บุ๋ม ไม่ทนท้าบังแจ็คกลับไทย อย่าปากเก่งพูดเท็จ "ป๋าวัน" ตะเพิด "มึงพูดชื่อกูให้ชัด" (คลิป)
หลังจากพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” แจ้งความที่กองปราบปราม พร้อม “ทนายตั้ม” และ “แจง ปุณณาสา” ภรรยาของ “แจ๊ส ชวนชื่น” หลังทนไม่ไหวกับพฤติกรรม “บังแจ็ค” ขู่ฆ่าและหมิ่นประมาท จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทั่ง “บุ๋ม ปนัดดา” ก็ได้ออกมาโพสต์วีรกรรมที่บังแจ็คที่เคยทำไว้เมื่อปี 2560 โดยระบุข้อความว่า "อยู่ดีๆ ก็เห็นคนไปให้ค่าบังแจ็คเหมือนเป็นฮีโร่ บุ๋มบอกเลยนะคะ อย่าไปให้ค่าคนๆนี้ เมื่อปี 2560 เขาขู่ทำร้ายบุ๋มและดาราอีกหลายคน ใช้อาวุธมากมายวางบนเตียง แล้วบอกว่าถึงกรุงเทพแล้ว หนีได้หนีไป แต่คนแบบบุ๋มไม่หนีค่ะ และรออยู่ที่เดิมมาห้าปีแล้ว ไม่เห็นโผล่มาสักที แต่ดันไปหาเรื่องพี่หนุ่ม กรรชัยและแจ๊ส ชวนชื่น ตอนนั้นบุ๋มแจ้งความไว้ที่ พันตำรวจโท ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน ตำรวจภูธรเมืองปากเกร็ด ค่ะ บุคคลนี้เป็นภัยสังคมและเป็นบุคคลอันตรายค่ะ ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อนะคะ"
วันที่ 11 เม.ย. 65 “บุ๋ม ปนัดดา” กล่าวว่า เรื่องของเรื่องที่ตนออกมาโพสต์เพราะได้ยินคำกล่าวอ้างของ “บังแจ็ค” ว่าเขาไม่ได้มีคดีติดตัว ซึ่งหนุ่ม กรรชัยก็ได้เดินทางไปที่กรมสืบสวนสอบสวนกลาง เพื่อไปค้นหาก็ไม่เจอ จากที่ได้คุยกับหนุ่มก็บอกว่ามันมีข้อมูลการแจ้งความ เพียงแต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ลงข้อมูลหรือเปล่า เพราะว่ามันหลายปีแล้ว แต่จากที่สอบถามมา ทราบเพียงแต่ว่า “บังแจ็ค” เข้าประเทศไม่ได้เพราะคดีของตน ตอนนี้ตนก็รออยู่ ตนจะรอคล้องพวงมาลัยให้
จากที่ตนกลับมาโพสต์ถึงเขา มองว่าไม่ได้เป็นการเพิ่มแสงให้เขาหรอก หากไม่ทำอะไรสังคมจะอยู่กันอย่างไร จะให้กลัวคนชั่วเหรอ เขาขู่ฆ่าตนนะ จะให้ตนเองมานั่งมีความสุขก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ตนทำก็เพื่อปกป้องตนเอง เพราะตนอยู่ในแสง อยู่ในที่สว่าง ไปถ่ายรายการที่ไหนกี่โมง คนรู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นตนคือคนที่จะถูกทำร้ายได้ง่าย และตอนที่ตนถูกขู่ฆ่า เขาก็ยังอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ต่างประเทศเหมือนทุกวันนี้ ดังนั้นวันนั้นตนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งความ เพราะมันไม่คุ้มเสี่ยง
ตนขอถามกลับว่ามีอะไรที่ “บังแจ็ค” พูดแล้วเป็นความจริงบ้าง ยังไม่มีเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสื่อถึงให้พื้นที่มันจังเลย มุกมันก็มีอยู่แค่นี้ เมื่อถูกต้อนจนมุมมันก็ขู่ฆ่า แต่ขอบอกตามความจริงว่ามันฉลาดพูด มันรู้ว่าจะพูดแค่ไหน อย่างเช่น ก่อนหน้ามันพูดว่ารายการของตนตัดต่อซึ่งความเป็นจริง รายการตัดต่อทุกคน เพราะสัมภาษณ์มา 1 ชั่วโมง เวลาออกอากาศแค่ 40 นาทีจะเอาอะไรมาทัน ซึ่งส่วนที่ตัดออกไปก็เป็นประเด็นที่มันไม่ได้สาระ ประเด็นอะไรที่สำคัญเราใส่อยู่แล้ว แต่มันมาอ้างว่าสิ่งที่มันต้องพูดคือส่วนที่ตนตัดออก มันจึงด่าตนเองจากส่วนนั้น จึงขอยืนยันตรงนี้ว่ามันไม่ได้พูดอะไรที่มีสาระ และไม่ได้แจกเงินคนจริง เมื่อโดนต้อนมาก ๆ มันก็ขู่ฆ่าอย่างกรณีของพี่หนุ่มเลย
ตนเชื่อว่าสิ่งที่ “บังแจ็ค” กระทำ เพราะมันต้องการแสง ต้องการให้คนเห็นแสงของมันแค่นั้น มันมีความสุข คนบางคนมันมีความสุขกับเรื่องแค่นี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนถึงไปให้ค่ามัน แล้วก็แชร์กันเยอะเหลือเกินในข้อมูลอันเป็นเท็จ เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ตนขอยืนยันคำพูดที่มันเคยพูดว่าไม่มีใครเคยแจ้งความมัน "ฉันแจ้งจะ มันหนีจะ ถ้าไม่มีการแจ้งความตำรวจก็ผิดจะ"
ส่วนคดีของตนเองในตอนนี้คงไม่ต้องรอดำเนินการอะไร คงต้องรอมันกลับมาเมืองไทยอย่างที่มันพูด หากบอกว่ากลับมาได้ ก็กลับมา แต่ถ้าหากจะให้ตนไปตามจับถึงต่างประเทศ ตนเสียเวลา เสียดายเงิน ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น คงไม่ต้องใช้ตำรวจ อินเตอร์โปลหรอก สุดท้ายก็อยากจะบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่าไปให้ค่ากับคนประเภทนี้ อย่าไปแชร์ข้อมูล อะไรที่เคยแชร์ไว้ก็ลบให้หมด มันคือข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องช่วยกันปกป้องความเป็นจริงด้วย ฉะนั้นคนแบบนี้เราไม่ควรให้ค่าและไม่ควรให้แสง ไม่ต้องเชื่ออะไรทั้งสิ้น
ขณะที่ "วัน อยู่บำรุง" โพสต์คลิปขณะที่บังแจ็คพูดพาดพิงถึงเจ้าตัว แต่พูดเอ่ยชื่อว่า "หวัน อยู่บามรูง" เป็นภาษาไทยสไตล์ชาวต่างชาติ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย กล่าวหาว่าอดีตเป็นคนขายยาเสพติด ไม่ใช่คนดี และโกรธที่ถูกวัน อยู่บำรุงบล็อกการติดต่อด้วย โดยมีการระบุข้อความแคปชั่นว่า "ไอ้สั-...ทำไมกรูขำ? หวัน อยู่บามรูง มันจะเยี่ยว ตก5555"
Advertisement
