จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับแจ้งเหตุผู้ชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ นายอรรถพล ณนคร หรือ หนุ่ม อายุ 44 ปี เหตุเกิดที่แยกณระนองกรุงเทพฯ ซึ่งล่าสุดตำรวจออกหมายจับ นายวิฑูรย์ หรือ เสือ โอชาผล อายุ 51 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ซึ่งทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณซอยข้างจุดเกิดเหตุเวลา 20.38 น. วันที่ 5 พ.ย. 65 จะเห็นช่วงที่ นายอรรถพลผู้ตาย วิ่งหนีไปหน้าปากซอยโดย นายวิฑูร ผู้ก่อเหตุ ถือมีดวิ่งไล่ตามอย่างกระชั้นชิด
วันที่ 9 พ.ย. 65 เวลา 02.00 น. พ.ต.อ.เอนก บุตรอิทร์ ผกก.สภ.พานทอง พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.พานทอง และตำรวจชุดสืบสวน สน.ท่าเรือ ได้ร่วมกันแสดงตัวเข้าจับกุมตัว นายวิฑูรย์ ในพื้นที่หมู่1 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา ได้ขณะกำลังนอนหลับในบ้านภรรยาสงวนเลขที่ หมู่ 6 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี
จากนั้นได้ทำการสอบถามชื่อและแสดงหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะเมืองชุมชล โดยไม่ได้รับอนุญาตตามหมายจับคดีของ สภ.ท่าเรือ และได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.พานทอง โดยผู้ต้องหายืนยันว่า ไม่ได้มีอาการมึนเมาและไม่ได้มีเรื่องกดดันในการทำงานอะไร แต่ผู้ตายมีการท้าทายให้ลองเรื่องของขลังของดีเท่านั้นเอง ส่วนอาวุธมีดไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อเหตุแต่แค่พกใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้ควบคุมตัว นายวิฑูรย์ ผู้ก่อเหตุมายัง สน.ท่าเรือ ขณะที่ พ.ต.อ.ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ ระบุว่า ตอนแรกจะคุมตัวนายวิฑูรย์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ แต่ต้องยกเลิกไปเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุชุลมุน เพราะทราบว่ากลุ่มเพื่อนของผู้ตายบางส่วนมารอที่สถานีตำรวจและบริเวณจุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพอ้างว่าทำไปเพราะอยากลองของ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
จากการตรวจสอบพบว่า นายวิฑูรย์ มีประวัติคดีแทงคนตายเมื่อปี 62 และถูกตัดสินจำคุก 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ก.ย. 65 ที่ผ่านมาและได้มาก่อเหตุอีกรอบในลักษณะเดียวกัน
ทีมข่าวเดินทางไปที่ สน.ท่าเรือ กทม. พบว่า น.ส.จริยา ทองคำมาก อายุ 32 ปี แฟนผู้ตาย และเพื่อน มารอที่หน้าสถานีตำรวจ โดย น.ส.จริยา กล่าวว่า มารอดูหน้า นายวิฑูรย์ ผู้ต้องหา เพื่อจะถามว่าทำไปทำไม โดยส่วนตัวไม่เชื่อตามคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าอยากลองของจึงแทงนายหนุ่ม มองว่าฟังไม่ขึ้น น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น โดยอยากให้นายวิฑูรย์พูดความจริงเพราะแค่เรื่องพระที่ห้อยคอไม่น่าจะเป็นเหตุให้ฆ่ากันได้ขนาดนี้
ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าผู้ต้องหา เพราะตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน ทั้งนี้ผู้ต้องหาดูไม่ได้มีท่าทีสลดหรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการถึงที่สุด ไม่ควรปล่อยตัวออกมาอีก เพราะนายวิฑูรย์เคยต้องโทษคดีฆ่าคนตายมาแล้ว 1 รอบ แต่กลับได้ปล่อยตัวออกมาอย่างง่ายดาย กลัวว่าโดนจับครั้งนี้หากได้ปล่อยตัวออกมาก็จะก่อเหตุอีก
Advertisement