ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อาคาร สตง.ถล่ม หลัง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำพยานหลักฐาน ไปยื่นขอศาลออกหมายจับ เมื่อศาลได้ทำการไต่สวนพยานหลักฐาน ล่าสุด ศาลออกหมายจับแล้ว
พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ยืนยันว่า ขณะศาลได้ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องที่กับตึก สตง.ถล่ม 17 คนแล้ว โดยหนึ่งในนั้นคือ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร และกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในความผิดตามมาตรา 227 และมาตรา 238 คือ ผู้ใดเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นนั้น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
ขณะนี้ บางส่วนติดต่อเข้ามาเพื่อขอเข้ามอบตัว แล้ว ซึ่งรายละเอียดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นผู้ให้ข้อมูล
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 17 คนที่ถูกออกหมายจับ ส่วนใหญ่เป็นกรรมการในบริษัทออกแบบ บริษัทควบคุมงาน และก่อสร้าง ซึ่งมีประมาณ 7-8 บริษัท ที่ยังไม่เคยมาให้ปากคำ และในส่วนของกลุ่มวิศวกรที่ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ มีส่วนหนึ่งที่พนักงานสอบสวนได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว้าใครจะเข้ามามอบตัววันไหน อยู่ระหว่างการติดตามตัว
สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 17ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 บริษัทผู้ออกแบบ
- บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประทศไทย) ทำสัญญาระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 1 ราย และมีกลุ่มวิศวกรผู้ลงนามในแบบแปลนซึ่งเป็นวิศวกรโครงสร้าง จำนวน 5 ราย
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
กลุ่มที่ 2 บริษัทผู้รับจ้างควบคุมการก่อสร้าง
กิจการร่วมการค้า PKW จำนวน 1 รายในฐานะส่วนตัว เนื่องจากเป็นผู้แทนลงนามในสัญญา ซึ่งทั้ง 3 บริษัท ตกลงยินยอมรับผิดร่วมกัน และ แทนกันต่อผู้ว่าจ้างในทุกกรณี
โดย 3 บริษัท ประกอบด้วย
1.บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด
2.บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
3.บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด
รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 5 ราย
กลุ่มที่ 3 บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง
1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนกินการร่วมค้าITD-CREC รวมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 6 ราย
โดยพยานหลักฐานที่ขอศาลออกหมายจับใสครั้งนี้ ทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง และมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคาร ไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้มีการส่งผลตรวจปูนซีเมนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ว่ามีมาตรฐาน ตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน ที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต ผลการตรวจปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีต ไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และ การตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บได้จากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่ เป็นไปตามแบบเช่นกัน
และ จากการตรวจลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า ตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน
สำหรับรายชื่อผู้ที่ถูกออกหมายจับ 17 รายประกอบด้วย
1.นายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี
2.นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี
3.นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี
4.นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี
5.นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี
6.นายอภิชาติ รักษา อายุ 38 ปี
7.นายปฏิวัติ ศิริไทย อายุ 53 ปี
8.นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี
9.นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี
10.นางปราณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี
11.นายสมชาย ทรัพย์เย็น อายุ 59 ปี
12. นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 71 ปี
13.นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 73 ปี
14.นายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี
15.นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี
16.นายอนุวัฒ คันษร อายุ 54 ปี
17.นายธิปัตย์ รัตนวงษา อายุ 43 ปี
Advertisement