กรณีที่กล้องวงจรปิดจับจากบ้านชาวบ้านหลังหนึ่งย่านถนนจามเทวี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน บันทึกภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ 2 คนแก๊งทวงหนี้ คนขับรถเก๋งโตโยต้าสีบรอนซ์ มาจอดบ้านหลังหนึ่ง
ก่อนที่ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองจะกดกริ่งเรียกให้เจ้าของบ้านออกมาพบ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจึงทุบกริ่งหน้าบ้าน ส่วนผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงจึงคว้าตู้ใส่จดหมายที่แขวนอยู่บนรั้ว ขว้างใส่หลังคาบ้าน หลังจากนั้น จึงคว้าราวตากผ้า และของเล่นเด็กที่วางอยู่หน้าบ้าน เขวี้ยงเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะขับรถออกไป
ลุงพร (นามสมมติ) อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน บอกว่า ภรรยาของตนได้ไปกู้เงินนอกระบบมา ซึ่งภรรยาก็ไม่เคยบอกตนว่าไปกู้ใครมาบ้าง หรือกู้เงินมาจำนวนเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ต่างคน ต่างทำงาน เงินที่กู้มาก็ไม่รู้ว่าภรรยานำเอาไปใช้อะไร สัปหาด์ที่ผ่านมา ภรรยาได้หายออกไปบ้านไม่บอกกล่าว ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน โทรไปไม่รับสาย จากนั้นก็มีชาย 2คน ขับรถเก๋งมาทวงหนี้ที่บ้านของตน ตามภาพกล้องวงจร
ส่วนที่ไม่เจอตนเพราะกลางวันตนออกไปขายของ มีเพียงหลานสาววัย 20 ปี อยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว ขณะนี้ครอบครัวหวาดกลัวพฤติกรรมของแก๊งทวงหนี้มาก จนนี้ต้องย้ายออกจากบ้านหลังดังกล่าว เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย กลัวจะถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องเงินที่ค้างเจ้าหนี้จะพยายามติดต่อภรรยาให้ชดใช้คืน แต่อยากให้เจ้าหนี้มาพูดคุยด้วยดี ไม่ใช้ความรุนแรงแบบนี้
นายบี (นามสมมติ) ลูกเขยของเจ้าบ้านที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนทราบช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แม่ยายได้ไปกู้เงินนอกระบบมา จนมีคนมาทวงเงินหน้าบ้าน เป็นชายฉกรรจ์สองคนขับรถมาตามหาแม่ยายทั้งวัน พอไม่เจอก็จะเอะอะโวยวายทำลายข้าวของ พอเพื่อนบ้านออกมาดูก็จะตะโกนถามว่ามองอะไร และพยายามจะเปิดประตูเข้าไปภายในตัวบ้าน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะพยายามเข้าไปในบ้านทำไมเพราะตอนนี้ตัวแม่ยาย ซึ่งเป็นคนก่อหนี้เอาไว้ไม่ได้อยู่บ้านหลังดังกล่าว แม่ยายได้หนีออกไปจากบ้าน ไม่บอกใคร เพราะกลัวว่าจะถูกแก๊งเงินกู้ทำร้าย
ตอนนี้ตนพยายามประสานให้แม่ยายกับเจ้าหนี้ได้พูดคุยกัน เพื่อหาทางออก โดยไม่ใช้ความรุนแรงผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน เพื่อให้เรื่องนี้จบลง ส่วนรายละเอียดว่าไม่ย้ายกู้เงินไปเท่าไหร่นั้นยังไม่ทราบจริง ๆ ตอนนี้รู้เพียงว่าอาจจะมีเจ้าหนี้หลายคนทางครอบครัวพยายามจะเคลียร์ให้ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้หนีไปไหน ที่ต้องออกไปจากบ้านหลังดังกล่าว เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ยืนยันว่าจะตามแม่ยายชดใช้ เพราะเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน เงินที่กู้มาก็ไม่ทราบว่าแม่ยายนำไปใช้อะไร เพราะไม่เคยบอก แต่ไม่น่าจะเอาไปเล่นการพนัน หรือว่านำไปดื่มสุรา เพราะแม่ยายมีโรคประจำตัวไม่สามารถดื่มได้ ส่วนเรื่องที่ถูกทำร้ายข้าวของหน้าบ้าน ก็ให้เจ้าหน้าตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยในวันนี้ นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน ได้ลงพื้นที่มายังบ้านที่เกิดเหตุพร้อมเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้โหดตามกฎหมาย ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนรายละเอียดเรื่องกู้เงินต้องเรียกผู้กู้มาสอบสวนพร้อมกับเจ้าหนี้ จากนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หลังจากนั้น ทีมข่าวโทรศัพท์ไปยังเบอร์ติดต่อที่แก๊งทวงหนี้ทิ้งใบปลิวเอาไว้ มีผู้ชายรับสายบอกว่า ปล่อยเงินกู้ในตัวเมือง จ.ลำพูน เมื่อได้เงินมา ต้องชดใช้หนี้ให้หมดภายใน 24 วัน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 หาก ต้องการกู้เงิน 10,000บาท จะคิดดอก 2,000 บาท และต้องจ่ายเงินคืนทุกวัน วันละ 500 บาท จนครบต้นครบดอก
ซึ่งหากต้องการจะกู้เงิน ต้องส่งที่อยู่ไปให้ ระบุอาชีพ พร้อมถ่ายรูปร้านค้าไปให้ หากเป็นเจ้าของกิจการ และถ่ายเอกสารบัตรประชาชนแนบไปด้วย จากนั้นก็จะต้องเซ็นเอกสารสัญญากู้เงิน ใช้เวลาเพียง 1 วันก็จะได้เงินสดตามจำนวนที่ต้องการ ชายปลายสายระบุว่า หากได้เงินไปแล้วต้องเตรียมเอาไว้จ่ายคืนทุกวัน ห้ามขาดเด็ดขาด
Advertisement