จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอการสนทนา ขณะคนขับแท็กซี่ที่ขับรถมาจอดที่บริเวณ BTS แพรกษา อ้าว่ามีเจ้าถิ่นรายหนึ่ง หรือ วินเถื่อน ไม่อนุญาตให้จอด และเข้ามาเรียกเก็บค่าจอดรถ แต่ผู้เสียหายปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน จึงมีปากเสียงกัน ถึงขั้นกระชากเสื้อ
ล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย.63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เพื่อพูดคุยกับ นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 08.30 น. ตนขับรถแท็กซี่มาจากคลองด่าน และวิ่งชิดซ้ายมา กระทั่งตนขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ และเลี้ยวเข้าจอด บริเวณใต้สะพานลอยที่ BTS แพรกษา
ขณะนั้นมีผู้ชายสวมเสื้อสีฟ้าเดินเข้ามา และสั่งห้ามตนจอดรถบิเวณดังกล่าว พร้อมกับอ้างว่า เป็นสมาคมที่มาดูแลพื้นที่ และอนุญาตให้จอดได้เฉพาะผู้ที่เสียเงินค่าที่จอดรถเท่านั้น ก่อนจะเรียกผู้ชายสวมเสื้อสีดำอีกคนเข้ามาพูดคุย ส่วนคนอื่น ๆ ก็ยืนมองในระยะใกล้ ๆ
ทั้งนี้นายสมชาย ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าจอดรถ และกล่าวว่า จะไปแจ้งตำรวจ ก่อนจะหยุดถ่ายคลิปวิดีโอ หลังจากที่หยุดถ่ายคลิปวิดีโอ คู่กรณีเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีดำได้เอื้อมมือเข้ามากระชากคอเสื้อและแขน เพื่อที่จะให้ลบคลิปที่ถ่ายเหตุการณ์ไว้ นายสมชาย จึงพยายามขัดขืน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายต่อ และขณะนี้นายสมชาย กำลังขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบีทีเอสสถานีดังกล่าว
หลังจากนั้นตนได้ขับรถไปที่สถานีตำรวจ และพาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ แต่คู่กรณีเหลือเพียงผู้ชายสวมเสื้อสีดำ และไม่ยอมรับว่าว่าได้ทำอะไรกับตน ก่อนหน้านี้ตนเคยทราบมาจากกลุ่มแท็กซี่ด้วยกันว่า พื้นที่บริเวณนี้มีวินเถื่อนเรียกเก็บเงินเดือนละ 1,000-2,000 บาท
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ตนจะไม่ยอมความแน่นอน และจะดำเนินการตามกฎหมายกับคู่กรณี เพราะตนเกรงว่าหากปล่อยให้เป็นคดีเล็ก ๆ คู่กรณีจะถูกปรับไม่กี่บาท และพอหลุดออกมาได้จะย้อนกลับมาทำร้ายตน ส่วนคู่กรณี ตนไม่ต้องการคำขอโทษ และฝากบอกผ่านสื่อว่า “เงินที่รีดไถ่จากคนอื่นมา ให้เก็บไว้ใช้ ตอนถูกดำเนินคดี และตอนที่ถูกจับเข้าคุก”
ในระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เสียหาย และคู่กรณีมาเจรจากันในห้องสอบสวน โดยผู้เสียหายมีท่าทีไม่พอใจ และพยายามสอบถามว่า มีการตั้งวินเถื่อนจริงหรือไม่ และพูดด้วยความโมโหว่า ทำไมถึงเงียบ ไม่เหมือนตอนที่มาเรียกเก็บเงิน แต่คู่กรณีทั้งสองคนมีสีหน้าเศร้า และกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการเก็บเงิน
ทีมข่าวพูดคุยกับ นายชัยณรงค์ งามเนตรแท้ ชายที่สวมใส่เสื้อสีฟ้าปรากฏในคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะที่เกิดเรื่องตนพยายามบอกให้ผู้เสียหายไปจอดรถที่ด้านหน้า เพราะฝั่งนี้กลุ่มของตนจอดรถเต็มแล้ว และเกรงว่ารถจะติดได้ แต่ผู้เสียหายไม่เข้าใจจึงเกิดเรื่องตามในคลิป
ทั้งนี้เพื่อน ๆ ของตนสร้างกลุ่มแท็กซี่ขึ้นมา เพื่อนำเงินที่เรี่ยไรมาให้เพื่อนอีกคนที่ไม่ได้วิ่งรถ และต้องเสียสละตัวเองมาโบกรถให้เพื่อน ๆ เพราะที่จอดรถหน้าห้างสรรพสินค้า มีไม่เพียงพอสำหรับรถของทุกคน โดยจะเก็บเงินจากเพื่อน ๆ ในกลุ่ม วันละ 20 บาท รวมกันได้วันละประมาณ 200 บาท ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ตนจะไม่เรียกเก็บเงิน อีกทั้งเลขที่แปะอยู่หน้ารถนั้น ตนกับเพื่อน ๆ ติดกันเอง เพื่อให้รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน
นอกจากนี้นายศุภนัส มั่นเจริญ ชายที่สวมใส่เสื้อสีดำปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนกำลังจะอธิบายว่าจอดรถได้ และต้องไปจอดให้เป็นระเบียบ แต่ผู้เสียหายไม่ยอม จากนั้นตนจึงพยายามจะพูดไกล่เกลี่ยว่าให้ใจเย็น ๆ และได้ทำท่าโบกมือทั้งสองข้างอยู่ข้างหน้า แต่ผู้เสียหายกลับเข้าใจผิด และกล่าวหาว่า ตนไปกระชากคอเสื้อ
ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เพราะถ้าทำร้ายต้องมีบาดแผล และตนทำร้ายไม่ลง เพราะประกอบอาชีพเดียวกัน และตนไม่ได้จัดตั้งสมาคม แต่ติดสติกเกอร์ให้รู้ว่าเป็นทีมงานเดียวกันเฉย ๆ เพื่อช่วยกันโบกรถไม่ให้การจราจรติดขัด และเป็นการพบปะสังสรรค์กันในกลุ่มเพื่อน โดยทุกคนจะเรียกเก็บเงินเพื่อน ๆ คนละ 10-20 บาท และเก็บเงินได้เพียง 4-5 วัน เพื่อเป็นค่าเครื่องดื่มชูกำลัง แต่หลังจากนี้กลุ่มของตนคงจะไม่มีการเก็บเงินอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะกล่าวขอโทษกับผู้เสียหาย เพราะอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่ตนกำลังจะสื่อ แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกเก็บเงิน หรือจ่ายส่วยให้ใคร
Advertisement