วันที่ 8 ก.ย. 65 ความคืบหน้ากรณี นายธีรศักดิ์ หรือ เสี่ยต้อย ใช้ปืนลูกซองยิงเด็กนักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิต 3 ศพ เวลา 08.00 น. ที่ สภ.เขาพนม จ.กระบี่
นางหวาน หอกุล อายุ 74 ปี ป้าของเสี่ยต้อย ได้เดินทางมาเยี่ยมเสี่ยต้อยก่อนถูกฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ เปิดใจว่า ตนเดินทางมาเยี่ยมเสี่ยต้อยวันนี้ เพราะอยากจะบอกเสี่ยต้อยว่าเวลาที่อยู่ในคุกให้ทำตัวดี ๆ ตัวเองเห็นเสี่ยต้อยมาตั้งแต่ยังเล็ก จริง ๆ แล้วถ้าไม่เมายา เสี่ยต้อยเป็นคนดี ขยันทำงานมาก แต่มาเสียคนเพราะเสพยาตั้งแต่วัยรุ่น เปลี่ยนโรงเรียนหลายครั้งก็เรียนไม่จบ
ส่วนเรื่องที่เสี่ยต้อยเคยยิงเมียน้อยพ่อแล้วศาลยกฟ้องนั้น เสี่ยต้อยเคยบอกว่าไม่ได้เป็นคนทำ และตำรวจก็ไม่มีหลักฐานว่าเสี่ยต้อยเป็นคนก่อเหตุศาลจึงยกฟ้อง นอกจากนี้ อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนเสี่ยต้อย ในสิ่งที่เสี่ยต้อยทำลงไป ที่ก่อเหตุก็เพราะเมายาเสพติด เพราะจริง ๆ หลานเป็นคนดี ไม่ใช่คนแบบนี้
ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องโทษประหารนั้น ตนไม่อยากให้เสี่ยต้อยได้รับโทษประหารชีวิต ยังอยากให้หลานมาชีวิตอยู่ ลูกหลานใคร ใครก็รักทั้งนั้น แม้จะเป็นผู้กระทำผิด ก็ขอให้ไปชดใช้กรรมในคุก
เวลา 09.30 น.ที่ สภ.เขาพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายธีรศักดิ์ บุญเรือง หรือ ต้อย ผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ ซึ่งก่อนที่จะนำไปฝากขังต่อศาลจังหวัดกระบี่ บริเวณหน้าห้องขังของเสี่ยต้อย มีญาติได้นำอาหารเอามาวางไว้หน้าห้องขัง โดยในวันนี้เสี่ยต้อยได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีเหลือง ที่เมียนำมาให้เมื่อวานนี้
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวเสี่ยต้อยไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่นั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเสี่ยต้อยว่าจะขอโทษครอบครัวของเสียผู้ชีวิตหรือไม่กับสิ่งที่ทำลงไปกับเด็กอายุยังน้อยและยังมีอนาคต เสี่ยต้อยไม่ตอบคำถาม
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหานายธีรศักดิ์ เพิ่มอีก 1 ข้อหา คือเสพสารเสพติดขับรถในที่สาธารณะ ส่วนข้อหาอื่นคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.พาอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรแก่พฤติการณ์ 4.ยิงปืนในที่สาธารณะและ 5.เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) และที่เพิ่มคือ 6.เสพสารเสพติดขับรถในที่สาธารณะ หลังจากได้รับใบรับรองจากทางแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่บรรยากาศหน้า สภ.เขาพนม ช่วงเช้าวันนี้มีชาวบ้านยืนดูเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวเสี่ยต้อยไปฝากขัง โดยนางหนูเพียร เพชรคง อายุ 70 ปี บอกวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนนั้นเป็นเพื่อนกับหลานสาว ที่เดินทางมาในวันนี้ เพราะอยากเห็นหน้าไอ้เหี้ยมที่ก่อเหตุโหดร้ายฆ่าเด็กนักเรียนทั้ง 3 คนได้ลงคอ และอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหารชีวิต
ต่อมา นางสาวภัณฑิลา ชูทอง หรือ น้องแพรว แฝดน้องของน้องแพรพร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาที่วัดทุ่งเสียด เป็นที่ตั้งศพของน้องน้ำฝน โดยได้นำพวงหรีดพัดลมมามอบให้กับครอบครัวของน้ำฝน มีพ่อและแม่รวมถึงน้าของน้ำฝนเป็นผู้รับพวงหรีด เมื่อมาถึงได้กอดกับน้า และแม่ของน้ำฝน และร้องไห้ จากนั้นน้องแพรวได้ไปเคาะโลงของน้องน้ำฝน และจุดธูปหน้าศพ
ขณะที่จู่ ๆ น้าของน้องน้ำฝนได้มีอาการชักเกร็ง และร้องไห้ และพูดกับแม่ของน้ำฝน ทำนองว่า "หนูขอโทษที่ไม่เชื่อแม่ หนูบอกมันแล้วแต่มันก็ไม่ฟัง" โดยมีญาติ ๆ มุงดูด้วยความตกใจ ส่วนแม่ของน้องน้ำฝนร้องไห้อย่างหนัก และมีอาการเป็นลม
