2 ร้านฉะกันนัว สาวโอเกะลากมีดฟันยัวะถูกท้า - สาวส้มตำแค้นโดนด่าไม่อร่อย (คลิป)
กรณีผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่งนำภาพกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่ พบว่าเป็นร้านขายส้มตำแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง หญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี กำลังถือมีดยาวฟันรั้วข้าง ๆ ร้านส้มตำ พร้อมกับตะโกนด่าทอใส่แม่ค้าส้มตำด้วยคำพูดท้าทายกันไปมา โดยผู้ใช้ tiktok รายนี้ ระบุข้อความอีกว่า “#รู้สึกตัวเองจะไม่ปลอดภัยเอาซะเลย มีทั้งปืนมีทั้งมีด เห็นว่าเราเป็นคนลาว จะคิดจะพูดจะข่มจะขู่จะฆ่าจะแกงยังก็ได้ได้เหรอคะ โดนทุกการกระทำดูคะ #คนลาว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุร้านอาหารตามสั่ง ริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง จึงได้พูดคุยกับนางธนาพร กองทอง หรอื เจ๊เหมียว อายุ 41 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ถือมีดยาว กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดคือตนจริง ๆ สาเหตุที่ถือมีดไปฟันร้านส้มตำ ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่โมโหแล้วถือมีดมาขู่เท่านั้น เพราะคนที่ขายส้มตำ ชาวลาว ท้าทายตนก่อน
โดยฝั่งคนขายส้มตำ ก็มีมีดถือไว้ขู่ตนเช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ตนสนิทสนมกันดี เคยช่วยเหลือกันมาตลอด จู่ ๆ ก็ไม่คุยกัน ตนจึงถามว่า "เป็นอะไรหยิ่งเหรอ ทำไมไม่คุยด้วย แล้วก็เริ่มมีปากเสียงกัน" ตนเคยถูกปารองเท้าใส่ด้วย ส่วนกรณีที่ตนด่าเขาว่า "อีลาว" ยอมรับว่าตนพูดจริง แต่อยากจะขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ตนตั้งใจจะด่าแค่คนเดียว ไม่ได้ตั้งใจจะด่าคนลาวคนอื่น ๆ ไม่มีเจตนาจะบูลลี่คนลาว
"ประเด็นคือเรื่องที่มีปากเสียงกันนั้น มันจบไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่แล้วบอกว่าห้ามทั้ง 2 ร้านทะเลาะกันอีก แต่ทำไมเขาถึงได้นำภาพกล้องวงจรปิดไปโพสต์ ทำให้เสียหายและถือเป็นการประจาน แล้วถ้าจะโพสต์จริง ๆ ทำไมไม่เอาภาพตอนที่เขาปารองเท้าด้วย เอาน้ำร้อนจะสาดด้วย แน่จริงก็เอาคลิปนั้นมาลงด้วย" นางธนาพร กล่าว
ทีมข่าวสอบถาม น.ส.ปู แม้ค้าส้มตำ สัญชาติลาว กล่าวว่า เหตุผลที่ตนนำคลิปไปโพสต์ เพราะเจ๊เหมียวไม่เคยหยุดระราน ทุก ๆ วันยังคงด่าทอตน และยังมีการโพสต์ประจานตนในเฟซบุ๊ก ส่วนจุดเริ่มต้นของปัญหาเกิดจากการที่ตนเปิดร้านขายส้มตำ โดยมีเจ้าของร้านเป็นคนไทย วันแรกที่เปิดร้านลูกค้าร้านเจ๊เหมียวได้มากินส้มตำที่ร้านของตน แล้วเจ๊เหมียวก็พาลูกน้องที่ร้านคาราโอเกะมานั่งกินกับลูกค้าด้วย จากนั้นเจ๊เหมียวก็ติรสชาติอาหารของตนต่อหน้าลูกค้าว่า "ไม่อร่อย" ตนได้ยินเต็มสองรูหู จึงรู้สึกไม่ดีและยอมรับว่าโกรธเคืองเจ๊เหมียวที่พูดจาแบบนั้นไม่ให้เกียรติตน และพยายามดิสเครดิตร้านส้มตำ เพื่อให้ลูกค้ากลับไปร้านของตัวเอง ตนจึงเริ่มไม่อยากพูดคุยกับเจ๊เหมียว
หลังจากนั้นพอเจ๊เหมียวคุยพูดคุยอะไรด้วย ตนก็ถามคำตอบคำ กระทั่งวันที่ 20 พ.ย.64 เจ๊เหมียวก็เริ่มมาหาเรื่องด่าทอ ตอนแรกตนก็ไม่ตอบโต้อะไรด้วย พอหนักเข้า ๆ ก็เริ่มมีการตอบโต้บ้าง เพราะเขามักจะพูดดูถูก คำก็ด่าลาว สองคำก็ด่าลาว ทำให้ตนโมโหจนทนไม่ไหว จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ใช้รองเท้าปาเจ๊เหมียว แต่ไม่ถูกเจ๊เหมียว เจาจึงท้าทายให้ตนออกมาตบด้วยตลอด และก็มีการถือมีดถือปืนมาข่มขู่
"ยอมรับว่ามีครั้งหนึ่งที่ถือมีดไปจริง ๆ แต่ตอนนั้นกลุ่มเจ๊เหมียวก็วิ่งหนีไป โดยมีปากเสียงกันมาร่วม 3 สัปดาห์แล้ว จนเจ้าของร้านขายส้มตำที่เป็นคนไทย แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็มีการเคลียร์ปัญหากัน ตำรวจขอให้ยุติปัญหากันด้วยดี แต่ว่าเจ๊เหมียวโพส์ด่าประจานไม่หยุดสักที จึงเป็นที่มาของการโพสต์คลิปในติ๊กต็อก เพื่อต้องการให้เจ๊เหมียวหยุดการกระทำระรานคนอื่นได้แล้ว" น.ส.ปู กล่าวให้ฟัง
Advertisement
