รู้ตัวแล้วโครงกระดูกปริศนาหมกแท็งก์ ที่แท้สาวพม่าสาบสูญ ช็อกกลิ่นเน่าพาเจอศพ (คลิป)

วันที่ 19 ธ.ค. 65 ตำรวจ สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพปริศนานอนคว่ำหน้าอยู่ภายในแท็งก์น้ำบนอาคารพาณิชย์ ซอยรามคำแหง 1 แขวงสวนหลวง กรุงเทพฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้เสียหายโผล่อีก! แฉ "แม่ตั๊ก" จ่ายเงิน 4 หมื่นขอจบดรามากล่องสุ่ม (คลิป)

ยังไม่ทันฟื้นฟูระทมซ้ำ! พะเยาเจอฝนเท-น้ำป่าทะลักรอบ 2 (คลิป)

มาตามนัด! จับตา "พายุซูลิก" จ่อขึ้นฝั่ง เหนือ-อีสาน เตรียมรับมือฝนตกหนัก (คลิป)

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ยังไม่สามารถยืนยันเพศได้ แต่จากเสื้อผ้าที่สวมใส่คาดว่าเป็นเพศหญิง 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปจุดที่พบศพเป็นตึกทาวน์โฮมอยู่ภายในซอยรามคำแหง 1 กรุงเทพฯ ซึ่งจุดที่พลเมืองดีแจ้งเหตุพบศพอยู่บริเวณชั้น 5 ซึ่งเป็นดาดฟ้าของอาคาร โดยเจ้าของอาคารได้ทำผนังกั้นไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นเดินทะลุผ่านอาคารคูหาของตัวเองได้ เพราะบริเวณดาดฟ้าของทาวน์โฮมที่ติดกับคูหาอื่นสามารถเดินทะลุผ่านกันได้ 

ซึ่งจุดดาดฟ้าชั้น 5 ของอาคารที่พบศพ เจ้าของอาคารได้นำแท็งก์น้ำสูงประมาณ 2 เมตร มีขนาด 1,200 ลิตร ไปตั้งไว้ด้านบน ต่อมาช่างรับเหมาพบศพหญิงนิรนาม ซึ่งเหลือแต่โครงกระดูกแล้วอยู่ด้านในแท็งก์น้ำ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และตำรวจ สน.หัวหมาก ขึ้นไปตรวจสอบจุดบนดาดฟ้าที่พบศพและใช้เครื่องตัดถ่างตัดแท็งก์น้ำออกมาลักษณะคล้ายประตู เพื่อจะนำศพหญิงนิรนามออกมา จากนั้นแพทย์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจก็ได้ขึ้นไปชันสูตรพลิกศพ

โดยสภาพศพที่พบไม่ทราบเพศ ผมยาว นอนคว่ำหน้าอยู่ก้นแท็งก์น้ำ สวมเสื้อผ้าคล้ายเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ลักษณะเน่าจนแห้ง มีหนอนและคราบน้ำเหลืองเต็มแท็งก์ โดยมีน้ำระดับความสูงในแทงค์น้ำเพียง 15 เซนติเมตร

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายประดิษฐ์ คงทิพย์ อายุ 35 ปี ช่างรับเหมาก่อสร้างที่พบศพคนแรก เล่าว่าตนได้รับการว่าจ้างงานรับเหมาจากเจ้าของอาคารให้มาเปลี่ยนหลังคาบนดาดฟ้า โดยเริ่มงานวันแรกวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยช่วงวันเสาร์ตนไม่ได้มาทำงาน เป็นช่างคนอื่นที่มาทำสองคนก็บอกตนว่า ได้กลิ่นเหม็นคล้ายหนูตายอยู่บนดาดฟ้า แต่กลิ่นพอทนได้ จึงทำงานต่อจนเลิกงาน

พอวันต่อมาตนมาทำงานกับช่างคนอื่นรวม 3 คน เมื่อมาถึงที่ดาดฟ้าก็คุยกันจะนั่งทานข้าวกัน แต่ปรากฎว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าที่จุดเกิดเหตุ ด้วยความสงสัยจึงพยายามหาต้นตอกลิ่น แต่ช่างคนอื่นก็บอกตนว่ากลิ่นหนูตายจะไปสนใจทำไม ซึ่งตนก็บอกกลับไปว่าไม่ได้เพราะกลิ่นเหม็นผิดปกติ

จนกระทั่งขึ้นไปดูบริเวณแท็งก์น้ำ ซึ่งแท็งก์น้ำสูงประมาณ 2 เมตร และด้านบนฝาถูกเปิดออกโดยฝาวางอยู่กับพื้น พอขึ้นไปข้างบนก็พบปากแทงค์เก็บน้ำกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร จึงลองส่องดูแต่ปรากฎว่ามืดไปพบอะไร จากนั้นจึงเอาแสงสปอร์ตไลท์ส่องถึงพบศพนอนอยู่ในแท็งก์น้ำ มีสภาพหญิงนิรนามมัดผมยาว คว่ำหน้า น้ำหนองและมีหนอนเต็มไปหมด จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ 

