แชตเหี้ยมลวงฆ่าโชเฟอร์ชิงรถแลก 2 หมื่น เมียโต้เป็นนกต่อคลิปดันโผล่ (คลิป)

กรณีนางเกศยุคนธ์ โพธิ์มาศ หรือ หมู อายุ 50 ปี ขับแกร็บคาร์ มีลูกค้าเรียกไปรับจากแฟลตปลาทองรังสิต มาส่งย่านบางบัวทอง นนทบุรี แล้วขาดการติดต่อ สามีแจ้งตำรวจติดตามเส้นทางจากแอปฯ พบผู้ต้องสังสัยเป็นหนุ่มวัย 21 ปี เรียกตัวมาสอบ จนรับสารภาพฆ่ารัดคอมัดมือ ชิงรถไปขาย นำศพทิ้งในซอยวัดท่าเกวียนปากเกร็ด แล้วกลับไปนอนที่ห้อง ทราบชื่อคนก่อเหตุ คือนายวีระณัฐภูมิ คำสุยะ หรือ อู๋ อายุ 21 ปี

วันที่ 16 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ข้อมูลจากพันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง เปิดเผยถึงพฤติการณ์การก่อเหตุของนายวีระณัฐภูมิ ว่าผู้ต้องหาได้ออกอุบายทำทีเรียกรถโดยสารแกร็บคาร์ ผ่านทางแอปพลิเคชันจากแฟลตปลาทอง ย่านรังสิต เพื่อให้มาส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี

แต่ทางเจ้าหน้าที่ของแอปพลิเคชันแกร็บได้ติดต่อว่าจะส่งคนขับรถเป็นผู้ชาย ก่อนที่ผู้ต้องหาจะปฏิเสธคนขับรถที่เป็นผู้ชาย เพราะให้เหตุผลว่าจะให้มารับแฟนสาว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ทางแกร็บจึงส่งนางเกศยุคนธ์ ผู้ตายมารับแทน แต่เมื่อมาถึงแฟลตปลาทองนาย วีระณัฐภูมิ ผู้ต้องหา ขึ้นรถเพียงลำพัง โดยที่ไม่มีแฟนสาวขึ้นรถมาด้วยตามที่กล่าวอ้าง

จากนั้น ผู้เสียชีวิตก็ได้ขับรถพาผู้ต้องหามาจนถึงหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านโครงการสมบัติบุรี อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนที่ผู้ต้องหาจะลงมือก่อเหตุ โดยใช้เชือกรัดคอจากด้านหลังบอกคนขับ จนนางเกศยุคนธ์เสียชีวิต ในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 14 ม.ค. จากนั้นผู้ต้องหาจึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปไว้ที่เบาะด้านหลัง ก่อนจะนำไปทิ้งไว้ในป่าข้างทางบริเวณวัดท่าเกวียน ก่อนจะนำรถยนต์ที่ผู้เสียชีวิตขับไปรับ ไปขายต่อที่ย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร ซึ่งขณะที่นำรถไปขายนั้นมีนางสาวมิน เป็นแฟนสาวของผู้ต้องหานั่งรถไปด้วย

จากการสอบปากคำนางสาวมินให้การว่าระหว่างที่แฟนหนุ่มพาตนนั่งรถคันดังกล่าวไปจนถึง จ.สมุทรสาครนั้น ได้บอกกับตนว่าเป็นรถของพ่อที่จะนำไปขาย จนถึงวานนี้ทางผู้ต้องหาได้โอนเงินมาให้นางสาวมินจำนวน 25,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินของพ่อให้นำมามอบให้ จากนั้นทางชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรบางบัวทองจึงได้ลงพื้นที่ จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ แฟลตปลาทองรังสิตจนสอบปากคำ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยนำรถไปขายเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย จากการสอบประวัติ นายวีระณัฐภูมิ ไม่พบว่าเคยก่อคดีหรือมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด แต่ผลจากการสอบปากคำนางสาวมินให้การว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด แต่ไม่เคยถูกตำรวจจับกุม

นอกจากนี้ ตำรวจได้เชิญตัวผู้ที่ซื้อรถของกลางคันดังกล่าวมาสอบสวนเบื้องต้น จะถูกตำรวจแจ้งความในข้อหารับซื้อของโจร แต่ในส่วนนางสาวมินนั้นจากการสอบสวนยังไม่พบพฤติการณ์การกระทำความผิดเป็นเพียงบุคคลที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ว่าให้ผู้ตายขับรถไปรับที่แฟลตปลาทองย่านรังสิตเพียงเท่านั้น

กล้องวงจรปิด ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี คาดว่าจุดดังกล่าวเป็นช่วงที่คนร้ายล่อลอวงผู้ตายมาส่ง ก่อนจอดรถติดเครื่องไว้เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง 20 นาทีโดยประมาณ เชื่อว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่คนร้ายลงมือสังหารผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมภายในรถ

