แฉภาพลับเมียร้อนรักง้อผัวก่อนฆ่า พ่อบุกด่าซึ่งหน้า อึ้งชอบยัวะผัวไม่ทำการบ้าน (คลิป)

จากกรณีความคืบหน้าเหตุการณ์วันที่ 16 ก.ย. 65 พนักงานสอบสวน สน. ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท และมีผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ณ คอนโดแห่งหนึ่ง ซ.บางขุนเทียน16 ถ.บางขุนเทียน-บางบอน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัคร มูลนิธิร่วมกตัญญ และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช

ที่เกิดเหตุภายในห้องนอน พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสหวัฒน์ สง่ารังสีสกุล หรือ ฟอร์ด อายุ 22 ปี สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีเทา นอนหงายเสียชีวิต บนที่นอนมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย จำนวน 1 แผล และด้านข้างเตียงนอนพบซองถุงยางอนามัยและถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วตกอยู่ ส่วนคนก่อเหตุทราบเบื้องต้นทราบว่าเป็นแฟนสาวของคนก่อเหตุชื่อ น.ส.สลินทิพย์ ขวัญศิริโรจน์ หรือ นา อายุ 23 ปี โดยหลังก่อเหตุได้โทรแจ้งนิติบุคคลให้มาช่วยเหลือผู้เสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไปหาบิดา ที่พักอยู่ย่านสุขุมวิท

ขณะเดียวกันทางญาติของนายฟอร์ดได้ส่งวงจรปิดหลักฐานสำคัญ ที่ตรงกับคำรับสารภาพของ น.ส.นา ให้กับทีมข่าว ซึ่งจะเป็นภาพก่อนวันเกิดเหตุที่นายฟอร์ด ได้ออกไปจากบ้านในช่วงเวลาเลิกงานและมีคนไปเจอศพในวันรุ่งขึ้น โดยภาพที่ 1. จะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ น.ส.นา ขับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าสีขาว มาจอดใกล้บ้านของนายฟอร์ด ในเวลา 17.06 น. แล้วก็ค่อย ๆ เคลื่อนรถ มาจอดตรงข้ามบ้านของนายฟอร์ด ในเวลา 17.07 น. แล้วก็จอดแช่อยู่ที่เดิม โดยไม่ได้ลงจากรถ

จากนั้นเป็นภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่ 2. ที่จะเห็นว่าตัวนายฟอร์ด เดินออกมาจากบ้าน ในเวลา 17.10 น. แล้วก็เดินข้ามถนนมาเผื่อรอรถประจำทาง ซึ่งจังหวะนี้ไม่รู้ว่านายฟอร์ดเห็นว่ารถของ น.ส.นา จอดรออยู่หรือไม่ หลังจากนั้นจะเป็นภาพเหตุการณ์สำคัญ คือภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่ 3. ที่จะเห็นว่านายฟอร์ด ได้โบกรถกระป๋อง ในเวลา 17.13 น. เผื่อขึ้นออกไปจากบ้าน แต่จังหวะนั้น น.ส.นา ได้เปิดประตูลงมาจากรถ ที่จอดรออยู่ เดินตามนายฟอร์ด ขึ้นรถกระป๋องออกไปด้วย จากนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ 4. ที่จะเห็นว่า อยู่ ๆ น.ส.นา ก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ ย้อนกลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ ในเวลา 17.50 น. โดยไม่มีนายฟอร์ด นั่งรถย้อนกลับมาด้วย

ส่วนเหตุการณ์สุดท้ายคือ ภาพที่จะเห็นว่า น.ส.นา อยู่บนรถประมาณ 2-3 นาที ก่อนที่จะขับรถออกไปจากบ้านนายฟอร์ด ก็คือเส้นทางย้อนกลับไปที่คอนโด ซึ่งภาพทั้งหมดจะสอดคล้องกับไทม์ไลน์ ที่ตำรวจให้ข้อมูลกับทางอมรินทร์ทีวี มาว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ช่วงเย็น แต่ น.ส.นา พยายามโทรศัพท์ให้นายฟอร์ด ไปหาที่คอนโดในเวลา 23.00 น.ก่อนจะเกิดเหตุสลดขึ้น