นางสาวพีรพร ฟุ้งเฟื่อง อายุ 38 ปี น้าสาวของน้องน้ำฝน กล่าวว่า เคยเห็นเยอะในข่าวข่าวแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว โดยตนเองคุยกับหลานครั้งสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ ชวนกันคุยเรื่องไปแข่งเชียงใหม่ และนัดกันว่าจะพาหลานไปเที่ยวอุดรธานี โดยน้ำฝน กับแพร และแพรว สนิทกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลและทำงานอยู่ด้วยกันมานาน แพรวมานอนบ้านของน้ำฝนบ่อยครั้ง และเพื่อนของหลานก็เรียกตนเองว่าครูตลอด ตนเองเห็นว่าลูกศิษย์ไปได้ดีก็ดีใจ ความฝันตนเองก็อยากให้น้องน้ำฝนเป็นครู
ล่าสุด ตอนนี้ครอบครัวขอดำเนินงานศพให้เสร็จสิ้น ยังไม่พร้อมคุยกับครอบครัวของนายต้อย ทุกคนในครอบครัวพยายามทำใจ เชื่อว่าน้องเป็นผ้าขาวที่บริสุทธิ์ แต่ชีวิตต้องจากไปด้วยคนเสพยา ภาพที่เกิดขึ้นตนเองทำใจไม่ได้ แค่รถชนหลาน และลูกศิษย์ ก็คงตกใจมากพอแล้ว และยิ่งเป็นเด็กผู้หญิงถึง 2 คนด้วย โดยเมื่อวานจากที่แม่ของต้อยนำเงินมาให้ ครอบครัวขอไม่รับเงินครอบครัวนายต้อย และนำไปคืนครอบครัวนายต้อยแล้ว รอให้งานศพเสร็จสิ้นก่อน ตอนนี้ปล่อยให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ตนเองเชื่อว่าความยุติธรรมมี คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องน่าจะเห็นใจ เพราะครอบครัวเราก็ไม่ได้ร่ำรวย
ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดพรุเตียว ต.พรุเตียว อ.เขาพยม จ.กระบี่ พูดคุยกับ นางสาวภัณฑิลา ชูทอง หรือ แพรว แฝดของแพร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้นำอาหาร และน้ำไปให้แพรตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. โดยได้เคาะโลงบอกแพรให้มากินข้าว และกำลังจะแกะน้ำดื่มให้
ขณะนั้นได้ยินเสียงคล้ายของตกบริเวณที่จุดธูปหน้าโลง เมื่อเดินไปดูก็ไม่พบอะไร หลังจากนั้นยังได้ยินเสียงคล้ายคนดึงที่กดพัดลมแบบติดฝาผนังประมาณ 3 ครั้ง แต่หันไปดูพัดลมก็อยู่แบบเดิมไม่ได้ขยับแต่อย่างใด ตนเองจึงเชื่อว่าแพรมาบอกว่ารู้แล้วที่เรียกกินข้าว และตนเองยังนึกขึ้นได้ว่าขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเช้า ปกติแพรพี่สาวจะตื่นสายในวันหยุด ตนเองจึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นวิญญาณของพี่สาวที่มาบอกอะไรบางอย่าง
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้นอนค้างที่ศาลาสวดศพของแพร ไม่มีเหตุการณ์พบวิญญาณของพี่สาวอีก ตอนนี้ตนเองก็ยังคิดถึงเพื่อนเพื่อนในกลุ่มทั้ง 3 คนมาก วันนี้ตนเองตั้งใจจะเดินทางไปที่วัดห้วยเสียด เพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้ำฝนด้วย
ส่วนบรรยากาศที่วัดถ้ำโกบ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายนนทภัทร อุดมศรี หรือ น้องคิมหันต์ อายุ 18 ปี เป็นไปด้วยความโศกเศร้า คณะครูได้นำภาพของน้องทั้ง 3 คน และบทกลอนอาลัยที่ลงในเฟซบุ๊กของโรงเรียนมาติดไว้หน้าศาลา พร้อมจัดผ้า นอกจากนี้ยังมีโต๊ะตั้งเกียรติบัตร และเหรียญรางวัลของคิมหันต์ตั้งอยู่หน้าศาลาด้วย
นายมงคล นกดา อายุ 38 ปี พ่อเลี้ยงของน้องคิมหันต์ เปิดเผยว่า ตนเองมาคบหากับแม่ของน้องตั้งแต่น้องอยู่ชั้นอนุบาล ตนเองจึงผูกพันและรักเหมือนลูกชายแท้ ๆ โดยน้องคิมหันต์เป็นคนน่ารัก และสุภาพ เรียกตนเองว่าพ่อและเป็นเด็กดี วันที่เกิดเหตุตนเองยังได้ไปดูศพลูก ถึงกับทำใจไม่ได้และนอนไม่หลับไปอีก 2 วัน เพราะภาพติดตา ต้องเสียเมียไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ยังมาเสียลูกเลี้ยงไปอีก
โดยที่ผ่านมาตนเองสนิทสนมกับน้อง มีอะไรเขาก็จะเล่าให้ฟังตลอด ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย เมื่อวานนี้มีครอบครัวของนายต้อยส่งคนมาพยายามจะขอพูดคุยกับยายของน้องด้วย แต่ก็ให้กลับไปก่อน เพราะยังไม่พร้อมพูดคุยตอนนี้ ส่วนตัวขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย
Advertisement