หนึ่งปีมีครั้งเดียว นอนแช่น้ำว่าน 3 วัน 3 คืน กินข้าวเหนียวดำ เชื่ออยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า

หนึ่งปีมีครั้งเดียว นอนแช่น้ำว่าน 3 วัน 3 คืน พิธีกรรมไสยศาสตร์การแพทย์และความเชื่อของชายชาตรีเรื่องอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า สุดยอดวิชาสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง

ที่สำนักเขาอ้อหรือวัดเขาอ้อในปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้มีการจัดพิธีบุญบูรพาจารย์สำนักเขาอ้อประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 15–17 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีพิธีกรรมแช่น้ำว่านสมุนไพร 108 ชนิด ตำรับเขาอ้อ พิธีหุงข้าวเหนียวดำและป้อนข้าวเหนียวดำตำรับเขาอ้อ เป็นการนำเครื่องยาสมุนไพรหรือว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 108 ชนิด และพิธีการสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา

สำหรับงานพิธีบุญบูรพาจารย์สำนักเขาอ้อเป็นหนึ่งในพิธีที่ได้รับความสนใจจากลูกผู้ชายชาตรีทั่วประเทศแห่สมัครจำนวนมาก แต่วัดสามารถรับได้เพียง 12 คน คือพิธีกรรมแช่น้ำว่านสมุนไพร 108 ชนิด เป็นพิธีกรรมไสยศาสตร์การแพทย์และความเชื่อสำหรับชายชาตรีกับความอยู่ยงคงกะพันฟันแทงไม่เข้า โดยใช้เวลานอนแช่น้ำว่าน 3 วัน 3 คืน การนอนแช่ว่านยาเพื่อเป็นการสร้างความขลังให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธีศาสตร์ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาสำนักเขาอ้อ มีพระเจกิอาจารย์สายเขาอ้อร่วมทำพิธีปลุกเสกสร้างความกล้าแข็ง สร้างความขลัง และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สำหรับพิธีกรรมดังกล่าวเป็นที่จัดขึ้นปีละครั้งและมีที่เดียวในประเทศไทย

วัดเขาอ้อ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของผู้คนที่ใจทางด้านไสยเวท แพทย์แผนไทย และไสยศาสตร์การปลุกเสก ลงอักขระ เลขยันต์ และอื่นๆ มีอดีตเกจิอาจารย์ดังสายเขาอ้อ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ทองเฒ่า อาจารย์ปาน อาจารย์เอียด อาจารย์นำ ได้ศึกษาเรียนรู้สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สำหรับพิธีกรรมที่สำคัญเป็นที่นิยมของศิษย์วัดเขาอ้อและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและรอคอยที่จะเข้าร่วมกิจกรรมปีละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพิธีหุงข้าวเหนียวดำ พิธีปลุกเสกน้ำมันงา และพิธีกรรมด้านแช่ว่านยา 108 ชนิด

แม้ว่าขั้นตอนการเข้าพิธีแช่ว่านยาจะยุ่งยากละเอียดอ่อน ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่เหลื่อมใสในวิชาไสยศาสตร์ของวัดเขาอ้อก็อยากจะแช่ว่านยาสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเชื่อว่าผู้ที่ผ่านพิธีกรรมแช่ว่านยาตามหลักวิชาของวัดเขาอ้อแล้ว จะทำให้บุคคลนั้นมีตบะและมีอำนาจอย่างเสือ มีความอดทนอย่างหมี มีความเข้มแข็งแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงสามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และมีความเชื่อว่าผู้ที่แช่ว่านยาวัดเขาอ้อติดต่อกันถึง 3 ครั้งขึ้นไปจะทำให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพันต่ออาวุธทุกชนิด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการแช่ว่านยาทุกคนจะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด จะต้องปฏิบัติตนเป็นคนดี ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น ห้ามกินอาหารที่มีชื่อไม่เป็นมงคล หากไม่ปฏิบัติจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสียและจะต้องเข้าทำพิธีแช่ว่านยาใหม่ด้วย

