เมื่อวันที่ 20 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานว่าครอบครัวลุงพล ป้าแต๋น เดินทางมาพักที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยช่วงเช้าป้าแต๋นได้พาน้องน้ำมนต์ ลูกชาย ลงมาเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรม โดยนำห่วงยางเป็ดซึ่งภรรยาหมอปลาซื้อให้ โดยป้าแต๋นได้นำมือถือถ่ายลูกขณะเล่นน้ำด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
จากนั้นช่วง 08.45 น. หมอปลาและภรรยา เดินทางมาที่โรงแรม และมารับครอบครัวลุงพล เพื่อมาเล่นน้ำทะเล ก่อนลงน้ำ ลุงพล ป้าแต๋น ได้ยืนโอบกอดกันให้สัมภาษณ์ ระบุว่า วันนี้ตนมีโอกาสพาลูก ๆ มาเที่ยวที่หาดชะอำ ซึ่งบรรยากาศดีมาก อีกอย่างเป็นครั้งแรกในชีวิตของลูก ๆ และเป็นครั้งแรกของลูกที่จะได้เล่นบานานาโบท
ทั้งนี้ตนเห็นลูกมีความสุข ลูกยิ้ม ตนก็มีความสุข ลูกตื่นเต้น ตนก็ตื่นเต้น อีกอย่างตนเองเห็นลูก ๆ ได้เรียนรู้ พ่อแม่ยิ่งตื่นเต้นมาก
โดยหมอปลาได้ให้ลุงพล และลูก ๆ พร้อมทีมข่าว เล่นบานานาโบท ซึ่งลุงพลกอดลูกคนโตและลูกคนเล็กด้วยความอบอุ่น
หลังจากเล่นน้ำทะเลเสร็จ หมอปลาได้เรียกลุงพลมาพูดคุย โดยระบุว่า เมื่อคืนนี้หลังจากเป็นข่าวเรื่องที่ลุงพลมาชะอำ ตนเห็นพวกชาวโซเชียลฯ บอกว่าลุงพลแอบมาคุยกับทนาย มาปรึกษาเรื่องคดีความที่นี่ ตนอยากจะบอกว่า “ทนายความ__สิครับ บ้าไหม” ตนเองแค่พามาพักผ่อน ไม่ได้มีการคุยเรื่องคดีความ หากจะปรึกษาทนายความจริงนั้น ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องมาถึง จ.เพชรบุรี
อย่างไรก็ตาม ตนแค่พามาพักผ่อนเท่านั้น ตนยืนยันมาตลอดว่าลุงพลคือผู้บริสุทธิ์ หากมีเรื่องคดีตนคงไม่เรียกลุงพลมาคุย มาปรึกษา ตนคงดำเนินการเอง หากหมายจับมาลงที่ลุงพล ตนไม่ปรึกษาอะไรทั้งนั้น อีกอย่างตนมั่นใจว่า “เจ้าหน้าที่คงไม่เอาน้ำลายคนมาเป็นหลักฐานได้หรอก ไม่เคยเจอประเทศไหน” อีกอย่างตนอยากพูดลอย ๆ ว่า ไม่ใช่ว่าคดีผ่านมา 100 วัน แล้วตำรวจจะมาเอาหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องหน้ารถยนต์ของใครบางคนไปตรวจ ตนอยากจะถามว่ามันจะเจออะไร เพราะมีข้อมูลจากวงในว่า ตำรวจมาเอากล้องหน้ารถน้าเสริมไป
หลังจากเล่นน้ำเสร็จ ภรรยาหมอปลา ได้เตรียมกุ้งย่าง ปลาหมึกย่าง อาหารทะเล จากนั้นก็เดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์ พระบรมราชานุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ 7 พระองค์
ทีมข่าวเดินทางมาถึงอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านจากเกาะล้านที่เดินทางมาเที่ยว และทราบข่าวว่าลุงพลกำลังจะมาถึง จึงรอเพื่อมาขอถ่ายรูปประมาณ 30 คน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ เข้ามาขอลุงพล ป้าแต๋น และหมอปลา ถ่ายรูปด้วยความเป็นกันเอง
