ทนายเดชา เป็นห่วงเเม่เเตงโม กลัวหลงผิดเชื่อทีม ส.ส.เต้ จะเป็นผลเสียในการสู้คดีในชั้นศาล เตือนเผยเเพร่ภาพศพผิดกฎหมาย วอนทีมทนายดูเเล ทั้งนี้ไม่หวั่นกรณี ส.ส.เต้จะเเจ้งความฐานข่มขู่ เเละร้องเรียนมรรยาททนายความ ลั่นพร้อมโต้กลับจนกว่าจะหลุดเก้าอี้ ส.ส.
วันที่ 4 มิ.ย.65 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ จะเดินทางไปเเจ้งความความตนเองที่ สน.บางโพ ดำเนินคดี ตาม มาตรา 328 หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นฯ มาตรา 392 ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และผิดมรรยาททนายความ
ส่วนกรณีที่นายมงคลกิตติ์ ระบุว่าสัปดาห์หน้า คุณเเม่จะนำภาพศพของเเตงโมมาเปิดเผย เพื่อให้เห็นข้อพิรุธของการเสียชีวิต ทนายเดชา ระบุว่า ตนเองเป็นทนายคดีเกี่ยวกับการฆ่าคนตายมาเยอะ ไม่เคยเห็นพ่อเเม่หรือครอบครัวไหนเอาภาพคนตายมาเเถลงข่าว เป็นเหมือการทำซ้ำ ทำลายผู้ตายซ้ำสอง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายกระทำการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ไม่หมาะสม อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายรับรองในการเอาภาพศพมาเผยเเพร่ หากภาพศพดังกล่าวสามารถเปลี่ยนคดีว่าเป็นฆาตกรรมจริง ควรเอาไปเปิดในชั้นศาล ไม่ควรนำมาเเถลงข่าว เพราะนอกจากจะเป็นการเหยียดหยามศพเเล้ว ยังเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย เเต่สิ่งที่ควรทำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ คือหลักฐานที่กล่าวอ้างว่าเเตงโมถูกฆาตกรรม เพราะสังคมรอดูหลักฐานชิ้นนี้มานานเเล้ว สมควรนำมาเปิดเผยต่อสังคมให้รับรู้ เพื่อความยุติธรรมของเเตงโม
อีกทั้งในขณะที่คุณเเม่ยังเป็นลูกความของตน ก็ไม่เคยมีข้อสงสัยในเรื่องของศพเเละบาดเเผลใด ๆ เลย เพราะขณะที่รับฟังข้อเเถลงจากนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ก็ได้ซักถามข้อสงสัย เป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง เเม่ก็ซักถามทั้งเรื่องกระโหลก ฟัน จนสิ้นข้อสงสัย ว่าไม่มีร่องรอยการทำร้าย ดังนั้นเชื่อว่าการที่เเม่เกิดความสับสน จากครั้งเเรกไม่สงสัยเรื่องสภาพบาดเเผล เเล้วต่อมาเกิดความสงสัยในข้อพิรุธ ทั้งนี้น่าจะเกิดจาก นายมงคลกิตติ์และนายอัจฉริยะเป็นผู้ให้คำเเนะนำ
ส่วนกรณีที่วันนี้ นายมงคลกิตติ์ เเละคณะจะมีการประชุมเรื่องการร่างคำฟ้องต่อศาลในคดีเจตนา ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงคุณเเม่มากยิ่งขึ้น เพราะหากคุณเเม่ฟ้องเองโดยตรง จะมีผลเสียมากกว่า เพราะเป็นการฟ้องข้อหาที่ขัดกับข้อหาของอัยการ โดยอัยการจะยื่นฟ้องในวันที่ 23 มิถุนายน ในข้อหาประมาทฯ เเต่คุณเเม่จะยื่นฟ้องในวันที่ 18 มิถุนายน ในข้อหาเจตนาซึ่งขัดกัน ดังนั้นคุณแม่จะไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ ต้องไปเป็นโจทก์คดีเจตนาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ทนายเดชาไลฟ์สดแถลงข่าว นายมงคลกิตติ์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "แจ้งทีมกฎหมายพิจารณาเเล้วว่า ไม่เปิดเผยภาพเเตงโม หลังเสียชีวิต เกรงว่าจะผิด ป.อาญา ม.366/4 เรียนมาเพื่อทราบ"
และข้อความว่า "ดาบ1" 8/6/65 ผม จะไปแจ้งความ ที่ สน.บางโพธิ์ ดำเนินคดี ตาม ม.328, ม.309,ม.392 และ มรรยาทฯ
ด้านแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของคุณแตงโม กล่าวถึงประเด็นการนำรูปภาพศพของคุณแตงโมมาเผยแพร่ คุณแม่ตอบว่าในเรื่องนี้ให้ทาง ส.ส.เต้ เป็นคนตัดสินใจ แต่โดยส่วนตัวทางครอบครัวก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว มีความคิดเห็นว่าไม่เหมาะสม และสงสารแตงโม จึงได้มีการพูดคุยกับทีมที่ปรึกษาแล้วเมื่อคืน