เวลา 10.01 น. จับภาพรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า วิช สีเทา ของผู้ตาย ขับผ่านมนหมู่บ้าน ขับมาจอดบริเวณหน้ารถกระบะสีดำ เป็นพื้นที่ถนนทางเข้าหมู่บ้าน โดยไม่มีใครเดินขึ้น-ลงรถ เวลา 12.19 น. รถยนต์ของผู้ตายขับออกจากจุดที่จอดไปอย่างปกติ คาดว่าเป็นช่วงที่คนร้ายขับรถออกไปทิ้งศพ

ต่อมากล้องวงจรปิด ภายในซอยวัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เวลา 14.14 น. รถผู้ตายขับผ่านกล้องวงจรปิด โดยมีผู้ต้องหาขับไปทิ้งศพ กระทั่งเวลา 14.19 น. กล้องวงจรปิดจับภาพรถของผู้ตายขับมาจอดที่ร้านค้า ห่างจากจุดประมาณ 500 เมตร โดยคนขับที่ลงจสกรถเพียงคนเดียว คือนายวีระณัฐภูมิเดินเข้าร้านค้าไป ซื้อของอย่างใจเย็น ก่อนจะขับรถออกไป

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหคุพบว่าเป็นป่ารก มีหญิาขึ้นสูง ไม่มีกล้องวงจรปิด โดยถนนด้านหน้าเป็นถนน 2 เลนสวนกัน เวลา 17.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง ครอบครัวผู้ตายได้เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทองด้วย

ขณะที่ตำรวจคุมตัว นายวีระณัฐภูมิ คำสุยะ หรือ อู๋ พร้อมนางสาวปนัดดา โรมรัมย์ หรือ มิน แฟนสาว ขึ้นไปสอบสวน กับรองผู้การฯ ภาค 1 และผู้การนนทบุรี ผู้ก่อเหตุได้กล่าวว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำลงไปเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ เพราะก่อนที่จะก่อเหตุเสพยาเสพติดมาเยอะ จึงพลั้งมือฆ่าผู้ตาย อยากได้เงินมาใช้ อยากขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ส่วนนางสาวปนัดดาก็ร้องไห้ และอ้างว่า "หนูไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนูโดนหลอกอยากขอโทษครอบครัวคนตายเช่นกัน"

ทีมข่าวได้ภาพจากสตอรี่ของแฟนสาวผู้ก่อเหตุ ลงสตอรี่ขณะกำลังจะขับรถไปขาย นอกจากนี้ มีภาพกินไก่ทอดขณะที่แฟนสาวลงภาพสำคัญ คือสลิปที่แฟนหนุ่มโอนเงินมาให้ จำนวน 25,000 บาท โดยระบุว่า "รับคำขอโทษเป็นเงินสด" ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว เป็นเงินจาการขายรถของผู้ตาย

นอกจากนี้ มีแชตสนทนาวันที่ 13 ม.ค. 66 ของศูนย์ที่รับงานจากผู้โดยสาร โดยเป็นแชตไลน์ที่คุยกับผู้ต้องหา 3 ภาพ ผู้ต้องหาระบุขอคนขับเป็นผู้หญิง ทางศูนย์จึงส่งภาพผู้ตายพร้อมรถไปให้

ขณะที่แชตของของศูนย์ที่รับงานจากผู้โดยสาร วันที่ 13 ม.ค. 66 คุยกับผู้ตาย มีการยืนยันจุดรับส่ง และยังมีการคุยว่าลูกค้าเป็นผู้หญิงคนเดียว ก่อนที่ก่อนเกิดเหตุ เวลา 11.04 น. ผู้ตายส่งข้อความไปหาศูนย์บอกว่าลูกค้ายังอยู่ในรถ รอผู้หญิงมาชำระเงิน

นางสาวบัว อายุ 21 ปี ลูกสาวของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 แม่ของตนเองรับงานจากลูกค้าไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง กระทั่งแม่หายผิดสังเกต จึงไปเช็กคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับมือถือของแม่ พบว่าสัญญาณมือถือของแม่หายไป สิ้นสุดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่สัญญาณจะหายไป พ่อได้ติดต่อคุยกับแม่ครั้งสุดท้ายประมาณ 11.00 น. โดยแม่บอกกับพ่อว่ากำลังรอลูกค้ามาจ่ายเงิน หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อ จึงเริ่มออกตามหาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 14 ม.ค. 66

แม่เพิ่งหันมาประกอบอาชีพนี้ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ได้เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น ทุกครั้งที่แม่รับผู้โดยสาร หากเป็นผู้โดยสารผู้หญิง แม่จะสบายใจ หากเป็นผู้ชายจะมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิงด้วย เหตุการณ์นี้ตพอแม่ทราบว่าลูกค้าเป็นผู้หญิง แม่ก็รู้สึกปลอดภัย และไม่กังวลอันตราย โดยไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วผู้โดนสารเป็นผู้ชาย