ล่าสุดวันที่ 17 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ยังคงไปติดตามเรื่องดังกล่าว ที่ สน.ท่าข้าม หลังเมื่อคืนนี้ น.ส.สลินทิพย์ (ผู้ก่อเหตุ) ได้เข้าไปมอบตัวกับตำรวจ กระทั่งชุดสืบสวนมีการสอบปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง ทำให้ นายสมพงศ์ พ่อของ นายสหวัฒน์ (ผู้เสียชีวิต) นั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องสืบสวนอยู่ตลอดทั้งวัน เพราะอยากเจอหน้านางสาวนา

โดยช่วงประมาณ 21.00 น. นายสมพงศ์ (พ่อของผู้ตาย) ได้ไปยืนกดดันตำรวจชุดสืบสวนให้รีบส่งตัวนางสาวนา ไปยังห้องสอบสวนอีกอาคารของ สน.ท่าข้าม แต่ถูกตำรวจปฏิเสธ เนื่องจากยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ ทำให้นายสมพงศ์ ต้องประชดตำรวจนอนขวางประตูห้องสืบสวน โดยบอกว่า หากคืนนี้ไม่ได้เจอหน้านางสาวนา ที่ฆ่าลูกตัวเองก็จะนอนอยู่ที่หน้าห้องสืบยันเช้า และยังตะโกนขอให้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน อ้างตำรวจทำงานช้าดึงเวลาไม่ให้พบหน้าอดีตลูกสะใภ้

จนกระทั่ง เวลา 22.30 น.หลังตำรวจชุดสืบสวนสอบปากคำเสร็จ ก็ได้มีการคุมตัว น.ส.นา ออกจากห้องสืบสวน เพื่อนำตัวไปส่งให้กับพนักงานสอบสวน สอบปากคำต่อ โดยทันทีที่ตำรวจนำตัว น.ส.นา ออกมา ทีมข่าวได้พยายามสอบถามกับ น.ส.นา ว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นอย่างไร แต่แม่ของ น.ส.นา ได้นำเสื้อมาคลุมหัวลูกสาวเอาไว้และเดินกอดลูกสาวออกมาพร้อมกับตำรวจ ไม่ยอมให้ น.ส.นา ตอบอะไรกับทีมข่าว

ซึ่งบรรยากาศในช่วงดังกล่าวเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากระหว่างคุมตัว น.ส.นา เดินจากห้องสืบสวนไปยังห้องสอบสวน มีทางนายสมพงศ์ พยายามที่จะเดินเข้าไปหา น.ส.นา และตะโกนโวยวายว่าอยากจะเห็นหน้าคนที่ฆ่าลูกตัวเอง "อีนา กูเลี้ยงลูกกูมากูไม่เคยตีลูกกู" วันนั้นมึงจำได้ไหมว่ามึงเคยไปนั่งร่วมวงอาหารที่งานศพของแม่น้องฟอร์ด แต่ถูกตำรวจกันตัวเอาไว้ กระทั่งตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัว น.ส.นา พร้อมกับพ่อแม่เข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน โดยปิดประตูไม่อนุญาตให้นายสมพงศ์ เข้าไปยังด้านในตัวอาคาร

โดยวันนี้ นอกจากวงจรปิดที่ทีมข่าวได้ไปก่อนหน้านี้ จะเป็นภาพวงจรปิดที่ไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน ซึ่งวันนี้ทีมข่าวไปได้ภาพวงจรปิดจากคอนโดที่เกิดเหตุ ที่จะเห็นภาพหลัง น.ส.นา ก่อเหตุเสร็จแล้ว และเดินไปที่ลิฟต์ โดยในมือถือโทรศัพท์คุยกับใครบางคนตลอดเวลา ซึ่งจะสังเกตได้ว่า น.ส.นา มีท่าทางกระวนกระวาย เดินไปเดินมา เหมือนลังเลว่าจะย้อนกลับไปที่ห้องหรือจะลงลิฟต์หลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ กระทั่งลิฟต์เปิด น.ส.นา จึงตัดสินใจเดินเข้าลิฟต์ และเดินออกไปเอารถที่หน้าคอนโด ก่อนจะขับรถมาสด้าสีขาวคันเดียวกับวงจรปิดหน้าบ้านนายฟอร์ด ขับรถผ่านป้อม รปภ.หลบหนีไป

