เจ๊นุชอ่วมกองทัพเรียกคืนเงินแสนสังเวยตบทหาร เหยื่อแบกหนี้เป็นล้านเหลือแต่ชั้นใน (คลิป)

จากกรณีผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตทหารหญิง เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพงศ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมแจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินคดีทางอาญากับนายจ้าง ส.ต.ท.หญิงตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.9 ปัจจุบันช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ

วันที่ 2 ก.ย. 65 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ตัวแทนผู้เสียหาย และนางสาวปิ่น (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เดินทางมาที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร เพื่อมาดำเนินการเรื่องเงินเดือน ที่ถูกต้นสังกัดเรียกคืน เป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ในวันนี้เดินทางมาติดตาม ประเด็นที่ก่อนหน้านี้ทางนางสาวปิ่น ทหารหญิงได้รับการติดต่อจาก ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหารให้เข้ามารับเงินช่วยเหลือเพื่อให้นำเงินไปคืนต้นสังกัด โดยเงินส่วนนี้ได้มาจากการเรี่ยรายบุคลากรในโรงเรียนและเพื่อนร่วมงานสมัยที่ทหารหญิงรายนี้เป็นเสมียนฝ่ายบัญชีของโรงเรียนก่อนที่จะถูกเรียกตัวไปช่วยราชการกับ ส.ต.ท.หญิง

โดยนางสาวปิ่น ผู้เสียหาย ไม่เคยได้รับเงินเดือนเลยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 เนื่องจาก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ยึดเป็นเงินส่วนตัว และอ้างว่า นี่เป็นส่วนที่ตนเองจะต้องได้รับ เนื่องจากเป็นคนฝากเข้าทหาร โดยกำหนดว่านางสาวปิ่นจะต้องให้เงิน จำนวน 7,000- 8,000 บาทต่อเดือน บางเดือนที่เงินเดือนนางสาวปิ่นใช้มีไม่ถึง ทำให้ต้องไปกู้ยืมจากคนอื่น หรือต้องขอจากทางครอบครัว ทำให้ขณะนี้ครอบครัวมีหนี้สินรวมทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท ตอนที่นางสาวปิ่น ผู้เสียหาย อยู่ภายในบ้านของ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ มีสมบัติเพียงแค่ชุดชั้นในชุดเดียวที่ใส่วนซ้ำ

ด้านนางสาวปิ่น (นามสมมติ) เปิดเผยว่าตอนนั้นทำงานเป็นเสมียนอยู่กองคุณภาพและการศึกษา ก็จะดูแลคุณภาพของการศึกษาให้อยู่ตามเกณฑ์ของกระทรวง ซึ่งตอนที่ทำงานอยู่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร เงินเดือนเริ่มต้น รวมค่าครองชีพ ประมาณ 10,800 บาท ส่วนเงินเดือนล่าสุด ประมาณ 12,000 บาท และเงินเดือนตั้งแต่ปี 2564 ตนเองไม่ได้ใช้เงินเอง แต่ให้ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้เป็นนายจ้างหมด และตั้งแต่ลาออกในปี 2565 กรมบัญชีกลางก็ยังจ่ายเงินให้เข้าไปให้ ซึ่งตนเองก็นำเงินให้นายจ้างทั้งหมดเช่นกัน

ซึ่งส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ผู้เป็นนายจ้าง เคยบอกกับตนไว้ว่า นี่เป็นเงินของเขาที่เขาควรจะได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเก็บไม่เต็มเงินเดือน และจะให้ตนเอง 3,000 บาท ซึ่งตนเองได้ไปกู้เงินสหกรณ์มาก็จะถูกหักสหกรณ์ ทำให้เงินเดือนเหลือกว่า 5,000 บาท ก็จะต้องหาที่อื่นมาให้ครบ 8,000 บาท เพื่อให้กับส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ผู้เป็นนายจ้าง ตอนนี้ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานที่โรงเรียน ที่ช่วยเหลือเรื่องเงิน เพราะตนเองไม่มีเงินติดตัวมาแม้แต่บาทเดียว

จากนั้น นางสาวปิ่น เปิดเผยหลังจากที่มีการดำเนินการคืนเงินต้นสังกัดเรียบร้อยแล้วว่า ตนได้พบกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานที่คอยให้กำลังใจมาตลอด และพอได้ทราบว่าเงินที่มีการระดม มากจากทุกคนช่วย ๆ กัน จึงทำให้ตนรู้สึกว่า ที่นี่ยังคงเป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นเสนอ หากอนาคตมีโอกาสได้กลับเข้ามารับราชการทหารอีกครั้ง ก็จะขอกลับเข้ามาด้วยฝีมือและความสามารถของตัวเองจะดีกว่า

