จากกรณีที่ทหารเก๊หลอกสาวโรงงานจัดงานแต่งงาน สูญเงินกว่า 6 แสนบาท ล่าสุด เข้ามารับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
วัทนี่ 17 พ.ค. 65 เวลา 13.00 น. นายเอก ได้เดินทางมากับญาติ เพื่อพบพนักงานสอบสวน สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีนายสุรพล ศรีอวน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาดี (อบต.) เป็นผู้นำพาเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.นาดี ตามหมายเรียก
นายเอก เปิดใจว่า ตอนนั้นไม่ได้คิดหนีเจ้าสาวแต่อย่างใด แต่เกิดมีปัญหาเรื่องสินสอดที่จะจัดงานแต่งงาน เมื่อไม่พร้อมเรื่องเงินค่าสินสอดจึงไม่มาในวันแต่งงาน วันนี้ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หนีเจ้าสาว แต่มีปัญหาเรื่องการเงิน วันนี้จะมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่าจะยอมผ่อนชำระค่าจัดงานแต่งเป็นงวด ไม่รู้ว่าทางไปผู้เสียหายจะยอมรับ และให้อภัยหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นอยากจะขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียชื่อเสียง และขอรับผิดชอบ
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ภักดี สารวัตรสอบสวน สภ.นาดี เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร อ้างยศเพื่อหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ มาตรา 146 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี จึงไม่จำเป็นต้องประกันตัวแต่อย่างใด
โดยทางเรื่องหนี้สินจากการจัดงานเลี้ยงสมรส ได้ยอมรับผิด และยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด มีค่าใช้จ่ายงานแต่งจำนวน 05,000 บาท รวมทั้งค่าทำให้อับอายเสียหน้าอีก 300,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 605,000 บาท ตกลงผ่อนจ่ายให้เดือนละ 62,000 บาท จนกว่าจะหมด จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.น้ำทิพย์ เจ้าสาวที่ถูกหลอกแต่งงาน หลังจากเดินทางกลับมาจากโรงงานพอดี ท่าทางนิ่งเฉย และซูบผอมลงไปเยอะ หลังจากงานแต่งล่ม โดยไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพราะสภาพจิตใจยังอยู่ โดยทีมข่าวถามว่าทราบหรือไม่ว่าคู่กรณีเข้ามาที่สถานีตำรวจแล้ว น.ส.น้ำทิพย์ก็บอกว่าทราบจากพี่สาวแล้ว แต่ตนไม่เดินทางไป เพราะไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากพูดคุยติดต่ออะไรกับนายเอกอีก ทั้งนี้ นายเอกได้ติดต่อมา ไลน์มาทุกวัน ทำนองว่าคิดถึง รัก อยากกลับมาแก้ไข ซึ่งตนไม่ตอบใด ๆ ทั้งนั้น และขอตัดขาดกับชายคนนี้
นายจักรพันธุ์ พี่ชายผู้เสียหาย บอกว่าวันนี้ก็ไปดำเนินการแทนน้องสาว ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายเอก เพราะหมดความไว้เนื้อเชื่อใจกับนายเอก โดยนายเอกก็ยินยอมจะชดใช้เงินคืนให้ เดือนละ 62,000 บาท ซึ่งตนก็คิดว่าไม่น่าเชื่อว่าเขาจะคืนให้แบบนั้น แต่นายเอกยืนยันจะคืนเป็นมั่นเป็นเหมาะต่อหน้าตำรวจ ซึ่งก็เชื่อว่าครั้งนี้นายเอกก็คงโม้อีก เพราะที่ผ่านมาเขาโกหกทุกเรื่อง โกหกทุกอย่าง แม้กระทั่งอาชีพของตัวเอง
สำหรับตนและครอบครัวบอกได้คำเดียวว่าไม่ให้อภัยนายเอก เพราะทำให้ที่บ้านอับอาย และน้องสาวกินข้าวไม่ได้ 2 สัปดาห์เต็ม นี่เพิ่งเริ่มกลับไปทำงานได้
Advertisement