ศาลเลสเตอร์ เผยผลตัดสินคดีเฮลิคอปเตอร์เจ้าสัววิชัย คิงเพาเวอร์ ตก
ศาลเลสเตอร์ ตัดสินคดีเฮลิคอปเตอร์เจ้าสัววิชัย คิงเพาเวอร์ ตก พบตลับลูกปืนที่ใบพัดหางแตก บริษัทรู้เรื่องแต่ไม่แก้ไข
จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ เลโอนาร์โด AW169 เกิดอุบัติเหตุตกที่สนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อ 27 ตุลาคม 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย ได้แก่ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ , คุณนุสรา สุขหน้าไม้ , คุณกวีพร พรรณแพร รวมถึงนักบิน 2 คน คือ อิสซาเบลลา โรซา เลโควิช และ เอริก สวอฟเฟอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา 10 ม.ค.68 ครอบครัวของคุณวิชัย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอังกฤษ เรียกค่าเสียหายจากบริษัท “เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A.) บริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2,148 ล้านปอนด์ (ประมาณ 91,402,340,400 บาท)
ล่าสุดวันที่ 28 ม.ค.68 ศาลเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ มีคำตัดสินกรณีไต่สวนสาธารณะ อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่สนามคิงเพาเวอร์
โดยระบุว่า “พยานหลักฐานที่ถูกนำเสนอระหว่างการไต่สวน ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดทางวิศวกรรมของบริษัทเลโอนาร์โด พบสาเหตุว่าตลับลูกปืนที่ใบพัดหางของเครื่องเฮลิคอปเตอร์แตก ซึ่งเป็นเหตุทำให้ระบบใบพัดล้มเหลว และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นับว่าเป็นความบกพร่องของบริษัทเลโอนาร์โดตั้งแต่การออกแบบผลิตแล้ว ซึ่งไม่เคยได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
หลักฐานจากการไต่สวนชี้ว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเป็นเพียงการรอเวลาที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งทางบริษัทเลโอนาร์โดก็ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น จากการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์
ฟิลิป เชพเพิร์ด เคซี ตัวแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า การดัดแปลงการออกแบบเฮลิคอปเตอร์อย่างตรงไปตรงมา” ซึ่งเคยใช้กับเฮลิคอปเตอร์รุ่นเก่า อาจป้องกันไม่ให้เครื่องบินหมุนบนอากาศเร็วขึ้นหลังจากตลับลูกปืนยึดติด แต่ไม่ทราบเหตุผลใด บริษัทเลโอนาร์โดตัดสินใจที่จะไม่แก้ไขปัญหานี้
ซึ่งข้อสันนิษฐานของบริษัทเลโอนาร์โดถือว่ามีความคลาดเคลื่อนเช่นเดียวกัน โดยพบว่าตลับลูกปืน ซึ่งมีอายุการใช้งานกว่า 2,400 ชั่วโมง กลับชำรุดหลังจากเริ่มใช้งานปกติเพียง 330 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (AAIB) ยังค้นพบตลับลูกปืนอีก 3 ตัว ที่มีสภาพคล้ายคลึงกัน พบว่าใกล้จะพัง ซึ่งหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่คาดไว้มาก
Advertisement