ส่วนกรณีที่ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ หากได้รับการประกันตัวและจะตั้งโต๊ะแถลง อ้างว่าจะแฉกลับตนก็ไม่กลัวเพราะคิดว่าจากนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวแล้ว ในวันนี้ตนรู้สึกสบายใจ มากขึ้นกว่าเก่าได้กำลังใจจากหลายคน และมีกำลังใจที่จะต่อสู้ กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

ส่วนเรื่องคดีความที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี มีการประชุมหารือประเด็นเรื่องการคัดแยกพยานวัตถุหลักฐาน และพยานแวดล้อมในแต่ละคดีนั้น ก็เป็นไปด้วยดี จากการตรวจเช็กพบว่าพยานหลักฐานทั้งหมดได้อยู่ในสำนวนครบทุกอย่างแล้ว จึงต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ที่ร่วมต่อสู้กับตนมาถึงวันนี้

ซึ่งกัน จอมพลัง ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 20 นาที สำการทำเรื่องคืนเงิน โดยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าไปพบกับท่านผู้ใหญ่ และแวดล้อมของบุคคลากรในโรงเรียนแล้ว บรรยากาศค่อนข้างที่จะอบอุ่น และน่ารักมาก ๆ เลยคิดว่าถ้าน้องได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนนี้ เขาคงจะมีความสุขมาก ส่วนจำนวนประมาณ 35,000 บาท ทางผู้อำนวยการโรงเรียน และเพื่อนในโรงเรียนช่างฝีมือทหารได้มีการระดมเงินช่วยเหลือ และรวบรวมแล้วคืนให้กับต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรู้สึกดีใจแทนผู้เสียหาย ที่เขารักกันมากขนาดนี้ และมองเป็นตัวอย่างที่ดี ในการช่วยเหลือเกื้อกูลกันแบบนี้ เงินที่ตนเตรียมมาในวันนี้ก็เลยไม่ได้ใช้

ก่อนที่นายวัชระ จะยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สิงห์ศึก ตำรวจรัฐสภาได้พยายามห้าม ไม่ให้นายวัชระยื่นหนังสือต่อพล.อ.สิงห์ศึก ถึงหน้าห้องคณะกรรมการจริยธรรมฯ เพราะต้องขออนุญาตก่อน แต่นายวัชระ ต้องการที่จะขึ้นมายื่นหนังสือให้ถึงมือ พล.อ.สิงห์ศึก จึงทำให้เกิดการยื้อยุดขึ้น ก่อนที่จะยอมให้นายวัชระ เดินขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องคณะกรรมการจริยธรรมฯ ทันทีที่ทั้งสองได้พบหน้ากัน พล.อ.สิงห์ศึก รีบออกตัวว่า “ผมไม่ได้ท้าทายท่าน” ทำให้นายวัชระ กล่าวตอบว่า “ผมมาตามที่ท่านพูดว่าขอให้ผมระบุชื่อ ผมเป็นคนซื่อ วันนี้จึงมาส่งชื่อพร้อมกับหลักฐานให้ท่าน” นอกจากนี้ นายวัชระ ยังได้คาดผ้าขาวม้ามาด้วยเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึง ความเป็นประชาชนที่สามารถเดินทางเข้าออกภายในอาคารรัฐสภาได้อย่างเสรี

โดยนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้ายื่นหนังสือต่อพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมจริยธรรม ส.ว. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ทำทารุณทหารหญิง ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภา พร้อมแนบหลักฐานเพื่อให้พิจารณา โดยมีหนังสือคำร้องขอให้ตรงจสอบนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา และภาพถ่ายป้ายร่วมบริจาคเงินจำนวน 120,000 บาท ของนายธานี กับส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ที่วัดบางลี่เจริญธรรม ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี

นายวัชระ กล่าวว่า ตนขอย้อนความถึงกรณีอดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่เมื่อครั้งอยู่ในตำแหน่งได้กระทำการคุกคามทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชา โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตั้งแต่ปี 62 ผ่านมา 3 ปี อดีตเลขาธิการสภาฯยังไม่ถูกลงโทษ แต่ข้าราชการหญิงกลับถูกไล่ออกจากราชการ นี่คือความอยุติธรรม ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับกรณีที่เกิดขึ้นกับสมาชิกวุฒิสภา ที่มีการกำหนดเวลาการสอบสวน ตนถือว่ามีมาตรฐานมากขอชื่นชม

