เก๋งอำมหิตแค้นโหดตามขยี้ จยย. ดับสยอง 2 ศพ เมียท้องช็อกเฉียดตายยกครัว (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 4 ก.ค. 65 มีวัยรุ่นชาย 2 ราย ขับขี่รถ จยย. ฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน กวท 64 กาญจนบุรี แล้วประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ ทราบชื่อ นายศุทธิรัตน์ พูลพิริยะ หรือ มาย อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา ม.1 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนขับเสียชีวิตขณะที่ร่างยังคร่อมรถ สภาพศพจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ที่ศีรษะ ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อมรินทร์ทีวี ทุ่ม 330 ล้าน ! สร้างตึกใหม่ ย้ายสตูดิโอข่าว อลังการซีจี

จับแล้ว! แชมป์ยิงปืนหลานคนดังยิงฝรั่งดับคาถนน เผยปมบีบแตรดัง ยัวะโดนทุบรถก่อน (คลิป)

เฒ่าเมาแอ๋แทงเพื่อนบ้านดับ สร่างอ้างจำไม่ได้ ชาวบ้านผวาเจอมีดขู่รีดเงินอึ้งฆ่า 2 ศพ (คลิป)

บริเวณกลางถนน พบร่างของนายวิษณุ ครุฑสุวรรณ์ หรือ แน็ก อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา ม.3 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี คนซ้อนท้าย เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำจมกองเลือด มีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศีรษะ จนทำให้สมองไหล

ซึ่งคู่กรณีเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆช 4744 กรุงเทพมหานคร ทราบชื่อผู้ขับคือ นายทรงวุธ ขุนจ่าเมือง อายุ 36 ปี พุ่งเสยท้ายอย่างแรง จนทำให้รถเก๋งกระเด็นไปพลิกคว่ำอยู่อีกฝั่งของถนน ทำให้นายทรงวุธซึ่งติดอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ เหตุเกิดบนถนนแสงชูโตฝั่งขาออกตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้า อ.ท่าม่วง พื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ไปถึงที่เกิดเหตุก็มีการ์ดของร้านเหล้าให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและกลุ่มเพื่อนชายหญิงประมาณ 5-6 คน ได้ไปเที่ยวที่ร้านเหล้าดังกล่าว ในระหว่างที่ดื่มกินกันภายในร้านก็ไม่ได้มีปัญหากับใคร

จนกระทั่งร้านเลิกตอนเที่ยงคืน ทั้งหมดได้มานั่งจับกลุ่มคุยกันที่ลานจอดหน้าร้าน และมีรถเก๋งคู่กรณีขับตีโค้งเข้ามาด้วยความเร็ว เกือบจะพุ่งชนคนที่หน้าร้าน ท่ามกลางความตกใจผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จึงได้ร้องตะโกนเตือนรถเก๋งประมาณว่าให้ขับช้า ๆ เพราะเกรงว่าจะไปชนคนอื่น

จากนั้นต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านตามปกติ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขับขี่รถคันเกิดเหตุพากันกลับบ้าน แล้วก็มาประสบอุบัติเหตุถูกรถเก๋งคันที่พวกเขาตะโกนตักเตือนพุ่งชน จึงคาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากคนขับรถเก๋งไม่พอใจที่ถูกตักเตือนหรือไม่ จึงมีการชะลอรถรอแล้วเมื่อเห็นว่าผู้เสียชีวิตขับออกจากร้าน ก็ขับพุ่งเสยท้ายทันที

เวลา 18.30 น. ด้านของพ่อแม่และภรรยาของนายศุทธิรัตน์ เดินทางมายังวัดด้วยท่าทางเศร้าเสียใจ แม่เมื่อเห็นศพลูกก็เดินเข้าไปกอดทั้งน้ำตา ก่อนจะพากันรดน้ำศพ

นางสาวรุ่งทิวา พ่วงแผน อายุ 27 ปี ภรรยาของผู้ตายซึ่งตั้งครรภ์ลูกสาวอายุ 6 เดือน และเป็นลูกคนแรกของทั้งคู่ เล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังว่า ช่วงประมาณเที่ยงคืนหลังออกจากร้านเหล้า ตนกับสามีและเพื่อน ๆ ก็ยืนคุยกับการ์ดอยู่ จากนั้นก็มีรถเก๋งของคู่กรณีขับพุ่งเข้ามาที่หน้าร้าน เกือบจะพุ่งชนตนกับสามี

