คนสนิท เผย นาทีสมาน กลับมาหาที่อ่างทอง ร้องไห้ตลอดเวลา
คนสนิท เผยนาที สมาน กลับมาตั้งหลักที่อ่างทอง ร้องไห้ตลอดเวลา ขณะที่ญาติ เชื่อไม่มีเจตนาหนี แค่กลับไปตั้งหลัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 2 ต.ค.67 คืบหน้าคดีอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับส่งนักเรียนทัศนศึกษา ทำให้มีนักเรียนและครูเสียชีวิต รวม 23 ราย เมื่อช่วงเวลาบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ได้นำตัว นายสมาน อายุ 48 ปี คนขับรถบัสคันเกิดเหตุ ไปฝากขังศาล
ซึ่งก่อนจะคุมตัวไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายสมานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายสมาน ยืนยันว่าก่อนออกรถมีการตรวจเช็กสภาพรถแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่ได้กลิ่นไหม้เลย เมื่อถามว่าก่อนไฟลุกไหม้ได้เกิดอุบัติเหตุรถไปเฉี่ยวชนอะไรหรือไม่ นายสมานไม่ได้ตอบประเด็นนี้ และยืนยันว่าหลังเกิดเหตุก็พยายามจะช่วยดับไฟ แต่ช่วยไม่ทันเพราะไฟลุกเร็วมาก
ยอมรับว่าตกใจจึงหนีไปบ้านญาติที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แต่ไม่ได้คิดจะหลบหนี แค่อยากไปตั้งหลักเฉย ๆ และส่วนตัวก็รู้สึกผิดและอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกน้อยใจ เพราะตนไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นี้ และสาเหตุที่ประตูด้านหลังเปิดไม่ได้เป็นเพราะเปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วจึงทำอะไรไม่ได้เลย
ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายสมบูรณ์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นคนสนิทที่นายสมาน กลับไปหาที่จังหวัดอ่างทอง หลังเกิดอุบัติเหตุ และประสานให้นายสมาน เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ เมื่อวานนี้
เปิดเผยกับทีมข่าวว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุ นายสมาน ได้เดินทางกลับมาที่จังหวัดอ่างทองและเดินเท้ามาที่บ้านของตน ซึ่งตัวนายสมานเองนั้นร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลาเพราะช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายสมาน เองก็ไม่เคยประสบประสบอุบัติเหตุและมีคนเสียชีวิตมากถึงขนาดนี้
ซึ่งตัวนายสมานเองในระหว่างการเดินทางกลับมาที่จังหวัดอ่างทองไม่มีโทรศัพท์ติดตัว คาดว่าโทรศัพท์น่าจะติดอยู่ในรถที่ประสบอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อใครได้เลย ซึ่งตัวนายสมานนั้นก็อยากประสานไปหาทางเจ้าของบริษัทรถบัส เพื่อจะปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี แต่ไม่สามารถที่จะติดต่อไปได้ ตนอยากให้สังคมเข้าใจนายสมานว่าไม่ได้มีเจตนาในการหลบหนี เพียงแต่นายสมานนั้นช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกลับมาปรึกษากับคนสนิทว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งตนก็เป็นคนประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คูคต และ สภ.วิเศษชัยชาญ ให้นายสมานคนขับรถบัสเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้รู้จักกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการส่วนตัว เพราะก็เป็นแค่ชาวบ้านตาดำๆเท่านั้น
ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวของนายสมาน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ทีมข่าวได้พบกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ของนายสมาน
.jpg)
ทั้งคู่เล่าว่านายสมาน อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีตั้งแต่เกิด จากนั้นพ่อแม่เสียชีวิต ก่อนที่นายสมานจะไปอยู่กับภรรยาในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ตอนวัยรุ่นนายสมาน เป็นเด็กรถดูแลและล้างรถประจำรถบัส ที่จังหวัดอ่างทอง นานๆจะกลับมาบ้านเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี
ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานรู้สึกตกใจหลังทราบข่าวว่า น้องชาย นายสมาน เป็นคนขับรถบัสคันดังกล่าวที่เกิดไฟไหม้ พอทราบเรื่องจึงพยายามโทรหานายสมาน แต่เจ้าตัวไม่ได้รับโทรศัพท์ จากนั้นจึงโทรหาเพื่อนสนิทของนายสมาน ซึ่งเป็นคนขับรถด้วยกันชื่อนายวิฑูรย์
โดยนายวิฑูรย์ ได้รับสาย จึงถามว่านายสมานอยู่ด้วยหรือไม่ นายวิฑูรย์ตอบว่า ตอนนี้สมานอยู่กับผม ก่อนกดตัดสาย จากนั้นจึงโทรศัพท์หาเพื่อนของน้องชายอีกหนึ่งคน จึงได้รับข้อมูลว่านายสมาน จะเข้ามอบตัวช่วงค่ำวานนี้ที่อ่างทอง
สำหรับ กรณีที่นายสมานถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลังเกิดเหตุหายตัวไป ทางพี่ชายและพี่สะใภ้มอง เห็นจากในคลิป น้องพยายามหาถังดับเพลิงเพื่อดับเพลิงที่ลุกไหม้ แต่จากนั้นคุมสถานการณ์ไม่ได้ คาดว่าด้วยความตกใจ จึงหนีไปตั้งหลัก ก่อนเดินทางเข้ามอบตัว เชื่อว่าไม่มีเจตนาหลบหนี
Advertisement
