เปิดใจ! สาวเอนฯถูกแฟนหนุ่มบาร์โฮสจับมัดเชือกกระทืบน่วม ฉุนบอกเลิก ฝ่ายชายกร้าวไม่รู้อย่ายุ่ง (คลิป)
จากกรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 65 มีสาวสวยรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเป็นภาพที่ตัวเธออยู่ในสภาพบอบช้ำ เขียวม่วงไปทั้งตัวและใบหน้า เนื่องจากถูกแฟนเก่าทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 65 พร้อมเขียนข้อความอธิบายว่าถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด วันที่ 14 พ.ค. 65 นางสาววาวา อายุ 32 ปี อาชีพรับงานเอนเตอร์เทน เล่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแฟนหนุ่มที่เป็นผู้ก่อเหตุคือ นายโอม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี อาชีพพนักงานบาร์โฮส ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ กทม.
ต้นปี 2560 ตนเริ่มรู้จักกับนายโอมผ่านทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากด้วยลักษณะสายงานคล้ายกัน จึงทำให้ได้เจอกันบ้างทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ กทม. หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ แต่เป็นฐานะเพื่อนและคนรู้จักเท่านั้น จนกระทั่งเดือน เม.ย. 64 นายโอมติดต่อมาจ้างตนให้ไปรับงานเอนเตอร์เทนในบาร์แห่งหนึ่ง จ.เชียงใหม่ จึงทำให้ได้พูดคุยและพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนคุย
เดือน มิ.ย. 64 ขณะที่ตนยังพักอยู่ในพ้องพักพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้านของนายโอมขอตนเป็นแฟน ตนก็เลยตกลงเริ่มคบหากันตั้งแต่ตอนนั้น เนื่องจากดูท่าทีเหมือนว่าเขาจะเป็นคนดี ที่ผ่านมาเขามาหาที่ห้องบ่อย ใช้ชีวิตด้วยกันบ่อย เขาชวนไปกินข้าว ดูหนัง ทำกับข้าวด้วยกัน ดูแลเป็นอย่างดี คิดว่าคงไปด้วยกันได้ ต่อมา ส.ค. 64 นายโอมเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อารมณ์รุนแรงขึ้น เวลาเมาก็มักจะเอะอะโวยวาย ทำร้ายร่างกายตนโดยไม่มีเหตุผล ด้วยการชกต่อย เตะ และทุบตี ยิ่งตนยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ถึงขั้นที่ว่าเคยก้มกราบเท้าขอชวิตแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ กลับกลายเป็นเขายิ่งได้ใจ ยิ่งทำร้ายตนหนักเข้าไปอีก เหมือนกับคนที่มีภาวะทางจิต
จนกระทั่ง ก.ย. 64 ตนบอกกับนายโอมว่าจะย้ายออกไปอยู่คอนโดฯคนเดียวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่ยังไม่เลิกรากัน นายโอมพยายามตื๊อขอไปอยู่ด้วย อ้างว่าจะไม่ทำอีก ตนก็เลยใจอ่อนเพราะรัก จึงพากันไปอยู่ที่คอนโดฯแห่งนี้ แต่พอเข้าสู่เดือน ต.ค. 64 พฤติกรรมของนายโอมก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับจากทำงานในผับบาร์ แล้วจะมีอาการเมาค้าง จากนั้นก็หาเรื่องตน ทุบตีทำร้ายร่างกายตน เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ หนักไปกว่านั้นช่วงปลายเดือนถึงขั้นอุ้มตนแล้วจะโยนลงออกจากทางระเบียงคอนโดอยู่ชั้น 8 แต่โชคดีที่ตนร้องขอชีวิตไว้ทัน
ต่อมา ม.ค. 65 รวมตลอด 4 เดือน ตนถูกทำร้ายมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งที่ทำร้ายเสร็จ เขาจะนอนหลับ พอตื่นขึ้นมาก็จะกลายเป็นคนละคน พูดจาดี ขอโทษ อ้างว่าจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ทั้งที่เห็นตำตาว่าร่างกายตนเขียวช้ำไปหมด จนกลายเป็นว่าตนรู้สึกมีภาวะดิ่ง คิดอยากจะฆ่าตัวตายบ่อย ๆ จึงเดินทางไปปรึกษาจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉพาะทางใน จ.เชียงใหม่ แพทย์ก็วินิจฉัยออกมาว่าเป็นอาการของคนที่กำลังมีภาวะซึมเศร้า พร้อมกับจ่ายยาให้ตนทุก 2 เดือน แล้วตอนนั้นด้วยความที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่อยากไปต่อกับผู้ชายคนนี้แล้ว จึงขอเลิกราและแยกอยู่ระยะหนึ่ง ตนก็ย้ายออกมาอยู่ในคนเดียวปัจจุบัน
และด้วยภาวะซึมเศร้า มันทำให้ตนรู้สึกว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ มันเหงา มันโดดเดี่ยว คิดไปคิดมาก็คิดถึงตอนที่ยังรักกันดี จึงตัดสินใจติดต่อไปของ้อคืนดีกับนายโอมอีกครั้ง แล้วในเดือน เม.ย. 65 ก็ได้กลับมาคบกัน แต่สุดท้ายตนก็เจอกับฝันร้ายเหมือนเดิม โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุกาณณ์ไว้ได้ ขณะที่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างห้องกัน
จนล่าสุดตนแจ้งตำรวจ เมื่อไปถึงโรงพัก นายโอมก็ใช้ลูกไม้ออดอ้อนขอคืนดีต่อหน้าตำรวจ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “ที่รัก กลับบ้านกันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ไม่นึกถึงตอนรักกันเหรอ” แต่ตนไม่ยอม ตั้งใจจะดำเนินคดีทำให้นายโอมไม่พอใจ แล้วเปิดรอยช้ำที่บริเวณขาอ่อนฝั่งขวาให้ตำรวจดู แล้วอ้างว่าโดนตนทำร้ายเหมือนกัน ทั้งที่ตนไม่ได้ทำอะไรเลย อยากฝากบอกนายโอมว่าครั้งนี้หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย หากได้คบกับคนอื่นหวังว่าจะไม่ทำแบบนี้กับคนอื่น เพราะผู้หญิงเป็นเพศแม่
ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อนายโอม เจ้าตัวระบุว่า "ผมไม่ชี้แจงนะครับ พี่ไม่รู้อะไร พี่อย่าพูดดีกว่า พี่ไม่ต้องโทรมาหาผม พี่ไม่รู้เหี้-อะไร พี่ไม่ต้องโทรมาหาผม เข้าใจไหม" แล้วก็ย้ำเหมือนเดิมว่า "พี่ไม่รู้อะไร พี่ไม่ต้องโทรมาหาผม พี่ไม่ต้องทำมาเป็นพูดเสียงเพราะ มึงไม่ต้องทำมาเป็นพูดเสียงเพราะ ไม่รู้อะไร ไม่ต้องทำมาเป็นพูด"
Advertisement