ทำให้สามีของตนตะโกนบอกรถเก๋งว่าให้ขับรถดี ๆ และถามว่ามีอะไรหรือเปล่าถึงจะพุ่งชน คู่กรณีก็ตอบว่า "ไม่มีอะไรครับ" จากนั้นก็ขับไปจอดที่ฝั่งตรงข้าม ต่อมาสามีก็ขับออกจากร้านไป โดยมีตนซ้อนท้าย แต่เห็นว่ารถเก๋งคู่กรณีก็ขับตามมาเหมือนจะชนหลายรอบ สามีตนก็พยายามตะโกนถามว่า "มีอะไรหรือเปล่า" แต่เขาก็ไม่ตอบ

จนกระทั่งสามีตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จึงให้ตนไปนั่งในรถกระบะกับเพื่อนอีกคน แล้วให้นายวิษณุมานั่งซ้อนท้ายสามีแทน จนกระทั่งไปเกิดเหตุที่หน้าอู่ แล้วพอตนไปถึงก็เห็นสามีและนายวิษณุในสภาพที่ไม่หายใจแล้ว ซึ่งจากภาพวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุ ตนมั่นใจว่าตัวของคู่กรณีตั้งใจชน ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุแน่นอน

ความรู้สึกตอนนี้ยอมรับทั้งน้ำตาว่ายังทำใจไม่ได้ คิดถึงสามีมาก เพราะอีกไม่นานเขาก็จะได้เห็นหน้าลูกและที่ผ่านมาสามีพร่ำบอกกับเขาตลอดว่า อยากให้ลูกคลอดออกมาแล้วหน้าตาดีเหมือนเขา และสัญญากับตนว่าจะอยู่ดูแลลูกไปด้วยกันตลอด แต่สุดท้ายในเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว ตนก็พร้อมที่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูก

ส่วนบรรยากาศงานศพของนายวิษณุ ซึ่งถูกจัดขึ้นที่วัดทุ่งลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทีมข่าวเดินทางไปที่งานศพ โดยเมื่อไปถึงด้านของนางสาวจตุพร ชูชาติ อายุ 27 ปี ภรรยา ก็ได้มีการนำอาหารไปตั้งไว้ข้างโลงของสามี พร้อมกับเคาะเรียก

นางสาวจุตพร ให้สัมภาษณ์พร้อมกับนางวาสนา บุญสุวรรณ อายุ 55 ปี แม่ของนายวิษณุ บอกว่าคืนที่ผ่านมาตอนที่ลูกออกจากบ้าน ตนไปงานศพพอดี จึงไม่ได้มีการพูดคุยหรือรำ่ลากันเป็นครั้งสุดท้ายเลย มารู้ข่าวอีกทีคือลูกชายประสบอุบัติเหตุถูกรถชน เพราะลูกสะใภ้ที่ไปเที่ยวด้วยกันโทรมาบอก ยอมรับว่านาทีนั้นตกใจและร้องไห้หนักมาก พยายามภาวนาในใจตลอดว่าขอให้เป็นอุบัติเหตุไม่ร้ายแรง ขอให้ลูกชายแค่สลบไปเท่านั้น แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อตนไปถึงลูกชายก็มีเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณแล้ว

ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับภรรยาเขาและเพื่อนฝูง ตอนนี้จึงทำใจไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาลูกชายเป็นเสาหลัก ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูภรรยาและลูกสาววัย 5 ขวบที่มีกับภรรยาคนก่อนด้วย พอเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็หมดหนทางเดินหน้าต่อเหมือนกัน

นางสาวจตุพรยืนยันว่าตลอดชีวิตคู่ 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน สามีไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่เคยหาเรื่องใครมาก่อน เที่ยวเสร็จก็กลับบ้าน ไม่เคยไปชกต่อยกับใครเลย เพราะฉะนั้นตนมองว่าชนวนน่าจะมาจากเหตุการณ์หน้าร้านเหล้ามากกว่า และเท่าที่ตนประเมินภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าคู่กรณีตั้งใจชน

คอนเทนต์แนะนำ

"ช่างเบิร์ด" ลุ้น! บริษัทไชน่าเรลเวย์-อิตาเลียนไทยสัญญาจ่ายเงินก้อนแรก

"บิ๊กป้อม" เข้าสภาฯ ร่วมเซ็นชื่อถกงบประมาณ 69 วันแรก

ไทยติดอันดับ 25 จาก 145 ประเทศระดับท็อป “ความแข็งแกร่งทางทหารปี 2025”