ตนยังคาใจว่าผู้ก่อเหตุทำเพียงคนเดียวหรือมีผู้รู้เห็นร่วมมือหรือไม่ และอยากถามคนร้ายว่าทำแม่ทำไม แม่เป็นคนดี ขออะไรเขาก็ให้ ทำไมต้องทำแม่ถึงขนาดนี้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากขอร้องให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก

นางสาวเอ (นามสมมติ) วัย 45 ปี บุคคลที่รับซื้อรถของผู้ตาย บอกว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 66 ช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้ติดต่อซื้อรถยนต์จากเพื่อนสนิทเพื่อจะนำไปใช้ส่วนตัว แจ้งว่าเป็นกลุ่มรับซื้อรถยนต์จากที่หลุดจำนำ โดยได้ติดต่อผ่านเพื่อนอีกคน มีการนัดรับรถยนต์ ที่ปั๊มแห่งหนึ่งย่าน เอกชัย-บางบอน ซึ่งระหว่างที่รับรถมีการตกลงกับทางผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้นำเอกสารคู่มือรถ พร้อมทั้งเลขตัวถัง ก็ตรงกันจึงไม่เกิดข้อสงสัย และยังมีราคาถูกจึงไม่ได้สงสัย และอยากซื้อรถทันที

แต่สงสัยพฤติกรรมของนายวีระณัฐภูมิคือยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ในหลืบ และมารับเงินสดจำนวน 25,000 บาท โดยไม่ได้นับเงิน มีท่าทีรีบร้อน และยังไม่นำของหลังรถออก ตนเองจึงทักท้วง นายวีระณัฐภูมิจึงนำออกไปภายหลัง เป็นถุงพลาสติก ทั้งนี้ ตนเองตกลงค่ารถ จำนวน 40,000 บาท จ่ายเงินสดให้นายวีระณัฐภูมิจำนวน 25,000 บาท และยังโอนให้นายหน้าอีกจำนวน 15,000 บาท

ส่วนตัวได้ขับรถไปใช้คืนวันที่ 15 ม.ค. 66 เพื่อนยังทักว่ารถสวย แต่เช้าวันนี้ขณะที่กำลังขับรถออกจากบ้านไปใช้งานก็ถูกตำรวจเรียกตรวจสอบ จึงทราบว่ารถคันนี้เป็นรถที่มีคนถูกฆาตกรรม ยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ ไม่รู้จักนายวีระณัฐภูมิมาก่อน

ด้านนายกุ้ง (นามสมมติ) พ่อค้าที่ขายน้ำให้คนก่อเหตุ บอกว่า คนก่อเหตุมีท่าทีปกติเป็นอย่างมาก ลงรถมาคนเดียว โดยมีท่าทีใจเย็นมาก

คนร้ายมาซื้อบุหรี่ 1 ซอง และน้ำอัดลม 1 ขวด ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไป โดยไม่มีท่าทีรีบร้อน ไม่ทราบเลยว่าก่อเหตุอะไรมา โดยตนเองมาทราบภายหลังว่าคนร้ายก่อเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยอมรับว่าตกใจมาก

นางสาวขวัญ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่เลี้ยงของนาสาวปนัดดา บอกว่า เมื่อวานนี้นางสาวปนัดดาได้ซื้อไก่ทอดมาให้พ่อกินช่วงค่ำ ส่วนตัวเองกลับมาที่ห้องเช่าเวลา 20.00 น. ก็ไม่เจอกับลูกสาวแล้ว โดยยังไม่ทราบว่าไปไหน มาทราบว่าลูกสาวถูกคุมตัวมาที่โรงพักช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมทันที แต่ยังไม่ได้เจอหน้ากับลูกสาว ลูกสาวเพิ่งคบกับคนก่อเหตุได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น เคยพามาแนะนำให้รู้จัก เท่าที่เห็นก็เป็นคนนิสัยดี ส่วนลูกสาวเองก็เช่นกันไม่เคยก่อเหตุแบบนี้มาก่อน

พอทราบพฤติการณ์การก่อเหตุของแฟนลูกสาวแล้วมองว่าค่อนข้างโหดร้ายเป็นอย่างมาก และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้หากตำรวจให้ประกันตัวก็คงจะประกันตัวเพราะเชื่อว่าลูกสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อยากจะบอกให้ทั้งคู่กลับตัวกลับใจเป็นคนดีหากสังคมให้โอกาส หลังจากนี้หากลูกสาวพ้นคดีแล้ว ก็จะไม่ให้คบหากับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป ส่วนตัวไม่เคยติดต่อกับพ่อแม่ของฝ่ายชาย เพราะลูกสาวเพิ่งจะคบหากับฝ่ายชายเพียง 2 เดือน