Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สายชาร์จมหาภัย! หนุ่มวิศวะผงะชาร์จมือถือเจอดูดเงินนับแสน กูรูยันเรื่องจริงกลโกงใหม่มิจฉาชีพ (คลิป)

สายชาร์จมหาภัย! หนุ่มวิศวะผงะชาร์จมือถือเจอดูดเงินนับแสน กูรูยันเรื่องจริงกลโกงใหม่มิจฉาชีพ (คลิป)

15 ม.ค. 66
18:29 น.
แชร์

จากกรณีที่มีผู้เสียหาย​หลายราย เผยข้อมูลผ่านโซเชียลฯ ว่าจู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็โอนเงินออกเอง​ เสียหายมูลค่าหลักแสนบาท

775707

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่มาพูดคุยกับ นายวิษณุสรรค์​ สามป๊อก​ อายุ​ 26 ปี​ หนุ่มวิศวไฟฟ้า​ ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง เล่าให้ทีมข่าวทั้งน้ำตาคลอ​ว่า ตนทำงานมาได้ครึ่งปีและเก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคารดังกล่าว​ โดยอดทน​ตั้งใจทำงาน​ใช้ชีวิตแบบมัธยัสถ์สุด ๆ​ มีจนมีเงินเก็บ 101,560.00 บาท​

213576

นายวิษณุสรรค์​ เล่าต่อว่า คือวันที่ 7 ม.ค. 66 ตนนอนเล่นเกมจนข้ามคืนไปถึงตี​ 2 ของวันที่​ 8 ม.ค.​ จากนั้น เห็นว่าโทรศัพท์แบตจะหมด จึงได้ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือเอาไว้​แล้วก็นอนหลับไปปกติ พอตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่ได้ไปหยิบไปจับโทรศัพท์ดังกล่าวเนื่องจากตนเองนั้นมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง เครื่องที่เกิดเหตุเป็นระบบ Android เอาไว้เล่นเกม​ ส่วนเครื่องที่ใช้สื่อสารคือระบบ​ ios จึงใช้แต่โทรศัพท์มือถือ​ ios และไม่ได้ไปจับมือถือเครื่องที่เกิดเหตุเลย​จน​ช่วงบ่ายโมง​ จนมาสังเกตเห็นหน้าจอมือถือ​ปลดล็อกเองได้ พอไปจับดูที่โทรศัพท์มือถือปรากฏว่าเครื่องรวน​หน้าช็อต​ ๆ​ และเห็นข้อความส่งเข้ามาว่า ได้โอนเงินไปจำนวน 1 ​แสน​ 1 พันกว่าบาท

ซึ่งระบุข้อมูลว่า ได้โอนเงินไปในช่วงเวลา 11.52 น. ซึ่งช่วงเวลานั้นตนยังไม่ได้จับโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้เลย ตอนแรกตนเองยังแทบไม่เชื่อจึงลองกดเข้าไปตรวจสอบในแอพพลิเคชั่นของธนาคารอีกครั้งปรากฏว่า เงินในบัญชีถูกโอนออกไปหมดเกลี้ยงจึงเข้าไปดูข้อมูลในแอพพลิเคชั่นก็จะเห็นว่าเป็นการโอนเงินไปให้ปลายทาง​ มีชื่อและนามสกุลของคนที่โอนไปด้วย​ ยืนยันในวันนั้นตนไม่ได้จับโทรศัพท์มือถือ ทำธุรกรรมหรือเล่นเกมหรือทำอะไรทั้งนั้น​ อยู่คนเดียวและไม่ได้มีใครมาที่ห้องพัก​ และไม่เคยบอกรหับัญชีธนาคารกับใคร​ ไม่เคยโหลดแอพสรรพกรหรือแอพแปลก ๆ แต่อย่างใด​

หลังจากนั้น โทรไปที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารต้นทางเพื่อขอให้อายัดเงิน แต่เงินได้มีการโอนออกไปแล้ว​ จากนั้นก็รีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำใบแจ้งความไปแจ้งธนาคาร​ ทั้งต้นทางและปลายทาง​และขอข้อมูล IP Address หรือ Address IMEI ที่เป็นเหมือนบัตรประชาชนของเครื่องโทรศัพท์และขอโลเคชั่นตำแหน่งการเข้าแอพ แต่ธนาคารตอบว่าไม่สามารถหาได้ ต้องให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นคนสืบข้อมูล ซึ่งก็งงว่าธนาคารเป็นเจ้าของระบบทำไมไม่สามารถให้ข้อมูลกับผู้เสียหายได้หรือเป็นคนตามข้อมูลให้กับผู้เสียหาย

จากนั้นจึงได้แจ้งความให้ธนาคารเป็นคนตรวจสอบเช็คธุรกรรมและ statement ของบัญชีปลายทางซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการถึง 15 วันหลังจากนั้นสะสมผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป ตอนนี้ยังไม่ได้เงินคืน​ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่แต่พอโพสต์เรื่องนี้ลงในโซเชียลมีเดียปรากฏว่าก็มีคนที่เป็นผู้เสียหายลักษณะเดียวกันหลายคน ซึ่งตนสังเกตว่าทั้งหมดใช้โทรศัพท์มือถือระบบ Android ส่วนเงินในธนาคาร​ มีหลากหลายแทบทุกธนาคารและที่น่าสังเกตคือชื่อบัญชีปลายทางเป็นชื่อคนเดียวกัน​หลายเคส​ จึงคิดว่า​วิธีการดูดเงินของมิจฉาชีพน่าจะเป็นการแฮกโทรศัพท์มือถือ

