จากกรณีพลเมืองดีได้แจ้งข้อมูลต่อ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนี่ง ขอให้เข้ามาช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 4-5 ขวบ ที่แม่เด็กมักทิ้งลูกสาวไว้ที่ห้องเช่าคนเดียวเป็นประจำ โดยเหตุเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายใน ซ.รามอินทรา 127 เขตมีนบุรี กทม.
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 พ.ค. 68 น.ส.ชลิดา พร้อมด้วยเจ้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เดินทางไปยังหมู่บ้าน ตึก 60 เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเด็กคนดังกล่าว
โดยพบว่า ห้องพักดังกล่าวอยู่ภายในชั้นสอง ซึ่งทางเจ้าตำรวจและ น.ส.ชลิดา พยายามเคาะประตูเรียกบุคคลที่อยู่ภายในห้อง ปรากฏว่ามี น.ส.เอ นามสมมติอายุ 37 ปี ได้ออกมาเปิดประตู และแนะนำกับเจ้าที่ว่าตนเองเป็นแม่ของเด็กที่ปรากฏอยู่ในคลิป โดยพักอาศัยอาศัยอยู่กับลูกเพียงแค่สองคน ขณะนี้ลูกสาวกำลังนอนหลับอยู่
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้บอกกับ น.ส.เอว่าได้รับการร้องเรียนว่าเด็กอยู่ตามลำพังช่วงกลางคืน กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย
ซึ่ง น.ส.เอ ยืนยันว่า ตนเองดูแลลูกเป็นอย่างดี ซึ่งมีแค่บางวัน หากตนเองไม่อยู่ก็จะฝากพี่เลี้ยงไว้ โดยกลางวันจะทำงาน และกลางคืนก็จะดูแลลูก ถ้าวันไหนไม่อยู่หลายวันก็จะฝากคนที่รู้จักที่เขตหนองจอกดูแลให้ ส่วนใหญ่ตนเองเป็นโรคประจำตัวจะต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลเป็นประจำ และไม่สะดวกนำลูกไปด้วย จึงต้องให้ลูกอยู่ในห้องตามลำพังเป็นบางเวลาเท่านั้น โดยปกติแล้วลูกจะเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดแต่ช่วงนี้ปิดเทอมจึงนำลูกมาอยู่ด้วย
ขณะที่ นายวุฒิชัย จันทร์ไทย หัวหน้าชุด รปภ. กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีมีเสียงเด็กร้องไห้อยู่ภายในห้องเป็นประจำในช่วงกลางคืน เพราะแม่ของเด็กไม่อยู่ พอมาตรวจเสียงเด็กก็เงียบไป ตนเองก็ไม่กล้าที่จะเปิดประตูเข้าไป ส่วนใหญ่แม่ของเด็กจะอยู่กลางวัน หากวันไหนแม่ไม่อยู่เด็กก็จะร้องทั้งวันทั้งคืน
ถ้าวันไหนเด็กร้องไห้ ชาวบ้านบางคนก็จะเดินมาที่หน้าประตู และก็จะคอยปลอบกล่อมเด็กอยู่ภายนอกห้อง จนกระทั่งเสียงเด็กเงียบไปจึงได้เดินกลับห้อง ซึ่งตนเองก็สงสารเด็กเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นเด็กเล็กมาก อยากให้แม่ดูแลเด็กให้ดีกว่านี้
ด้านนางวันเพ็ญ อายุ 62 ปี แม่ขาร้านขายของชำที่อยู่ภายในตึกดังกล่าว กล่าวว่า ตนเองได้ยินเสียงร้องของเด็กเป็นประจำ ใจคอก็ไม่ค่อยรู้สึกดี เพราะแม่ของเด็กขังลูกไว้ภายในห้องตามลำพัง จึงได้ให้ รปภ. ไปเปิดประตู และช่วยเด็กออกมาจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งเมื่อเด็กออกมาแล้วตนเองก็จะนำมาอยู่ด้วยที่ห้องของตน และเด็กก็เหมือนจะบอกว่าแม่ทำงานๆ ก็จะคอยช่วยเลี้ยงดู จนกระทั่งรอให้แม่เด็กเลิกงาน และมารับลูกเขาไป โดยเด็กจะมีมือถือติดตัวอยู่หนึ่งเครื่อง เวลาแบตหมดเด็กหญิงร้องไห้ เหมือนกับว่ามือถือเครื่องนั้นเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เวลาที่แม่ไม่อยู่ สำหรับเด็กคนนี้เป็นคนที่น่ารัก พูดเพราะและเรียบร้อย จึงทำให้ตนเองนั้นเอ็นดูและรักเด็กคนนี้เช่นกัน
Advertisement