ส่วนตัวไม่กลัวกับเหตุการณ์ที่พบ เชื่อศพดังกล่าวถูกฆาตกรรมนำศพยัดแท็งก์น้ำ เพราะคงไม่มีใครกระโดดลงไปฆ่าตัวตาย ขณะที่บริเวณรอบจุดพบศพไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบมีขวดเบียร์สองขวดตั้งอยู่ใกล้จุดพบศพและไม่ทราบว่าเป็นของใคร

นายธนาสิน บุญกระสินธ์ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู อายุ 28 ปี บอกว่า ตนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ไปนำศพผู้เสียชีวิตออกจากแทงก์น้ำ โดยการนำศพออกจากแท็งก์น้ำ ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างผ่าแท็งก์เป็นช่องขนาดกว้างเท่าประตูเพื่อนำศพออกมา ศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย นอนคว่ำหน้าในก้นแท็งก์ ซึ่งมีระดับน้ำเหลือ 15 เซนติเมตร แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เนื่องจากเนื้อหนังบางส่วนแห้งติดกับผิวแท็งก์น้ำ

และไม่พบเอกสารประจำตัวในตัวศพหรือบริเวณใกล้เคียง นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบยังไม่พบมีเก้าอี้หรือบันไดที่ใช้สำหรับปีนแท็งก์น้ำ จึงยากที่ผู้ตายจะตกลงไปเอง เนื่องจากหากจะปีนก็ต้องปีนจากกรงเหล็กซึ่งเป็นไปได้ยาก

ขณะที่อาคารที่พบศพเป็นอาคารร้าง โดยเจ้าของอาคารได้ซื้ออาคารนี้มาจากเจ้าของเดิมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และได้ว่าจ้างช่างมารีโนเวตเมื่อช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา แต่คนงานทำงานยังไม่แล้วเสร็จและมีการทิ้งงานไป ทางผู้รับเหมาจึงส่งทีมช่างชุดใหม่เข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาพบศพในวันนี้ ซึ่งแท็งก์น้ำที่พบศพอยู่ด้านในก็ไม่ถูกใช้งานมาเป็นเวลาสามปีแล้ว ส่วนคูหาอาคารอื่นที่อยู่ติดกันก็ไม่ได้ใช้น้ำกินน้ำดื่มผ่านแท็งก์น้ำที่เกิดเหตุ เป็นแท็งก์น้ำแยกกันในแต่ละตัวอาคาร

นางใย กองรอด อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้อาคาร บอกกับเราว่า ทราบเรื่องว่ามีศพอยู่ในแท็งก์น้ำบริเวณดาดฟ้าชั้น 5 หลังจากที่ช่างรับเหมาไปเจอศพแล้วลงมานั่งหน้าบ้านพักตน โดยมาบอกกับตนว่าเจอศพในแท็งก์น้ำ ซึ่งตอนนั้นกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ ต่อมาได้กลิ่นเหม็น จึงเดินตามหาต้นตอ กระทั่งพบศพในแท็งก์น้ำ เชื่อถูกฆาตกรรมแล้วอำพรางศพยัดแท็งก์น้ำ

ส่วนตัวที่อาศัยในซอยที่พบศพไม่พบเหตุการณ์ผิดปกติก่อนเจอศพ โดยอาคารที่พบศพเป็นตึกร้างไม่มีใครอยู่มานาน 3 ปี โดยเจ้าของอาคารได้ซื้ออาคารนี้มาจากเจ้าของเดิมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และได้ว่าจ้างช่างมารีโนเวตช่วงปีก่อน 2564 ต่อมาเจอพิษเศรษฐกิจโควิดช่างจึงหยุดทำงานและมีการทิ้งงานไป ก่อนมีการจ้างช่างชุดใหม่มารีโนเวทและเริ่มเข้าทำงานวันแรก 17 ธ.ค. ต่อมาหยุดทำงานวันอาทิตย์และวันนี้พบศพ

ซึ่งก่อนหน้าที่เจ้าของอาคารจะซื้ออาคารจากเจ้าของเดิม เจ้าของเดิมเป็นใครตนไม่ทราบ แต่ตอนนั้นเจ้าของเดิมปล่อยเช่า มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งมาเปิดร้านข้าวแกงขาย มาอยู่ที่ตึกนี้ได้สองปีก็เลิกเช่าต่อไปอยู่ที่อื่น ต่อมาเจ้าของเดิมจึงประกาศขาย และมีการเปลี่ยนมือเจ้าของ