โดยลุงพล ครอบครัว ได้นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง กราบบูชาพระมหากษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ นอกจากนี้หมอปลายังได้ให้ลุงพลและครอบครัว กราบพระบาท สักการะบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าทีละพระองค์ จนครบทั้ง 7 พระองค์
หมอปลา ลุงพล ป้าแต๋น ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า สถานที่แห่งนี้ตนตั้งใจอยากให้ลุงพลเดินทางมา เพราะเป็นสุสานที่มหามงคลที่อยากให้มากราบสักการะ เพื่อจะได้บูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อวานก็ไปไหว้เกี่ยวกับศาสนาแล้ว วันนี้ก็ได้ไหว้สถาบันพระมหากษัตริย์ ตนเสียดายที่ลุงพลมาไม่ได้หลายวัน เพราะลุงพลต้องมีหน้าที่ทั้งที่บ้าน ทั้งคนที่มาหาที่บ้าน หลังจากนี้ก็ค่อยว่ากันใหม่
ลุงพลก็บอกว่าตนเองก็สบายใจที่ได้มากราบสักบูรพมหากษตริย์ของไทย ซึ่งถือเป็นพระองค์ที่ยิ่งใหญมาก
หมอปลาก็ยืนยันว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้มีนัยอะไรพิเศษเกี่ยวกับคดี ตนยังมั่นใจว่าหมายศาล หมายจับจะไม่มาที่ลุงพล หากวันหนึ่งหมายมาจริง ตนเองก็พร้อมจะช่วย ตำรวจเก่ง ๆ หวังว่าจะไม่ใช้น้ำลายของชาวบ้านมาจับคน ตนยังยืนยันหมายจับไม่ต้องกลัว แต่หมายหัวมีเต็มไปหมด อยากให้จำไว้ว่า ลุงพลป้าแต๋นไม่ได้ไปเยี่ยวรดหัวใคร พวกนักเลงโซเชียลฯ อย่าไปสนใจ และขอให้มาด่าตนแทน ตนเองมีปากสู้ แต่ป้าแต๋น ลุงพลไม่เถียงไม่ตอบโต้
ในช่วงนี้หมอปลาถามลุงพลว่า ถูกอะไรเย็บปากไว้ ซึ่งลุงพลก็ตอบว่า “สติครับ” โดยหมอปลาแซวตัวเองว่า แสดงว่าตนเองไม่มีสติ หมอปลายืนยัน ตนเองไม่ได้รักลุงพล แต่ตนกำลังปกป้องคนดี เพราะไม่รู้อะไร ๆ ก็มาลงที่ลุงพล อีกอย่างบางคน บางเพจ ที่ตั้งคำถามว่า ลุงพลไปสร้างคุณงามความดีอะไรถึงมีคนช่วยเหลือ ตนเองจะบอกว่า ลุงพลไม่ได้สร้างคุณงามอะไร เพียงลุงพลเป็นคนดีที่ถูกรังแก คนที่มาช่วยก็ไม่เคยเอาภาษีประชาชนมาช่วยเหลือ เขามาด้วยใจ มีความเมตตา มีความรักมาช่วย ดังนั้นคนที่ตั้งข้อสังเกตแบบนี้จะเดือดร้อนอะไร หรือพ่อแม่พวกคุณขายที่ดินมาช่วยลุงพลหรือไม่ หรือขาดความอบอุ่น
อีกทั้งลุงพลไม่เคยมาเรียกร้องอะไร แต่ลุงพลได้รับจากความเต็มใจของคนที่ต้องการมาช่วยเหลือ ลุงพลคือคนดีของประเทศ ถึงแม้ไม่ได้สร้างอะไรให้กับชาติ แต่ลุงพลเป็นคนที่ช่วยเหลือคนมาตลอด คนที่โพสต์ถาม ตนเองอยากถามกลับว่าแล้วคุณทำอะไรเพื่อประเทศ หรือคนที่ไปสร้างคุณงามความดีมา คุณเรียกร้องอะไรจากรัฐบ้าง ซึ่งลุงพลไม่เคยเรียกร้อง
อย่างไรก็ตาม ลุงพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองขอพรให้ครอบครัวมีความสุข เป็นพรเดิม ๆ ที่ขอ ตนเองฝากถึงคนทำความดี คือทำดีไม่ต้องเดี๋ยว จิตอาสามันอยู่ที่ใจ