ด้านพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าว่าสำนวนการสอบสวนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงผลตรวจจิตเวช จากแพทย์โรงพยาบาลราชบุรี ที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต คาดว่าน่าจะได้รับผลตรวจหลังจากวันที่ 9 ก.ย. นี้ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการทางการแพทย์ ซึ่งหากได้รับผลตรวจทางการแพทย์ พนักงานสอบสวนจะจัดส่งสำนวนการสอบสวนในการสั่งฟ้อง ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาทางจิตจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ต้องหาจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่จะส่งตัวไปบำบัดก่อนกลับมารับโทษต่อไป

พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงรับใช้ว่า ทางผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เร่งรัดประชุมติดตามงานทุกวัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เรื่องการตรวจสุขภาพจิตของผู้เสียหายเอง และผู้ต้องหายังคงอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสุขภาพจิต ส่วนการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย เบื้องต้นพบว่าดั้งจมูกหัก  ซึ่งก็ถือว่าสาหัสเพราะใช้เวลาในการรักษานาน สำหรับเรื่องหลักฐานต่าง ๆ นั้นต้องผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น เครื่องชอร์ตไฟฟ้า

ส่วนการแจ้งความเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่นายกัน จอมพลัง ได้นำผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม ทางผู้เสียหายได้ถูกนายคมสิทธิ์ มีการร่วมทำร้ายกับผู้ต้องหา เราได้มีการสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมไป และตามที่ผู้เสียหายให้การว่านายคมสิทธิ์ ได้กระทำความผิดในพื้นที่ อ.เมือง อีกจำนวน 3 ครั้ง ตรงนี้ได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมรวบรวมหลักฐานแล้ว และเมื่อวานได้มีทีมสหวิชาชีพได้เข้ามาประเมินว่าการกระทำความผิดร่วมของนายคมสิทธิ์นั้นจะเป็นความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งตรงนี้ทีมสหวิชาชีพได้ประเมินไปแล้ว มีมติยังไม่เห็นว่านายคมสิทธิ์ได้ร่วมกระทำผิดเรื่องค้ามนุษย์ แต่นายคมสิทธิ์ยังมีการกระทำความผิดเรื่องของอาญา และตามพระราชบัญญัติแรงงานอีกส่วน ตรงนี้ก็อยู่ในระหว่างขั้นตอนของการสอบสวนผู้เสียหายให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน

ล่าสุดได้รับแจ้งว่า วันนี้ได้มีการเบิกตัว ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ออกมาตรวจสุขภาพจิตเพิ่มเติม หลังจากที่ได้มีการตรวจไปแล้ว  ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำผลของการตรวจครั้งแรกกับครั้งที่สองมาเปรียบเทียบกัน ส่วนการฝากขังซึ่งครบกำหนดฝากขังในครั้งที่ 2 นั้น เบื้องต้นทราบว่าส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ยังไม่ได้ยื่นขอประกันตัว ซึ่งหลังจากตรวจสุขภาพจิตแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำกลางราชบุรีต่อไป

พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงกรณีกำลังพลที่บรรจุช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น โดยกอ.รมน.ภาค 4 สน. เป็นหน่วยปฏิบัติงานหลักในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับพื้นที่ โดยมีโครงสร้างการจัดและอัตรากำลังพลประกอบด้วยข้าราชการพลเรือน ตำรวจ และทหาร แต่เนื่องจาก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เป็นหน่วยเฉพาะกิจจึงไม่มีอัตรากำลังพลประจำอยู่ในโครงสร้างเหมือนกับหน่วยปกติ จึงมอบหมายให้หน่วยต่าง ๆ ในโครงสร้างทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร พิจารณาบรรจุกำลังพลช่วยราชการทั้งเป็นหน่วยและเป็นรายบุคคลตามคุณสมบัติและความรู้ความสามารถตามกรอบอัตรากำลังที่ได้กำหนดไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการบรรจุช่วยราชการต่อไป

สำหรับกรณีการบรรจุ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. นั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าได้รับการบรรจุช่วยราชการที่หน่วย สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 ตามคำสั่ง กอ.รมน. ที่ 269/2565 ลง 7 เม.ย. 65 ซึ่งการเข้ามาบรรจุดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการกล่าว คือมีอัตราว่างให้สามารถบรรจุได้ทั้งพลเรือน ตำรวจและทหาร