ซึ่งในภาพจะเห็นว่า น.ส.นา เดินไปกดลิฟต์ ในเวลา 04.42 น. และขับรถออกไปจากคอนโดในเวลา 05.28 น. ซึ่งช่วงเวลาที่ น.ส.นา อยู่ที่รถบริเวณหน้าคอนโด กว่า 46 นาที ไม่ทราบว่า น.ส.นา ใช้เวลาตรงนี้ทำอะไรก่อนจะขับรถหลบหนีออกไปจากคอนโด

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ทางญาติของผู้ตาย ได้เดินทางไปขอรับศพนายฟอร์ด ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่นำศพของนายฟอร์ด ออกมา คนเป็นป้าก็ร่ำไห้ออกมาเมื่อได้เห็นหน้าหลาน แล้วก็บอกว่าไม่ต้องห่วงนะป้าจะทวงความเป็นธรรมให้กับหลาน กลับบ้านเรานะป้ามารับแล้ว ตามไปฟังพระสวดที่วัดบางบอนนะลูก หลังจากนั้นนายสมพงศ์ พ่อของนายฟอร์ด ก็ได้มีการจุดธูปจำนวน 1 ดอกแล้วก็พูดตามพระสงฆ์ที่นิมนต์มาในวันนี้ เพื่อเรียกวิญญาณขึ้นรถ ก่อนพระสงฆ์จะมีการสวดบังสุกุล และให้เจ้าหน้าที่นำศพของนายฟอร์ด ขึ้นรถเผื่อไปเชิญวิญญาณที่คอนโดเกิดเหตุ

จากนั้นญาติเดินทางไปคอนโดจุดเกิดเหตุ ได้นิมนต์พระสงฆ์ ขึ้นไปบนห้องเกิดเหตุ ซึ่งทันทีที่ นายสมพงศ์ ไปถึงหน้าห้อง ก็เคาะประตูห้องเรียกชื่อลูกบอกว่า ฟอร์ดพ่อมารับแล้ว ก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่เตียง ที่เป็นจุดเกิดเหตุ ไปจับที่เตียงบอกว่าพ่อมารับแล้วนะลูก และได้เดินหาสิ่งสำคัญที่ตามหามาตั้งแต่เมื่อคืน ก็คือแว่นตาและรองเท้าของนายฟอร์ด

ซึ่งวันนี้ทางญาติก็ได้พบกับสิ่งที่ตามหา คือแว่นตาและรองเท้า ที่ยังคงอยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ โดยจากการสังเกตของทีมข่าว ยังไปพบเปลือกถุงยังตกอยู่ที่ข้างเตียง จำนวน 2 ชิ้น รวมไปถึงกล่องถุงยางและขวดสปายวางอยู่ที่หัวนอน ยิ่งไปกว่านั้นทีมข่าวยังไปเจอกล่องถุงยางอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่มีการใช้วางอยู่บนตู้เย็น และยังไปเจอกล่องมีดที่เพิ่งแกะ ทำให้ญาติต้องเก็บไปตรวจเช็คว่าซื้อมาตั้งแต่วันไหน หากซื้อมาในวันเกิดเหตุเท่ากับ น.ส.นา เตรียมการเอาไว้ก่อน

นอกจากนี้ทางญาติยังไปพบ ซองยาที่มีชื่อของ น.ส.นา ติดอยู่ถ่ายรูปเอาไว้กลับไปตรวจสอบว่าจริง ๆ แล้ว น.ส.นา มีอาการป่วยเป็นอะไรกันแน่

