จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายสะอาด บุญลา อายุ 31 ปี ชาวตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ทำให้ทางญาติเกิดความเคลือบแคลงใจนำไปสู่การนำร่างของนายสะอาดผู้ตายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยผลชันสูตรสาเหตุของการตายสันนิษฐานว่าสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง ทำให้ทางครอบครัวของผู้ตายมั่นใจว่านายสะอาดถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
นายทองสุข แก้วรักษา อายุ 62 ปี พ่อของผู้ตายเปิดเผยว่า สาเหตุที่พาลูกชายเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากลูกชายมีอาการช็อคสั่น เพราะขาดเหล้า จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา รักษาอยู่เป็นเวลา 2 คืน หลังจากนั้นวันที่ 6 ธันวาคม 2567 เวลา 03.00 น.เจ้าหน้าที่ได้ย้ายลูกชายไปรักษาอีกตึกหนึ่ง เนื่องจากพยาบาลแจ้งว่าลูกชายมีอาการพูดคุยไม่รู้เรื่อง เมื่อไปถึงตึกมีแพทย์แจ้งให้ไปรอข้างนอก โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลจะจัดการกันเอง ในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 4 คนชาย 2 หญิง 2 อยู่ภายใน ต่อมาตนได้ยินเสียงร้องของลูกชายและพบว่าลูกชายถูกรุมทำร้าย แต่ไม่ทราบว่าด้วยวิธีใด หลังเกิดเหตุตนไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด แต่เมื่อพบหน้าของลูกชาย พบว่าบริเวณใบหน้าของลูกชายปูดบวม คิ้วแตก หน้าผากโหนก แก้มบวม ปากบวม ลูกชายร้องด้วยความเจ็บปวด แต่พ่อไม่ได้ทักท้วงอะไรคิดว่าจะไม่รุนแรงขนาดนี้
ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ลูกชายตนได้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรศัพท์ติดต่อ ตนไม่ทราบว่าใครและแจ้งว่าทำรุนแรงไปหน่อย และยังไม่มีการพูดคุยกับทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าลูกชายถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ตนยังติดใจที่ลูกชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตน อีกทั้งลูกชายตนเป็นเสาหลักของครอบครัว
ล่าสุดมีคลิปเหตุการณ์ก่อนที่นายสะอาด จะเสียชีวิต จะเห็นนายสะอาดพยายามเดินออกจากห้อง แล้วมีเจ้าหน้าที่ชาย 2 คนเข้ามาชาร์จตัว ดึงและเหวี่ยงลงไปกระแทกพื้น แล้วมีการชกต่อยไปที่ศีรษะผู้ตาย คนหนึ่งพยายามกดลงกับพื้น แล้วมีการใช้กุญแจมือพันธนาการ มีการชกเข้าไปที่ใบหน้า เบ้าตา หลายต่อหลายหมัด ก่อนจะมีพยาบาลหญิงเดินตามหลังมา ใช้เท้าเหยียบกดที่เท้าของผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เขาถีบ
ทำให้ พ่อทองสุข ถึงกับหลั่งน้ำตา เป็นอันชัดเจนแล้วว่า ลูกชายน่าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ นายกองตรี ธนกฤต ชี้ว่า ในทางกฎหมาย ต้องให้ตำรวจพิสูจน์กันไปว่า 4 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไร ทำแบบไหน ใครจะมีความผิดแบบไหน บอกได้แค่ว่า เรื่องนี้ล้างคุกรอได้เลย ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีทางดิ้นหลุดได้เลย เรื่องนี้ตนจะลงไปดูเอง
ขอบคุณข้อมูล:รายการโหนกระแส
Advertisement