นอกจากนั้น พิธีที่ทำควบคู่กันคือพิธีกินข้าวเหนียวดำที่ได้รับการปลุกเสกพิธีกรรมไสยศาสตร์แบบโบราณ สานุศิษย์วัดเขาอ้อกว่า 3,000 คน ได้ร่วมพิธีกินข้าวเหนียวดำตามความเชื่อ พิธีหุงข้าวเหนียวดำหมายถึงการนำเครื่องยาสมุนไพรหรือว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 108 ชนิด มาผสมกันแล้วต้มเอาน้ำยามาใช้หุงข้าวเหนียวดำ เมื่อถึงเวลาฤกษ์กินข้าวเหนียวดำสานุศิษย์จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นนุ่งด้วยผ้าขาวม้าโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อ แล้วเข้าไปกราบพระอาจารย์ผู้ประกอบพิธี 3 ครั้ง เสร็จแล้วพระอาจารย์จะให้นั่งชันเข่าบนหนังเสือเท้าทั้งสองเหยียบบนเหล็กกล้าหรือเหล็กเพชรปิดศีรษะด้วยหนังหมี มือทั้งสองวางบนหลังเท้าของตัวเอง พระอาจารย์ใช้มือซ้ายกดมือทั้งสองไว้พร้อมกับภาวนาพระคาถา ส่วนมือขวาปั้นข้าวเหนียวดำเป็นก้อนป้อนให้ศิษย์ครั้งละ 1 ก้อนแล้วปล่อยมือศิษย์ที่กดไว้บนหลังเท้ามือทั้งสองของศิษย์ จะลูบขึ้นไปตั้งแต่หลังเท้าจนทั่วตัวจดใบหน้า การลูบขึ้นนี้เรียกว่าการปลุก เสร็จแล้วลูบลงเอามือทั้งสองไปวางไว้บนหลังเท้าเช่นเดิม

สำหรับผู้ที่ไม่เคยกินอาจกลืนลำบาก เนื่องจากว่าข้าวเหนียวมีรสขมมาก บางคนป้อนก้อนแรกถึงกับอาเจียนออกมาก็มีแ ต่ถ้ากลืนก้อนแรกจนหมดได้ก้อนต่อไปจะไม่มีปัญหา ซึ่งพระอาจารย์จะป้อนจนครบ 3 ก้อนด้วยกันในแต่ละครั้งจะลูบขึ้นลูบลงเช่นเดียวกับครั้งแรก แต่ครั้งที่ 3 นั้นเมื่อศิษย์กินข้าวเหนียวหมดแล้ว พระอาจารย์จะใช้มือซ้ายกดมือทั้งสองไว้ที่เดิม หัวแม่มือขวาสะกดสะดือศิษย์ทำทักษิณาวัตร 3 รอบ พร้อมกับภาวนาพระคาถาไปด้วยเป็นการผูกอาคม สำหรับคุณค่าของการกินข้าวเหนียวดำมีความเชื่อกันว่าใครกินได้ถึง 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรีเป็นมหานิยมที่สำคัญ ว่ากันว่ายังเป็นยาแก้โรคปวดหลังปวดเอวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

นายอนันต์ มณีประสิทธ์ ประธานกรรมการวัดเขาอ้อบอกว่าจัดงานมา 3 วัน มีผู้มีจิตศรัทธาสายมูกว่า 3,000 คน นับว่ามีมากกว่าปีที่แล้ว สำหรับชายชาตรีที่เข้าร่วมแช่ว่านในปีนี้ก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 12 คน สาเหตุที่มีจำนวนน้อยเพราะอ่างแช่เล็ก และสิ่งที่สำคัญทางวัดต้องการเพียงจำกัดเนื่องจากไม่อยากให้มีมากจนขาดความขลังความศรัทธา ในปัจจุบันผู้ที่สมัครเข้าแช่ว่านต้องมีค่าใช้จ่ายคนละ 25,000 บาทไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่มีสมุนไพรหาง่ายโดยเฉพาะบนเขาอ้อ แต่ปัจจุบันต้องจ้างคนที่มีความชำนาญทางด้านสมุนไพรและสั่งมาจากจังหวัดใกล้เคียง และปัญหาที่พบคืออยู่ในเขตอนุรักษ์ต้องมีหนังสือขออนุญาต ส่วนข้าวเหนียวดำเป็นที่ต้องการของผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมากทั้งหญิงและชายปีที่ผ่านมาหุงจำนวน 20 กก.แต่ปีนี้ต้องการให้เพียงพอจึงหุง 50 กก. ทั้งนี้กระแสโซเชียลมาแรงจึงมีผู้มีจิตศรัทธามาจากทุกสารทิศพร้อมยืนยันว่าเป็นพิธีกรรมแห่งเดียวของประเทศไทยที่สืบทอกกันมายาวนานกว่า 800 ปี

คอนเทนต์แนะนำ

ชื่นมื่น! “ทักษิณ” ร่วมงานฉลองมงคลสมรส “เอก-ป๊อบ”

ปฏิทินวันพระเดือนมีนาคม 2568 วันพระมีนาคม 2568

สมัครสอบท้องถิ่น 68 วันแรก 7 มี.ค. ตรวจสอบวุฒิ ตำแหน่งที่เปิดสอบ