จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพน้องชายที่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอาการสาหัสพร้อมระบุข้อความว่า "ว่าด้วยเรื่องเต้ ตอบแชทไม่ทันจริงๆ?
ส่วนเรื่องเกิดเหตุ :: เพื่อนของเต้มีเรื่องกันก่อนแล้ว เต้ขับรถออกไปโดยไม่รุ้จักกับคนที่ทำ (ทุบเพื่อนไปหลายครั้งจิตใจทำด้วยอะไร) คนของเรามันซวย เพื่อนหนี>>แต่เต้เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เลยโดนไปกัน ตกใจทำไรไม่ถูก ไม่มีทางสู้ คนที่ทำเลยทำกับเต้อย่างหนักเพราะเห็นว่าพวกเดี่ยวกัน คนรุ่นใหญ่แล้วเด็กมันสู้ไม่ได้เพราะคนที่ทำมีอาวุธเต้อยุ่ไม่มีพิษภัยไรกับใครเลยไม่มีทรงที่จะนักเลงเลย แต่เหตุก็เกิดขึ้นแล้วกำลังใจอย่างเดี่ยวให้น้องเต้
!!บ้านใครที่ติดกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ 7-11 ตลาดบ้านพรุ ไปจนถึงข้างโรงเรียนวัดเทพฯ เวลาประมาณ ตี1 14/9/65หากมีช่วยติดต่อมาทางแชทหน่อยน่ะค่ะ เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลในการหาคนที่ทำ ณ ตอนนี้ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ เข้าเยี่ยมไม่ได้ทุกกรณี หน้าที่อยู่ที่หมอทุกอย่าง. #ขอบคุณทุกคนนะค่ะที่เป็นห่วงเต้ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้กับเต้?#เต้ใจแข็งอดทนอยุ่แล้วพระคุ้มครองคนดีสู้ๆนะน้องรัก"
วันที่ 15 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มาครอบครัวของผู้บาดเจ็บคือ แม่และพี่สาวของน้องเต้ ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วง เที่ยงคืน ของวันที่ 14 ก.ย. 65 เพื่อนของน้องเต้ชื่อทาย ได้มีเรื่องชกต่อยกับคู่อริ ที่หน้าร้านสะดวกซื้อบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากเหตุการณ์สงบลง คู่อริได้กลับไปตามเพื่อน
ขณะนั้นน้องทายได้โทรศัพท์ตามให้น้องเต้กับน้องฟิล์มออกไปรับที่หน้าร้านค้า ระหว่างทางที่น้องฟิล์มและน้องเต้กำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปรับน้องทายนั้น ปรากฏว่าทั้ง 3 คนได้เจอกับเพื่อนของคู่อริขี่รถจักรยานยนต์มาแล้วได้ชักปืนออกมา และได้มีการขี่จักรยานยนต์ไล่ล่ากัน ไปจนถึงไฟแดงวัดเทพชุมนุม
ด้วยความตกใจเต้ขี่จักรยานยนต์แล้วเสียหลักตกลงข้างทาง ทายได้โดดลงรถก่อนแล้งวิ่งหนีเข้าป่า ทั้งคู่จึงปรี่เข้ามาทำร้ายน้องฟิล์มและน้องเต้ ปรากฏว่าน้องเต้ อายุ 17 ปี พลาดท่าถูกกระทืบอาการสาหัส เบ้าตาแตก หูฉีก และเลือดออกในสมอง กะโหลกร้าว พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ แพทย์ยังไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยมทุกกรณี ส่วนน้องฟิล์มได้รับบาดเจ็บ ข้อมือแขนขวาหัก หัวแตกเย็บ 16 เข็ม ทางครอบครัวต้องการนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