 

581528

ในขณะเดียวกัน นายกิตติกร ผู้เสียหาย อีกรายได้เข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา พบว่าโทรศัพท์ของตนมีลักษณะผิดปกติคือหน้าจอดับแต่โทรศัพท์สั่น ใช้การไม่ได้ ประมาณ 1 ชม. กว่า ๆ หลังจากนั้นโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่แอปฯ ของธนาคารกลับมีการแจ้งเตือนว่า แอปฯ ของธนาคารไม่ได้ถูกติดตั้งโดย playstore ให้ทำการลบแอปฯ ออกและติดตั้งใหม่ ซึ่งตอนนั้นเงินยังไม่ได้หายออกไปจากธนาคาร

581557

จนกระทั่งวันที่ 11 ม.ค. ช่วงเวลา 10.00 - 12.30 น. ตนเอาโทรศัพท์ไปชาร์จแบตและนอนหลับไปจนกระทั้งประมาณบ่าย 3 ตนตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์ พบว่าเงินในแอปฯ ธนาคาร ทหารไทยได้หายออกไปจากบัญชีทั้งหมดจำนวน 92,709 บาท เข้าบัญชีที่ตนไม่รู้จัก

781223

ทีมข่าวได้สอบถามดังกล่าว กับผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนและระบบ ICT คุณวรภัทร​ droidsans​ เจ้าของเพจ​ droidsans​ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าปัจจุบันมี มิจฉาชีพดูดเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือหลายรูปแบบมาก​ทั้งการโทรหาหลอกให้โอนเงินโดยตรง​ หรือมาจากแอพพลิเคชั่น​ปลอมหลอกว่าเป็นหน่วยงานราชการ  การแฮกข้อมูลมือถือด้วยระบบรีโมท ส่วนล่าสุดที่เป็นข่าวพูดถึงการถูกดูดข้อมูลจากสายชาร์ทโทรศัพท์มือถือ​

277189

คุณวรภัทร เผยกับทีมข่าวว่า​ยอมรับว่า ในปัจจุบันสายชาร์จสำหรับใช้ดูดข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือนั้นมีอยู่จริง​ หรือ​สาย O.MG cable แต่ไม่ได้หาซื้อได้ตามท้องตลาด​ แต่อาจจะมีการลักลอบขาย​หรือแอบขายทางออนไลน์ ราคาสูงเส้นหนึ่งไม่ต่ำจาก​ 5,000​ บาท​ ซึ่งจริง ๆ ​ไว้สำหรับใช้ในทางการสืบสวนล้วงข้อมูลอาชญากรมากกว่า​

436249

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายบอกว่าสังเกตเห็นว่าตัวเครื่องมีการทำงานเองและดูดเงินไปเอง​ คุณวรภัทรเผยว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก ซึ่งเป็นการแฮกข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ ด้วยวิธีรีโมท Access ซึ่งจะมาจากการหลอกให้เราติดตั้ง application ก่อนที่จะมาจาก SMS​ หรือไลน์​ที่ปลอมตัว​ต่าง​ หากเราไปพลาดกดติดตั้งแอพพลิเคชั่นพวกนี้​ก็มีโอกาสที่จะทำให้ มิจฉาชีพเข้ามา​ทำการรีโมทเครื่่อง​ ควบคุมเครื่อง​เราและขโมย​รหัสผ่าน otp ไปทำธุรกรรมได้​ ซึ่งการใช้รีโมท Access ขโมยข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเฉพาะระบบ Android เท่านั้นระบบ iOS ก็สามารถทำได้เพราะขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของแอพพลิเคชั่น​ ที่หลุดเข้ามาในเครื่อง​

สำหรับวิธีป้องกัน​การถูกรีโมทแอกเซส คือ เข้าไปที่การตั้งค่าโทรศัพท์มือถือ​ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว​ ติดตั้ง App ที่ไม่่รู้จัก​ เมื่อเปิดเข้าไปแล้วจะเห็น Application ต่าง ๆ​ สังเกตดูว่ามีการเปิดรับข้อมูลทางไหนบ้าง เช่นหากมีการเปิดรับข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต​ให้เลื่อนปิด​ หากพบว่า สมาร์ทโฟนของตนเองมาอาการลวน ๆ​ ไม่สามารถควบคุมเครื่องได้สัมผัสหน้าจอไม่ติดเลย​ เห็นว่ามีการเปิดเข้าเปิดออกใน app ธนาคาร​  ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า กำลังถูกมิจฉาชีพรีโมท access เข้าเครื่อง​ ให้รีบถอดซิมโทรศัพท์มือถือออกทันที​

 

Advertisement

แชร์
สายชาร์จมหาภัย! หนุ่มวิศวะผงะชาร์จมือถือเจอดูดเงินนับแสน กูรูยันเรื่องจริงกลโกงใหม่มิจฉาชีพ (คลิป)