ยืนยันช่วง 6-7 เดือน ตนไม่เห็นช่างที่มารีโนเวตเข้ามาในอาคารนี้ แม้กระทั่งเจ้าของอาคารยังไม่เคยเห็นเข้าไป ซึ่งเจ้าของอาคารคนใหม่ก็พักอาศัยในซอยนี้เดิมเป็นเจ้าของอาคาร 3 คูหาต่อกัน พอเห็นเจ้าของคนเก่าประกาศซื้อก็เลยมาซื้อต่อ ทำให้อาคารสี่คูหาที่อยู่ติดกันมีเจ้าของอาคารเป็นคนเดียวกัน

ขณะที่ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ในวันนี้มีสาวพม่ามาติดต่อขอดูศพ โดยยืนยันว่าศพในแท็งก์น้ำคือพี่สาวของตนเพราะจากการตรวจสอบเสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยพี่สาวของตนชื่อว่า นางเริน หายออกจากไปบ้านไปในช่วงเดือนมิถุนายน

โดยวันนี้หลังตำรวจ สน.หัวหมาก ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้สอบปากคำชายรายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของอาคารที่พบศพให้การว่า ตึกอาคารดังกล่าวซื้อมานาน 3 ปี ซื้อจากเจ้าของเก่าที่เก็บตึกไว้ปล่อยให้คนเช่าต่อมามีการประกาศขาย ตนจึงซื้อมาเก็บไว้ไม่ได้ปล่อยเช่า ทำให้ตึกที่คนเป็นเจ้าของมี 4 อาคารต่อกัน

จากนั้นได้ติดต่อผู้รับเหมารายหนึ่งให้มาซ่อมแซมบ้านชั้น 4 ที่ตนใช้พักอาศัยรวม 3 คูหา ซึ่งทำการรีโนเวทแล้ว แต่อาคารที่ซื้อล่าสุดยังไม่ได้รีโนเวทจึงปล่อยร้างไม่มีคนพักอาศัย และไม่ได้ทำการล็อคประตูที่บริเวณชั้น 1 ระหว่างที่ให้ช่างซ่อมแซมบ้านชั้น 4 ที่ตนใช้พักอาศัยรวม 3 คูหา ยังอนุญาตให้เข้าออกอาคารที่พบศพได้ กระทั่งต่อมาคนงานก็ทิ้งงานไป ตนจึงติดต่อไปหาผู้รับเหมารายเดิม นำช่างชุดใหม่เข้ามารีโนเวทชั้นดาดฟ้าอาคารที่พบศพ ต่อมาพบศพดังกล่าวอยู่ในแท็งก์เก็บน้ำ หลังให้การกับตำรวจ ทีมข่าวพยายามเดินไปพูดคุยกับเจ้าของอาคาร แต่เจ้าของอาคารปฏิเสธให้ข้อมูลข่าวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์แ

ด้าน พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า สภาพศพผู้เสียชีวิตขณะนี้ยังไม่ทราบเพศและสาเหตุการเสียชีวิตมาจากสาเหตุใด จากสภาพศพน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน โดยไม่พบร่อยรอยการต่อสู้ และยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ขณะนี้ส่งชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ หลังสอบสวนเจ้าของอาคารได้ซื้อมานาน 3 ปีและไม่มีใครเข้าไปอยู่อาศัย ทางเจ้าของได้ปิดประตูด้านหน้าไว้แต่ไม่ได้ล็อก มีเพียงโต๊ะวางไว้เท่านั้น จนกระทั่งมีการจ้างช่างรับเหมามารีโนเวท โดยมีช่างชุดเก่าและชุดใหม่ซึ่งช่างชุดใหม่เป็นคนพบศพ

ตอนนี้ไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ทั้งฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรมอำพรางศพ ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบพิรุธอยู่หลายจุดหากเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งผิดวิสัยของคนฆ่าตัวตาย ขอเวลาให้รวบรวมหลักฐานและได้พิสูจน์ทราบก่อนว่าผู้ตายเป็นใคร จึงสามารถระบุได้ว่าเสียชีวิตจากเหตุใด เบื้องต้นสั่งการชุดสืบสวนให้ตรวจสอบประวัติคนหายในพื้นที่ รวมถึงการแจ้งความคนหายย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งต้องรวมถึงคนวิกลจริต และคนจรจัดในพื้นที่ว่ามีใครหายไปบ้าง นอกจากนั้นกำลังสืบสวนเพิ่มและติดต่อช่างรับเหมาชุดเก่าที่เคยเข้าไปรีโนเวทตึกที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใครอยู่ระหว่างการตามตัวมาสอบปากคำเพิ่ม

คอนเทนต์แนะนำ

เช็กเลย! กฎหมายใหม่ออกแล้ว "กำหนดเวลาขายเหล้าเบียร์"

ประวัติ "บุน รานี" สตรีหมายเลข 1 กัมพูชา ภรรยา "ฮุน เซน"

แกะสูตรหน้าเด็ก พี่เบิร์ด ธงไชย กินอะไร นอนยังไง ถึงหล่ออมตะ