ผัวโหด! บุกที่ทำงานเตะถีบ กระชากหัวเมียลากกับถนนเจ็บสาหัส
สาวร้อง ถูกผัวโหดกระชากหัวลากไปกับถนนกว่า 400 เมตร เจ็บสาหัส ขณะที่ผัวโต้ เมียแอบแซ่บกับเพื่อนร่วมงาน แต่ยังรักมาก อยากให้กลับมาเหมือนเดิม
จากกรณีเพจ “กำแพงเพชรร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” ได้โพสต์ถึงเรื่องของสาววัย 33 ปี ที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และลากไปกับถนนกว่า 400 เมตรจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมถึง “กันจอมพลัง” กลัวเรื่องของคดีความไม่คืบหน้า และขณะนี้สามีของตนก็ยังไม่ถูกจับดำเนินคดีโดยในเพจโพสต์ให้เข้าไปดูคลิปใต้โพสต์ซึ่งมีเนื้อหาข้อความว่า “กำแพงเพชรไม่แผ่วครั้งนี้เกิดขึ้นที่คลองขลุง...!!!ผู้บาดเจ็บร้องเพจกำแพงเพชรร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่ถูกไอ้เบิร์ดผัวโหดซ้อมจนน่วมไม่สะใจจิกหัวขี่มอเตอร์ไซค์ลากไปตามถนนกว่า 400 เมต รเหมือนไม่ใช่คนแจ้งความแล้วกว่า 1 เดือน อยากให้เพจช่วยตามคดี(#คลิปวิดีโอและรายละเอียดใต้โพสต์)#ผัวซ้อมเมีย#คลองขลุง#กำแพงเพชร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.วาสนา อายุ 33 ปี เล่าว่าหลังถูกสามีทำร้ายร่างกาย และขี่รถจักรยานยนต์ดึงเส้นผมลากไปกับถนนใกลกว่า 400 เมตร จนทำให้บาดเจ็บสาหัส ศีรษะเย็บ 3 เข็ม,เย็บหัวคิ้ว 3 เข็ม,กระดูกโหนกแก้มข้างซายร้าวและบาดแผลตามร่างกายจำนวนมาก โดยไดันำคลิปจากกล้องวงจรปิดให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งเหตุเกิดเหตุในวันที่ 24 เม.ย. 68 เวลา 15.30 น.ตนกำลังทำงานอยู่ได้มีปากเสียงกับ นายเบิร์ด (สามี) ซึ่งได้ทำร้ายเธอ โดยการเตะ ถีบตามตัว และใบหน้า พร้อมทั้งเดินไปหยิบไม้มาฟาด บริเวณลำตัวและศีรษะจนแตก และขว้างโทรศัพท์ของตนจนพังละเอียด ตนจึงได้วิ่งไปยืมโทรศัพท์ของเพื่อนร่วมงานมาโทรแจ้งตำรวจ แต่ยังไม่ทันได้แจ้ง จากนั้นสามีก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มากระชากผมของตน และพยายามจะให้ตนขึ้นรถไปด้วย ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าสามีจะนำตนไปไหนแต่ตนไม่ยอมขึ้นไป จนมีคลิปเหตุการณ์ดึกผมตนลากร่างไปกับพื้นถนนลูกรัง จนสุดท้ายตนได้ไปล้มลงครูดกับพื้นจนเท้ามีบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งสามีก็ได้วนรถจักรยานยนต์กลับมาชนตนเองที่นอนอยู่บนถนน โดยเหยียบเข้าที่บริเวณช่วงไหล่ และลากตนขึ้นรถขี่ไปไกลกว่า 2 กิโลเมตร ก่อนที่จะโทรตามให้กู้ภัยฯมารับไปส่งโรงพยายาลคลองขลุง และนอนรักษาตัวอยู่หนึ่งคืน ก่อนที่จะเข้าแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
หลังจากเกิดเหตุสามีของตนก็นำรูปตนเองมาโพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า “ผมขอโทษผมทุกอย่างเรื่องที่เกิดผมขอรับผิดเองไม่เกี่ยวกับแอมผมยอมรับผิดทุกอย่างต่อไปนี้ขอให้เวรกรรมและกฎหมายลงโทษผมด้วยเถอะไม่ต้องไปว่าแอมไม่มีคนผิดผมผิดเองผมรู้ผู้ชายพอใครจะด่าจะว่าเชิญครับ”