ซึ่งตอนนี้ในส่วนของคุณแม่ภนิดากำลังเตรียมรวบรวมเอกสารสำคัญทั้งในส่วนของคุณแม่และแตงโมเพื่อนำไปให้ทีมกฎหมายใช้ประกอบในการยื่นฟ้องเอง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคุณแม่ภนิดา เรื่องการฟ้องร้องเอง ว่าคุณแม่กังวลว่าจะแพ้คดีหรือไม่เพราะยังไม่หลักฐานที่ชัดเจนว่าแตงโมถูกฆาตกรรม คุณแม่ขอไม่ตอบคำถามนี้และระบุว่าแม่ไม่เข้าใจเรื่องกฎหมาย ขอให้คุยกับทนายอู๋แทน แต่ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อสู้กับคดี เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว โดยในวันอังคารนี้จะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เพื่อให้ปากคำในกรณีที่ส่งมือถือให้กับบังแจ็ค โดยมีเจตนาเพียงแค่ให้กู้ข้อมูล เพราะดำเนินการในประเทศไทยแล้วไม่มีใครสามารถดำเนินการให้แม่ได้จึงส่งให้บังแจ็คไปดำเนินการ
ขณะที่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 มิ.ย. 65 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาไลฟ์ผ่านช่องยูทูบ “โคนัน เมืองไทย” ใช้เวลาประมาณ 38 นาที มีใจความสำคัญว่า จะออกมาแฉเรียงตัวคนบนเรือโดยเฉพาะคนสำคัญที่ไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยตั้งแต่เกิดเหตุ เก็บตัวเงียบมาตลอด เคยแต่ไปนั่งเรือมองแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่คนเดียวแบบมีปริศนา และบังเอิญว่ารองเท้าของบุคคลนี้เปื้อนเลือด แต่ออกมาบอกว่าเป็นเฮลบลูบอย ซึ่งตัวเองก็ไม่ทราบว่าหลักฐานชิ้นนี้ทางตำรวจภาค 1 ได้เก็บมาไหม ได้เข้าไปอยู่ในสำนวนหรือไม่ โดยจากการตรวจสอบ พบคราบเลือดทั้งหมด 2 จุด จุดแรกอยู่ในเสื้อของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีคนออกมาสารภาพกันเองโดยที่ตัวเองไม่ได้ไปทำอะไรเลย
ฉะนั้น ยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ต่อ ฟ้องเอง เพราะจากการที่พูดคุยกับคุณแม่ภนิดาแล้ว ทางคุณแม่ก็อนุญาตให้ฟ้องตรงได้เลย โดยคุณแม่อนุญาตให้มีการฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ก่อนวันที่ 23 มิ.ย. 65 ทำให้สบายใจขึ้นมาก เหลือเพียงขั้นตอนการร่างฟ้อง โดยวันเสาร์นี้จะมีประชุม ทีมทนาย ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเบิกความคดีอีกครั้ง
นอกจากนี้ มีความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊กแตงโม มีการลงภาพคนบนเรือหัวขาด ทีมข่าวพยายามสอบถามบังแจ็คถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่ยังติดต่อไม่ได้
ด้านเฟซบุ๊ก "Tavatchai Kanchanarin" โพสต์ข้อความว่า "จนถึงวินาทีนี้ ไม่เคยเห็นบุคคลในภาพตัวจริง (ยกเว้นพี่ไทด์ที่เจอตอนช่วยน้ำท่วม) ไม่มีเรื่องเงิน หรือผลประโยชน์ใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง และ ยังมีทีมงานอีกจำนวนมาก ช่วยเหลือเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการให้ความรู้ตามวิชาชีพ หาข้อมูล หาข่าว ปล่อยข่าวเพื่อยืนยัน AF (ล่าสุดก็งานวิจัย 555 เมื่อวานแสดงอาการ “หัวร้อน” ตอนเจอแสง ต่างจากทุกทีซึ่งเจอแสงแล้วอารมณ์ดี) ช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ การทดสอบ ฯลฯ และที่สำคัญมากๆ คือ การแชร์ ประชาสัมพันธ์ ความจริง vs บอยคอตการกระทำที่ระยำ (ไม่ว่าจะอยู่ในสำนวนหรือนอกสำนวน) ประชาชนที่ไม่ยอมสยบต่อความอยุติธรรม ทุกคนคือฮีโร่ อย่าปล่อยให้ความกลัวหรือความเพิกเฉยปิดบังความเป็นฮีโร่ในตัวคุณ เราไม่ได้สู้เพื่อน้องแตงโมคนเดียว แต่สู้กับการฉ้อฉลของผู้มีอำนาจรัฐและบริวาร"
ด้านเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท" โพสต์ภาพพร้อมกับ ส.ส.เต้ ยืนจับมือกัน แคปชั่นว่า "เดี๋ยวก็รู้ครับ พี่เดชา"
Advertisement