปิดบังอำพรางกันเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ การมีไว้ครอบครองต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และครอบครองเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ถูกจับให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นเพียงเครื่องเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานหลักฐานว่ามีการสั่งการจากคนสัญชาติเดียวกันให้หาจุดติดตั้งเครื่องซิมบ๊อกซ์ดังกล่าว ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับเครื่องซิมบ็อกซ์เป็นอุปกรณ์ที่กลุ่มแกงค์ขบวนการคอลเซนเตอร์ ใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตประเทศไทย แปลงสัญญาณโทรมาหลอกคนไทยเพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญลักษม์ ผบช.สตม. กล่าวว่า คดีนี้เป็นผลจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวและขบวนการลักลอบนำเข้าของผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเร่งรัดการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว รวมถึงการควบคุมพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยและมั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
Advertisement