หลังจากนั้นพระก็เริ่มทำพิธีเชิญวิญญาณ โดยให้ทางญาตินำข้าวและน้ำไปวางบนเตียง ก่อนจะน้ำเสื้อผ้า เปื้อนเลือด ของนายฟอร์ด ที่ใส่ในคืนเกิดเหตุ วางบนเตียงแล้วก็ให้นายสมพงศ์ นำสายสิญจน์ไปมัดติดกับปลายเสื้อ ก่อนที่พระสงฆ์จะให้นายสมพงศ์ จุดธูป จำนวน 1 ดอก เพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณ แล้วก็มีการพรมน้ำมนต์ทั่วห้อง เป็นอันเสร็จพิธี

ขณะเดียวกันวันนี้บรรยากาศงานศพที่วัดบางบอน เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีทางญาติ ๆ มาร่วมกันรดน้ำศพกันในเวลา 16.00 น. โดยจะมีการสวดอภิธรรมตั้งแต่คืนนี้ถึงวันจันทร์ ที่ 19 ก.ย. และจะมีพิธีเผาศพในวันอังคาร ที่ 20 ก.ย.

ซึ่งวันนี้ทางญาติของนายฟอร์ด ได้ให้ข้อมูลกับอมรินทร์ทีวี ถึงพฤติกรรมของ น.ส.นา เผยว่า น.ส.นา เป็นโรคริททีเรีย เพราะระหว่างคบหากันนายฟอร์ด เคยมาปรึกษากับทางญาติว่าถูก น.ส.นา บังคับให้มีเซ็กส์ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน และมักจะซื้อถุงยางติดห้องเอาไว้เป็นลัง ซึ่งเหตุการณ์ที่ป้าของนายฟอร์ด เล่าให้สื่อฟังไปเมื่อวานนี้ ที่นายฟอร์ด ถูก น.ส.นา ตบหน้ากลางงานเลี้ยง ก็เป็นเพราะว่า คืนนั้น น.ส.นา พยายาม ชวนนายฟอร์ด กลับไปคอนโด 

นอกจากนี้ทางญาติยังบอกกับทีมข่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.นา เคยขู่นายฟอร์ด เอาไว้ว่า ถ้าเลิกกับเขาเมื่อไหร่ เขาจะฆ่าให้ตายแล้ว นายฟอร์ดก็ถูกฆ่าจริง ๆ ตามคำที่ น.ส.นา พูดเอาไว้ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุคงจะถูก นายฟอร์ด บอกเลิก

ทีมข่าวสอบถามช่างประจำคอนโด บอกว่า ตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่มีคนข้างห้องได้ยินเสียงว่ามีคนทะเลาะกันเสียงดัง ซึ่งตนเองเดินไปดูศพก็ตอนที่ตำรวจเข้ามาในที่เกิดเหตุแล้ว

ส่วนตัวเคยเจอกับ น.ส.นา แค่ผ่าน ๆ และไม่เคยเห็นกับนายฟอร์ด มาก่อน ยอมรับหลังเกิดเหตุ ช่วงกลางคืนเห็นนายฟอร์ด ยืนมองลงมาจากระเบียงบนชั้น 6 ไม่ได้พูดอะไร แต่สังเกตเห็นแค่ว่าหน้าตานายฟอร์ด ซีด ๆ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ได้แต่ภาวนาบอกไปว่า ให้รออยู่ที่ห้องเดี๋ยวก็มีคนมาช่วย กระทั่งวันนี้ญาติก็ได้เข้ามาเชิญวิญญาณ

ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าวิญญาณของนายฟอร์ด ไม่ได้ตามพระและญาติออกไปจากคอนโด เนื่องจากตัวเองเคยเป็นอดีตสัพเพเหระ และสัมผัสได้ว่าขณะที่สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่ นายฟอร์ด ยังคงยืนมองลงมาจากชั้น 6 ไม่ยอมไปไหน เพราะนายฟอร์ด เป็นวิญญาณที่ตายโดยไม่รู้ตัว จึงมีความแค้นหากจะไปจากห้องที่เกิดเหตุ ต้องมีตัวตายตัวแทนมาอยู่แทนนายฟอร์ด เท่านั้น