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไปเกือบจะ 1 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเรียกตัวสามีของตนมาดำเนินคดีได้ ซึ่งตนก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะสามีของตนมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และชอบทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้งเรื่องของพฤติกรรมชู้สาวของสามีซึ่งตนก็จับได้หลายครั้ง ตนจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่พม.กำแพงเพชร จนได้มีการทำเอกสารบันทึกข้อตกลงการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ระหว่างตนและสามีหากเกิดขึ้น อีกทั้งเรื่องของยาเสพติดหรือชู้สาวและการทำร้ายร่างกายก็จะยินยอมจดทะเบียนหย่าตามกฏหมายกัน ซึ่งตนเองมีลูกกับสามี 1 คนเป็นเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ ขณะนี้ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกคงจะไม่รอดอย่างแน่นอนซึ่งอยากจะขอหย่าขาดจากสามี แม้ว่าหนี้สินนับแสนบาทตนจะเป็นผู้รับผิดชอบก็ตามจึงอยากขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและฝากเรื่องไปถึง“กันจอมพลัง”ให้ช่วยประสานเรื่องคดีให้คืบหน้าด้วย เพราะตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปทำงานได้เพราะวันว่าสามีจะกลับไปทำร้ายตนที่ทำงานอีก
ล่าสุด นายเบิร์ด ผู้ก่อเหตุ สามีผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตนขอยอมรับผิดทั้งหมด โดยอ้างว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง น.ส.วาสนา เมีย ได้ด่าพ่อของต นก่อนจนตนต้องบุกมาที่ทำงานของเมียและเกิดการโต้เถียงกันและลงมือทำร้ายซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวตนยอมรับว่ามีการลงไม้ลงมือกันจริง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตนไม่ได้มีชู้ตามที่เมียกล่าวอ้าง ที่จริงแล้วเมียของตนเองเป็นฝ่ายที่เป็นคนมีชู้เอง ซึ่งตนก็จับได้หลายครั้ง มีหลักฐานทั้งคลิปและแชตที่คุยกับผู้ชาย รวมไปถึงตนเคยจับได้คาหนังคาเขาว่ามีความสัมพันธ์กับนายโฟมจริง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ตนมีความเป็นลูกผู้ชายพอทำผิดก็ยอมรับผิด ส่วนเงินที่ตนทำงานได้ทุกบาททุกสตางค์ตนก็ได้โอนให้กับเมียของตนเองมาโดยตลอด จนกระทั่งตนไม่มีเงินกินข้าว ยอมรับว่าตนเหลืออดตนอดทนในเรื่องดังกล่าวนี้ตลอดมาวันเกิดเหตุตนเกิดความโมโหจึงได้ก่อเหตุตามในคลิปที่ปรากฏ
ในส่วนของทางคดีตนได้เข้ามอบตัวแล้วและรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำในวันที่ 26 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ส่วนเรื่องการเสพยาตนยอมรับว่าก็มีบ้างที่ผ่านมาตนก็พยายามที่จะปรับความเข้าใจกับเมียอยู่หลายครั้ง อยากให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม เพราะตนมีลูกและรักลูก ซึ่งในขณะนี้ตนอยากขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าสังคมจะมองตนว่าเป็นหน้าตัวเมียที่ทำร้ายผู้หญิง
ส่วนเรื่องของการหย่าคงเป็นเรื่องที่ฝ่ายหญิงต้องการหย่าซึ่งตนก็ยังทำใจไม่ได้ยอมรับว่ายังรักเมียอยู่แต่หากเรื่องถึงที่สุดแล้ว ตนก็คงจะต้องปล่อยมือแยกทางกันไปซึ่ งตนก็ไม่เข้าใจว่าฝ่ายหญิงทำไมนำเรื่องดังกล่าวออกมาร้องกับสื่อและขอความช่วยเหลือจากพี่กันจอมพลังซึ่งสุดท้ายก็อยากให้สังคมฟังความจากฝั่งตนด้วย
Advertisement