น้องทาย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เล่าว่า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าเซเว่น ระหว่างทางได้พบกับคู่กรณีซึ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อนตนได้ทำการเปลี่ยนเกียร์พร้อมกับเบิ้ลเครื่องยนต์ ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 คนได้หันหน้ามามอง จากนั้นคู่กรณีได้จอดจักรยานยนต์ไว้ที่หน้าเซเว่น ตนได้จอดรถจักรยานยนต์ แล้วแชตไปบอกเต้และฟิล์มว่ามีเรื่อง ให้ตามมา จากนั้นเต้จึงขี่จักรยายนต์ โดยให้ฟิล์มเป็นคนซ้อนท้าย มายังหน้าเซเว่นบ้านพรุ
เมื่อเต้และฟิล์มมาถึง ตนจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับคู่กรณี ถามว่ามีอะไรมองหน้าทำไม คู่กรณีจึงตอบมาว่า "จะเอายังไง อยากมีเรื่องเหรอ" จากนั้นจึงมีปากเสียงกันขึ้น ระหว่างนั้น 1 ในคู่กรณีได้ชักมีดออกมา ตนจึงตัดสินใจกระโดดกระทืบคู่กรณี จากนั้นตนและฟิล์มซึ่งมีอาวุธมีด ได้วิ่งไล่คู่กรณีไปจนถึงไฟแดง หลังจากนั้นคู่กรณีจึงวิ่งหนีหายไป ส่วนเต้ได้ขี่จักรยานยนต์ตามไป ก่อนที่ฟิล์มจะไปวิ่งกลับมาและได้ถีบพร้อมกับทุบรถจักรยานยนต์ของคู่กรณี
จากนั้นตนเอารถไปเก็บที่บ้าน และได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 คน โดนมีน้องเต้เป็นคนขับ ฟิล์มนั่งกลาง ตนซ้อนท้าย และได้วนมาที่บริเวณหน้าเซเว่นบ้านพรุอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าช่วงนี้ทางคู่กรณีได้โทรศัพท์ตามพวกมาให้มาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าเซเว่น ซึ่งเมื่อทั้ง 3 คนขี่จักรยานยนต์มาตรงจุดนี้ พบกับเพื่อนของคู่กรณีเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 30 ปี 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดตรงข้ามกับเซเว่นบ้านพรุเพื่อดูลาดเลา เมื่อทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์สวนกับชายทั้ง 2 คน
ปรากฏว่าได้มีการชักปืนออกมาพร้อมกับทำท่าจะยิง เต้จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที และได้มีการขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากันอยู่สักพัก ก่อนที่เต้ขี่รถจักรยานต์แล้วไปเสียหลัก บริเวณไฟแดงใกล้วัดเทพชุมนุม ถนนเกษตรสุข ในจังหวะนั้นห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดลงรถและวิ่งหนีเข้าไปในป่า ส่วนเต้และฟิล์มเสียหลักล้มลงข้างทาง จากนั้นคู่กรณีจึงลงมาจากรถจักรยานยนต์ ทั้ง 2 คนมีอาวุธปืน หนึ่งในนั้นได้ใช้อาวุธปืนจ่อเข้าไปที่หัวของน้องฟิล์ม พร้อมกับร่างกาย แต่ปรากฏว่าปืนด้านกระสุนไม่ออก คู่กรณีจึงใช้ด้ามปืนฟาดเข้าไปที่หัวของน้องฟิล์ม และกระทืบน้องฟิล์ม จากนั้นทั้ง 2 คนก็ได้ไปกระทืบเต้ต่อ ด้วยการใช้ด้ามปืนฟาดเข้าที่หัวหลายครั้ง ซึ่งตนเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ไกล ๆ ในป่า เมื่อเหตุการณ์สงบลงจึงออกมาช่วยเหลือ และนำเพื่อนส่งโรงพยาบาล
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนได้เข้าไปกราบขอโทษแม่ของน้องเต้ บอกกับแม่ว่าขอโทษที่ใจร้อน และไปหาเรื่องคู่กรณีจนทำให้เต้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งแม่ของน้องเต้ก็บอกว่าถ้ารู้ตัวว่าผิดแล้วก็ให้รู้จักแก้ไข แล้วอย่าไปหาเรื่องใครแบบนี้อีก อะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปทำ หากเต้เสียชีวิตไป คงไม่มีใครรับได้
Advertisement