ช่วงท้ายการสัมภาษณ์ทีมข่าวสังเกตลุงพล ได้มีอาการตาแดง คล้ายจะร้องไห้ ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถาม ลุงพล ระบุว่า ตนเองมาสถานที่แห่งนี้ ตนคิดว่าคนอื่น ๆ เจออะไรมาเยอะ แต่ตนเองเจออะไรในชีวิตมาแค่นิดเดียว ทำให้ตนเองรู้สึกน้ำตาซึม
จากนั้นหมอปลา ได้เข้ามาระบุว่า ตอนนี้ตนยังไม่มีแผนจะไปที่บ้านกกกอก แต่หากมีใครที่พยายามใส่ร้ายครอบครัวลุงพล ตนสามารถเดินทางไปได้ตลอด เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน ซึ่งลุงพลเกิดอาการน้ำตาคลอ กอดน้องน้ำมนตร์อยู่ตลอด หมอปลาย้ำว่าลุงพลเป็นคนที่อธิบายทุกข้อสงสัย จะชวนไปสาบานที่ไหนก็ไป ”ขอให้เลิกคิดอกุศลกับครอบครัวลุงพล” พวกโซเชียลฯ ก็ให้หยุด ลุงพลไม่เคยขอ ไม่เหมือนใครบางคนบางกลุ่ม แต่คนเขาเมตตาลุงพล เพราะลุงพลเจอคนดูถูกมา การกราบพระบาทขององค์บูรพกษัตริย์ ตนแค่อยากให้ลุงพลมากราบ เพราะตนนับถือองค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ว่าคือครูบาอาจารย์ของตนที่อยู่เหนือหัว
ลุงพล ระบุว่า ความรู้สึกของตัวเองคิดว่าต้องได้มาอีก มันบอกไม่ถูก จากนั้นลุงพลเกิดสะอื้นออกมา หันไปกอดลูกชายคนเล็ก ก่อนจะบอกว่ารู้สึกตื้นตัน หมอปลาได้ถามลุงพลว่าวันหนึ่งเคยคิดไหมว่าจะมีคนมาช่วยเหลือ ลุงพลได้ตอบว่า ตนไม่เคยคิดว่าผู้ชายธรรมดา จะมีคนมาให้กำลังใจ ส่วนใหญ่คนที่มาให้กำลังใจก็คงคิดว่าความจริงคือความจริง ตนบรรยายไม่หมด ตนไม่คิดว่าจะได้รับสิ่งดี ๆ
หมอปลาระบุว่า “ลุงพลอาจไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ เป็นแค่ผู้ชายเดินดิน แต่สังคมเมตตาผู้ชายคนนี้มาก เพราะไม่เคยให้ร้ายใคร แม้แต่ตัวเองถูกใส่ร้าย ทำให้คนรักผู้ชายคนนี้” ตนเองเชื่อว่าลุงพลมีเรื่องอีกมากที่อยากจะพูด แต่เลือกที่จะไม่พูด เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียหาย ทำให้เลือกที่จะเก็บ เลือกที่จะไม่พูด ซึ่งต่างจากตนหากด่ามาตนจะด่ากลับ ลุงพลไม่อยากเอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วใส่คนอื่น ทำให้ลุงพลเลือกจะไม่พูด ตนถึงย้ำว่าอย่าไปด่าว่าลุงพลเลย เพราะลุงพลไม่เคยเหยียบหัวใคร
นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ก.ย.63 ที่ลุงพลจะไปขึ้นคอนเสิร์ต หมอปลาได้ประกาศกับลุงพลตรงนี้ว่า ลุงพลจะกลับมาทำอาชีพเดิม คือขายไก่ย่าง น่าจะเปลี่ยนชื่อจาก ”ไก่ย่างนายพล” เป็น ”ไก่ย่างลุงพล ป้าแต๋น กกกอก” ใครที่เมตตาลุงพลก็ขอให้ไปอุดหนุนได้ ลุงพลไม่เคยลืมกำพืดของตัวเอง ลุงพลได้ยกมือไหว้ของคุณหมอปลา ที่ได้มอบความสุขให้กับครอบครัวตน รวมทั้งตนก็ไม่กลัวดราม่า เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ดี ใครจะดราม่า ไม่ต้องไปลงที่ลุงพล แผนทุกอย่างตนเองเป็นคนคิด หากจะดราม่าให้มาด่าตน และตนจะด่ากลับ
Advertisement