วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ศาลจังหวัดธัญบุรีอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ “ฟ้า” จากกลุ่มราษฎรมูเตลู เเละนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues” นักร้องชื่อดังเป็น จำเลยที่ 1-2 ในความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เเละความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จากการปราศรัยและร้องเพลงหน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 เรียกร้องให้ศาลปล่อยตัว “นิว” สิริชัย นาถึง นักศึกษาธรรมศาสตร์ ซึ่งถูกจับกุมกลางดึกตามหมายจับในคดี 112
คดีนี้นาย พรหมศรจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในวันสุดท้ายของการสืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2566 ว่า นายพรหมศรมีความผิดตามมาตรา 112 และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 200 บาท ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ปรับ 100 บาท ไม่รอลงอาญา
ในส่วนนายไชยอมรที่ให้การปฏิเสธ ศาลพิพากษายกฟ้องข้อหามาตรา 112 เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 2 รู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำของจำเลยที่ 1 กับพวกหรือไม่ ส่วนข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษปรับจำนวน 200 บาท ส่วนข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสอง เนื่องจากในการสืบพยานได้ความว่า บริเวณสถานที่เกิดเหตุมิใช่สถานที่แออัดในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค และจำเลยทั้งสองไม่ใช่บุคคลผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดกิจกรรม
ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ โดยวันนี้จำเลยทั้งสองเดินทางมาศาล
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ว่า มีเหตุลงโทษจำเลยที่ 1 สถานเบาหรือไม่ เห็นว่าศาลชั้นต้น
ลงโทษจำเลยที่ 1 เหมาะสมแก่พฤติการณ์ในการกระทำความผิดแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ส่วนที่จำเลยที่ 1 ขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่าพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเป็นการแสดงออกถึงทัศนคติที่เป็นปรปักษ์ต่อสถาบันฯ หลักของปวงชนชาวไทยและสังคมไทย การกระทำจำเลยที่ 1 นับเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณียังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษให้จำเลยที่ 1
ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 โดยไม่รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นพ้องด้วย มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า จำเลยที่ 2กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ เห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังมีข้อสงสัยอันสมควรว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ในความผิดข้อหานี้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยที่ 2 ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดข้อหาร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้ามโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ให้ปรับจำเลยทั้งสองเป็นพินัยคนละ 200 บาทในความผิดฐานอื่นและนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวภายหลังมีคำพิพากษาว่าได้รับเเจ้งจากทีมทนายความที่ทำคดีบอกว่า นายพรหมศร ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างฎีกาเเล้ว คาดว่าใช้หลักทรัพย์เดิม
Advertisement