โจ๋แฉอาสาตำรวจบุกวิวาทนอกเขตหวังรีดไถ รอง ผกก.รับเป็นลูกน้องช่วยจับแว้น (คลิป)
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก" อยากดังเดี๋ยวจัดให้" โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะมีอาสาตำรวจ จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจยึดรถของวัยรุ่นที่จอดรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ โดยที่วัยรุ่นอ้างว่าไม่ได้มีความผิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภายในคลิป อาสาตำรวจยึดกุญแจรถของวัยรุ่น ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะเริ่มมีปากเสียงกัน เนื่องจากวัยรุ่นเจ้าของรถไม่ยินยอม เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพียงจอดรถไว้เท่านั้น
วันที่ 21 เม.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณตลาดแกรนด์ไนท์พลาซ่า อยุธยา ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
นายพีระ เอี่ยมสำอางค์ หรือ เต้ย อายุ 26 ปี ผู้โพสต์คลิป เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 19 เม.ย. 63 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่น้องชายของตนเองรอตนเองเพื่อที่จะพูดคุยธุระกัน อยู่บริเวณหน้าตลาดแกรนด์ ซอย 2 มีอาสาตำรวจ ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คัน คันละ 2 คน รวม 4 คน เข้ามาหาน้องชายของตน พูดจาหยาบคาย ผลักน้องชายของตนเอง พร้อมพูดข่มขู่ บังคับขอตรวจค้นรถ โดยอ้างว่าเป็นตำรวจ ทั้งที่ไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน ก่อนจะพยามดึงกุญแจรถจักรยานยนต์ของน้องชาย กระทั่งตนเดินมาถ่ายคลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ตนคิดว่าไม่น่าจะต้องทำพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อหวังเงินขนาดนั้น เพราะบางทีช่วงกลางดึก คนเลิกงานดึก ๆ ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน รถไม่มีกระจก ก็ยังโดนอาสาพวกนี้จับรีดทรัพย์ การกระทำของอาสาตำรวจไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นเพียงอาสาตำรวจ ไม่มึสิทธิ์หรืออำนาจตามกฎหมายในการจะมาขอตรวจยึดตรวจค้นประชาชน เสมือนเป็นการรีดไถทรัพย์
ทั้งนี้ ตนเองก็เคยโดนอาสากลุ่มดังกล่าวขับรถปาดหน้า และพยายามรีดทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง จะเรียกเงิน 1,000 บาท บางครั้งก็เขียนใบสั่ง บางครั้งก็ไม่เขียน ในข้อหาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งตนเองเคยถามว่าทำไมถึงมาไล่จับต่างเขตพื้นที่ได้ อาสาก็บอกว่า "สามารถจับหรือขอตรวจค้นได้หมดทุกที่" ตนเองจึงคิดว่าไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากให้เบา ๆ พฤติกรรมลงหน่อย เพราะตั้งแต่ช่วงเคอร์ฟิว มีมาทุกคืนเลย ประชาชนเงินก็ยิ่งไม่ค่อยจะมี โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยดูแลในส่วนนี้หน่อย เพราะชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ด้านนายขจรพงศ์ สาททอง อายุ19ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเองและน้องชายขี่รถจักรยานยนต์มารอพี่ชาย คือนายพีระที่บริเวณจุดเกิดเหตุ มีอาสา 4 คน ทำท่าเหมือนจะถีบน้องชายของตนเอง ทั้งที่พวกตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มียาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย ตนเองจึงตรงเข้าไปล็อกคอของอาสาที่เหมือนจะถีบน้องของตนเอง และพูดว่า "พี่จะทำอะไร พวกผมไม่ได้ทำไรผิด พวกผมไม่หนีไปไหน ทำไมไม่คุยกันดี ๆ"
แต่อาสามาแย่งกุญแจรถที่เสียบอยู่ เหมือนว่าจะยึดรถ ตนเองจึงไม่ยอม และเข้าไปแย่งกุญแจรถของตนเองคืน ซึ่งหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องมีการขอดูทะเบียน ขออนุญาตทำการตรวจสอบตรวจค้น แต่นี่มาถึงก็จะจับไปเลย พวกของตนเองก็เลยต้องขัดขืน
หากจะผิดก็ผิดที่รถของตนเองไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่หากคุยกับตนเองดี ๆ ตนเองก็คิดว่าน่าจะดีกว่านี้ เพราะเดือนที่แล้วตนเองก็เสียค่าปรับไป3,000 บาทแล้ว ตนเองก็รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เวลาขี่รถจักรยานยต์ก็ต้องระแวง กลัวจะถูกอาสาไล่จับอย่างไม่มีเหตุผล เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเพื่อนของตนเองก็เคยถูกอาสาไล่จับ ถูกถีบรถจนรถล้มเสียหาย ได้รับบาดเจ็บมาแล้ว
พ.ต.ท.พีรณัฐ งามเลิศรัตนชัย รองผกก.ป. สภ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า อาสาในคลิปดังกล่าวเป็นอาสาของ สภ.พระนครศรีอยุธยา จริง ได้รับการฝึกฝนผ่านการอบรมให้ช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขั้นตอนการปฎิบัติ อาสาตำรวจจะออกปฎิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ไม่ใช่ให้ออกไปปฎิบัติงานเพียงแค่อาสาเท่านั้น
เหตุการณ์ดังกล่าว สอบถามอาสาที่อยู่ภายในคลิปทราบว่า วันเกิดเหตุได้ร้บแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มีท่อไอเสียเสียงดัง ขับขี่รบกวนชาวบ้าน จึงได้ออกลาดตระเวนพร้อมอาสาตำรวจ เมื่อไปถึง กลุ่มรถจักรยานต์หลบหนี จึงมีการไล่ติดตามกัน กระทั่งไปพบอยู่บริเวณหน้าตลาดแกรนด์ ซอย 2 จึงเข้าตรวจค้น แต่วัยรุ่นเจ้าของรถไม่ยินยอมจึงมีปากเสียงกัน ที่เห็นอาสาตำรวจดึงกุญแจรถนั้น เป็นเพราะอาสาเห็นว่าวัยรุ่นมีพฤติกรรมจะหลบหนี
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ตั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมีคำสั่งให้อาสาพักงานชั่วคราว นอกจากนี้ อยากให้ประชาชนมองทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตำรวจก็พยายามทำเต็มที่ เพื่อความสงบสุขของประชาชน
Advertisement
