บิ๊กเต่า เผย บัญชีวัดไร่ขิงงอกเพิ่มเป็น 49 บัญชี เร่งสอบเงินตู้บริจาค
"บิ๊กเต่า" เผย บัญชีวัดไร่ขิงงอกเพิ่มเป็น 49 บัญชี มีเงินทำบุญ-บริจาคญาติโยมติดบัญชีหลักล้านต้นๆ เร่งตรวจสอบเงินตู้บริจาคเกือบ 200 ตู้เข้าบัญชีใดบ้าง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า วันนี้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินที่มารายได้ของวัดไร่ขิงทั้งหมด ตลอดจนบัญชีของวัดที่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้ ซึ่งได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารมาร่วมตรวจสอบด้วย ล่าสุดพบว่ามีบัญชีเพิ่มเติมจากที่เคยตรวจสอบพบแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตรวจสอบพบกว่า 20 บัญชี แต่วันนี้พบเพิ่มเป็น 49 บัญชี โดยจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ สตง. ปปช. และ ปปง. ติดตามเส้นทางการเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้น บัญชีที่ตรวจพบนั้น มียอดเงินคงค้างอยู่หลักล้านต้นๆ ส่วนบัญชีอื่นเป็นของวัดพบมีเงินติดบัญชีอยู่ แต่ยังไม่สามารถสรุปยอดเงินทั้งหมดได้ เพราะข้อมูลยังไม่นิ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบและสรุปว่าแต่ละบัญชีเหลือเงินอยู่เท่าไหร่ พร้อมยังยืนยันว่าพบบัญชีของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มีทั้งหมด 4 บัญชีเท่านั้นในขณะนี้
ส่วนเรื่องการตรวจสอบเงินที่เป็นเงินสด พบว่าเงินวัดที่เก็บเข้ามามีหลายส่วน เช่น การจัดงานบุญของวัด เงินทำบุญอาหารปลา ตู้บริจาค เรื่องการเช่าที่ธรณีสงฆ์ และการจำหน่ายวัตถุมงคล ซึ่งการตรวจสอบยังคงไม่สามารถทำให้เสร็จได้ในตอนนี้ แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะปักหลักทำการตรวจสอบอยู่ที่วัดไร่ขิงทุกวันหลังจากนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด
สำหรับรายละเอียดการสืบสวนยังเปิดเผยได้ไม่มาก เพราะแต่ละบัญชียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจาก 4 ธนาคารที่เชิญมาร่วมทำการตรวจสอบในวันนี้ โดยได้กำชับธนาคารให้ส่งข้อมูลมายังตำรวจสอบสวนกลางให้เร็วที่สุด โดยคาดการณ์ว่าอาจจะมีมากกว่า 49 บัญชี ซึ่งจะต้องแยกบัญชีที่เป็นส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสด้วย เพราะมีตัวเลขเงินที่ไปยืมจากผู้อื่นมา จนทำให้มียอดเงินยักยอกไป 300 ล้านบาท ซึ่งก็อาจมียอดเงินจำนวนอื่นที่เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย จึงจำเป็นต้องขอเวลาทำการตรวจสอบก่อน ด้วยการสืบสวนตอนนี้พระที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งให้ความโปร่งใสในการตรวจสอบทุกขั้นตอน
ส่วนเรื่องมาเฟียวัดไร่ขิงเป็นเรื่องที่อ้างกันขึ้นมาก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาทและมีอำนาจในช่วงที่อดีตเจ้าคุณแย้มดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งก็ทำการสืบสวนโดยละเอียดว่าในกลุ่มนี้มีใครบ้าง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้มีการสอบปากคำใคร เป็นแค่เพียงการเข้ามาตรวจสอบบัญชี และดูว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการเบิกจ่ายในวัดบ้าง ซึ่งได้มีการเชิญทั้งพระและฆราวาสที่เกี่ยวข้องกับการเบิกเงินในบัญชี 10 กว่าคนมาให้ข้อมูล ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนการเข้ามาของเจ้าหน้าที่วันนี้เป็นเข้ามาแก้ไขปัญหาการทุจริตเงินวัดไร่ขิงจะทำให้เป็นตัวอย่างว่ามีหน่วยงานไหนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้บ้าง หากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในวัดอื่นอีกก็จะใช้รูปแบบนี้ในการเข้าไปจัดการปัญหา
สุดท้ายนี้ฝากถึงประชาชนคำว่าหลวงพ่อวัดไร่ขิงกับเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นคนละคนกัน ซึ่งหลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมา จนกลายมาเป็นที่เคารพนับถือของพี่น้องประชาชน แต่เจ้าอาวาสที่มาเป็นพระและบริหารวัดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง วอนสังคมอย่านำ 2 ส่วนนี้ไปพูดรวมกัน เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคลใครกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนตู้เซฟที่มีการนำไปไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานนั้น ยังเปิดไม่ได้ อยู่ระหว่างการรอบริษัทตู้เซฟมาดำเนินการ
สำหรับตู้บริจาคที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป.เดินตรวจสอบทั่วบริเวณ มีทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งเงินแต่ละตู้จะมีการนำไปตรวจสอบว่าเข้าบัญชีวัดใดบ้าง
Advertisement
