เด้ง 5 ตำรวจน้ำ เซ่นปมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนหาย 3 แสนลิตร โดยให้ขาดจากต้นสังกัด มีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ความคืบหน้ากรณีที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) รายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ ซึ่งบรรจุน้ำมันรวมกว่า 3.3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย.67 ) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เจ้าหน้าตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าหาข้อเท็จจริง เรือบรรทุกน้ำมันหาย 3 ลำ ณ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยใช้เวลาประชุมนานเกือบ 3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยหลังการประชุม ว่า หลังจากสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำชุดที่เข้าเวร พบว่ามีการปฏิบัติหน้ายังไม่สมบูรณ์ ตามหน้าที่ไม่ครบถ้วน หรือพูดง่าย ๆว่า ไม่ทำหน้าที่ จนทำให้เกิดความเสียหาย จำนวน 2-3 คน โดยจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสืบสวน ของ ปปป. คู่ขนานไปกับตำรวจน้ำ ซึ่ง ปป.จะทำการสืบสวนเมื่อพบความผิดก็จะแจ้งข้อหา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สมบูรณ์ถือว่าเข้าข่าย 157 พร้อมจะมีขยายผลและไม่หยุดดำเนินคดีเพียงแค่นี้ อีกทั้งจะเร่งตามทรัพย์สินกลับคืนมา
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนิน 157 ไม่รวมถึง นายตำรวจทั้ง 5 นาย ที่มีการออกคำสั่งให้ช่วยราชการ และจะมีการสอบสวนทั้ง 5 นายว่าใครที่ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้วหรือไมจากนี้จะมีการทำหนังสือเรียกลูกเรือทั้ง 17 คน เข้ามารายงานตัวและสอบปากคำลูกเรือทุกคน ในวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนนี้ ที่ ปอศ. และเจ้าหน้าชุดสืบสวนของกองปราบอยู่หว่างการสกรีนรูปภาพจากกล้องวงจรปิดว่ามีลูกเรือคนไหนอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง ทั้งนี้เชื่อว่าลูกเรือทั้ง 17 คน ไปกับเรือทั้ง 3 ลำ แค่จะมีลูกเรือกี่คนที่ไปกำกับเรือ แต่จะมีกี่คน ขณะนี้อยู่ในขั้นการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ามีในช่วงเย็นก่อนเรือจะหายลูกเรือมีการขนของในช่วงเย็น โดยในส่วนตรงนี้จะมีการออกหมายจับลูกเรือในชุดแรก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวนทางเทคนิคและใต้ดิน ซึ่งทางใต้ดินมีความเชื่อมโยงว่าเรือทั้ง 3 ลำจะข้ามน่านน้ำไทย และเรือทั้ง 3 ลำไม่มีการติด gps และดาวเทียมอย่างแน่นอน เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการวางแผนเอาไว้และมีการนำเครื่องมืออื่นมาใส่ในการให้เรือเดินเรือแทน อีกทั้งอาจจะมีการเดินเรือด้วยการยิงดาวเทียมเอสไว้ก่อน โดยจะเร่งออกหมายจับให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิด เกิดจากเจ้าหน้าตำรวจน้ำทำงานบกพร่อง
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า สำหรับคดีน้ำมันนี้เป็นคดีของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตอนน้้นที่เราจับกุมเรามีข้อมูลว่าเอามาจากไหน จะเอาไปที่ไหน ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่ ซึ่งตอนจับกุมอยู่บริเวณน่านน้ำสากล พฤติกรรมนั้นจะรับน้ำมันจากเรือใหญ่ แล้วนำเข้าหลายจุดในอ่าวไทย เช่น เพชรบุรี สมุทรสาคร และทางตอนใต้ ส่วนจะมีพัวพันคนชื่อโจ้ไหมขออยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของตำรวจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวร รายงานมายังสารวัตรตำรวจน้ำสัตหีบว่าเกิดเหตุการคลื่นลมแรง จึงขออนุญาตนำเรือออกไปลอยลำทอดสมอ ห่างจากสะพาน 100 เมตร เพื่อป้องกันสะพานและเรือน้ำมันของการได้รับความเสียหายจากคลื่นลมแรง ในช่วงเย็นของวันที่ 8 มิถุนายน 2567
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. 13 มิ.ย. 2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เซ็นคำสั่งลงนามในหนังสือคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 131/2567 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. จำนวน 5 นาย ย้ายมาช่วยราชการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ศปก.บช.ก. โดยให้ขาดจากต้นสังกัด มีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
Advertisement