จากคลิปเหตุการณ์กล้องวงจรปิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 เม.ย. 65 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุก แล้วเสียหลักพุ่งลงคลองชลประทาน บนถนนสายน้ำบ่อหลวง-สันป่าตอง ข้ามแม่น้ำฟู บ้านร้องขุ้ม ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พบว่ามีรถยนต์กระบะคันหนึ่ง ทราบชื่อผู้ขับ นายประเสริฐ ชีวีนิธิสกุล อายุ 25 ปี ขับตามหลังรถบรรทุกมา บนช่องทางซ้ายของถนนดังกล่าว ก่อนที่จะเร่งเครื่องคล้ายจะแซง แต่กลับพุ่งชนท้ายรถบรรทุกแทนที่จะแซงขวา จนทำให้รถยนต์กระบะกระเด็นตกลงไปในคลองชลประทาน ส่วนรถบรรทุกที่ถูกพุ่งชนนั้น ได้ขับไปเหมือนกับไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้บริเวณด้านหน้ารถกระบะไปจนถึงห้องผู้โดยสารพังยับเยิน หลังคาเปิดทั้งหมด ล้อหน้า 2 ฝั่งบิดเบี้ยวผิดรูป สภาพเปื้อนโคลน ไม่มีเครื่องรางของขลังอยู่ภายในรถ ปัจจุบันถูกเคลื่อนย้ายมาจอดไว้ที่ สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ แล้วเรียบร้อย
ในขณะที่คนขับ นายประเสริฐรอดตายปาฏิหาริย์ และได้รับบาดเจ็บ เป็นลักษณะแผลถลอกที่บริเวณใบหน้า ปากฉีก คิ้วขวา ตาขวา คางขวามีแผลฉกรรจ์ ไม่พบแอลกอฮอล์ในปัสสาวะ และโทรศัพท์มือถือหายระหว่างเกิดอุบัติเหตุด้วย เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ปัจจุบันยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการว่ามีเลือดออกภายในร่างกายหรือไม่
จากการสอบถาม เจ้าตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีอาการง่วงและหลับใน จึงทำให้กะระยะไม่ถูก จนชนท้ายเกิดอุบัติเหตุตามคลิป ส่วนด้านของรถบรรทุก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้เบอร์ติดต่อได้ เนื่องจากเป็นรถบรรทุกของบริษัทเอกชน และหลังจากนายประเสริฐรักษาตัวหาย จะนัดทั้ง 2 ฝั่งมาสอบปากคำอย่างละเอียด และไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกัน
ล่าสุด วันที่ 13 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางย้อนกลับไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นคลองกลางถนน มีน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเป็นร่องลึกประมาณ 2-3 เมตร เนื่องจากอยู่ในระหว่างที่มีการซ่อมแซมสะพาน ทำให้ด้านล่างนั้นมีเหล็ก อุปกรณ์การก่อสร้างวางไว้อยู่ที่ก้นคลองจำนวนมาก และพบซากชิ้นส่วนรถกระบะตกอยู่กระจัดกระจาย
นายซั่ง ชีวีนิธิสกุล อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อ วันนี้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายด้วยตัวเอง บอกว่า ครอบครัวของตนเป็นชาวม้ง เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 65 ตอนประมาณ 2-3 ทุ่ม ลูกชายขับรถคันที่เกิดเหตุออกจากบ้านที่ ต.ดอนเปา จ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ตอนเช้าอีกวันถึงจะกลับ
ซึ่งตลอดทั้งคืนก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ ลูกชายก็ไม่ได้ติดต่อมาด้วย จนกระทั่งเช้าของวันที่ 12 เม.ย. 65 ลูกสาวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุก วินาทีนั้นคือตกใจเกือบช็อก ใจหายมาก คิดว่าลูกจะรอดหรือไม่ แต่พอเจ้าหน้าที่บอกว่าลูกปลอดภัยก็โล่งอก วันนี้จะเดินทางมาเยี่ยม เบื้องต้นเท่าที่สอบถามอาการกับแพทย์ อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังเจ็บตา คางและคอ ที่โดนกระแทก จึงยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ปกติลูกชายไม่ได้แขวนพระหรือนับถือเครื่องรางของขลังอะไรไว้ที่ตัว ลูกชายนับถือเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือผีปู่ย่าตายายและบรรพบุรุษ เพราะตนเคยพร่ำสอนเสมอว่าก่อนจะออกจากบ้านหรือไปไหนไกล ๆ ให้เอ่ยปากขอให้บรรพบุรุษคุ้มครอง และสั่งตลอดว่าให้ขับรถช้า ๆ แต่ด้วยความที่ลูกชายเป็นวัยรุ่น เขาก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง บวกกับครั้งนี้ลูกชายคงง่วงแล้วหลับไหน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ
นายอนันตศักดิ์ จรเสถียร อายุ 25 ปี, นายสุเมฆ ตุ้ยสุวรรณ อายุ 27 ปี และนางสาวกิ่งกาญจน์ ดิษกุล อายุ 27 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าได้รับแจ้งเหตุประมาณ 06.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถชนกันและตกลงข้างทาง จึงรีบเดินทางเข้าตรวจสอบ พอมาถึงภาพที่เห็นคือรถกระบะลงไปนอนคว่ำอยู่ในคลอง สภาพพังยังเยิน แต่ในขณะเดียวกัน นายประเสริฐ คนขับ ก็เดินขึ้นมาจากคลองด้วยท่าทางที่ปกติมาก ไม่ร้องไห้หรือขอความช่วยเหลือใด ๆ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้าหลายจุด เห็นว่าพยายามเดินหาโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ แต่เจอแค่กระเป๋าสตางค์อย่างเดียว เจ้าหน้าที่จึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ซึ่งระหว่างที่มีการทำแผลก็ได้ถามนายประเสริฐว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าตัวบอกว่ากำลังจะขับรถกลับบ้านที่ ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ แต่ก่อนเกิดเหตุไม่รู้สึกตัวเลย น่าจะง่วงและหลับใน จึงทำให้ไม่เห็นรถบรรทุกข้างหน้า ก็เลยรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ในฐานะเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฎิบัติหน้าที่มาหลายปี ก็ยอมรับว่าดูจากคลิปวงจรปิดแล้วร้อยละ 90 ไม่น่าจะรอด แล้วยิ่งตรงก้นคลองมีพวกเหล็กไม้ซึ่งเสี่ยงที่จะเสียบเข้ากับร่างกายได้ จึงอยากจะฝากเตือนให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับช่วง 7 วันอันตรายหรือทุกวันในการใช้รถใช้ถนน หากเมาหรือง่วงก็แวะนอนก่อน จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นด้วย
Advertisement