จับ จ.ส.อ.ยิงแม่ค้าออนไลน์โยนศพทิ้งน้ำ ปมคบหามีปากเสียง แม่สาวแฉซาดิสม์ใส่กุญแจมือตบตี (คลิป)
วันที่ 28 เม.ย. 63 ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลีคลายคดี เดินทางมาสอบปากคำ จ.ส.อ.กิตติศักดิ์ เครือทอง หรือ หวาน อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยมีนายทหารพระธรรมนูญและทหารความของผู้ต้องหาเดินทางนำตัวเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้เสียชีวิตจริง และขอให้การชั้นศาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะเอาผิดผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งถือเป็นคดีสะเทือนขวัญของประชาชนเป็นอย่างมาก
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 61 พบศพลอยน้ำอยู่กลางคลอง ศพมีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนเหนือคิวซ้ายทะลุท้ายทอยขวา ใส่เสื้อแขนยาวสีเทา ที่นิ้วกลางและนิ้วนางข้างซ้ายใส่แหวนทอง ที่มือข้างขวาใส่แหวนพระ ซึ่งทั้งแหวนและเสื้อผ้าที่สวมใส่ นำมาสู่การตรวจสอบจนพบว่าเป็นนางสาวเพ็ญนภา
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยจากการสืบสวนพบว่า จ.ส.อ.กิตติศักดิ์ ทหารสังกัดกรมแผนที่ทหาร เป็นผู้ต้องสงสัยและมีหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
นางบัวเรียน ภูมิลักษ์ อายุ 54 ปี แม่ของนางสาวเพ็ญนภา บุญหนัก หรือ หนิง ที่ถูกฆ่าเสียชีวิตยัดถุงดำทิ้งข้างคลอง ที่ จ.อ่างทอง เมื่อปี 2561 เล่าความรู้สึกถึงการเสียชีวิตของลูกสาวว่า จนถึงขณะนี้ยังทำใจไม่ได้เมื่อได้ยินข่าว เมื่อได้รับโทรศัพท์จากตำรวจที่จ.อ่างทอง ว่าได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ เชื่อว่าตำรวจทำงานเต็มที่แล้ว และผู้ต้องหาที่แท้จริงก็คือลูกเขยคนนี้แน่นอน
ทั้งนี้ ลูกสาวตนกับผู้ก่อเหตุอยู่กินฉันสามีภรรยามาร่วมหลายปี มีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ จนหลายครั้งน้องหนิงโทรศัพท์มาเล่าให้ตนฟังเสมอว่าถูกสามีทำร้าย ตนก็บอกไปว่าให้ไปบอกข้างบ้านก่อน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 61 ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวและคุยกันอยู่สักพักสายก็ตัดไป จากนั้นก็ติดต่อกลับไม่ได้ กระทั่งลูกสาวหายไปและพบว่าเป็นศพถูกยัดอยู่ในถุงดำ ห่างจากบ้านของลูกเขยเพียง 5 กิโลเมตรใน จ.สิงห์บุรี
ตอนนั้นสภาพศพเปลือยยุ่ยหมดแล้ว ไม่สามารถบอกรูปพรรณลักษณะบุคคลได้ ตำรวจจึงได้ตรวจหาดีเอ็นเอ จึงทราบว่าเป็นศพของลูกสาวจริง ส่วนอีกหลักฐานที่เชื่อมโยงก็คือแหวนทองที่ลูกสวมใส่
Advertisement
