จากกรณีศาลมณฑลทหารบกที่ 15 อ่านคำพิพากษาคดีดัง "หมวดแบงค์" นายทหารสังกัดค่ายธนะรัชต์ปราณบุรี พยายามฆ่า "น้องจูน" อดีตภรรยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดท้องที่ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2560 แต่ช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหาร และมีเพียงศาลเดียวเท่านั้น
ศาลพิพากษาจำคุก หมวดแบงค์ 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยกระทำความผิด จึงให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท
สำหรับข้อหาพยายามฆ่า ศาลพิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ และทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ส่วนข้อหาอาวุธปืนนำสืบไม่ได้ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย
วันที่ 14 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับนางสาวสุนทรีย์ เถาวัลย์ อายุ 50 ปี แม่ของจูน โดยมีนางสาวสุกฤตา สุภานิล หรือ น้องจูน นั่งอยู่ข้าง ๆ เปิดใจว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาเรา 2 คนแม่ลูกสู้ด้วยกันมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่น้องจูนยังอาการโคม่า จนรักษาตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งสำหรับคนเป็นแม่ที่ต้องอดทนทำงานสู้เพื่อลูก ในการขายของออนไลน์ ดำเนินการเรื่องเอกสาร เรื่องกระบวนการกฎหมายที่ศาล ก็ยอมรับว่าครอบครัวค่อนข้างลำบาก เพราะมีกันอยู่แค่ 2 คน
สภาพร่างกายของน้องจูนตอนนี้ ก็ไม่ได้กลับมา 100% สมองได้รับการกระทบกระเทือน เหมือนได้ลูกสาววัย 13 ปี ที่ค่อนข้างเด็กลง บางที่เผลอพูดเสียงดัง ควบคุมอารณ์ในบางสถานการณ์ไม่ได้ แต่ยังพอกลับไปทำงานได้ เพราะงานที่ทำในค่ายทหาร ไม่ได้ซ้ำซ้อน ซึ่งต้องไปทำกายภาพบำบัด พบจิตแพทย์ แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษา ส่วนใหญ่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม และสิทธิ์ข้าราชการจะมีบางส่วนที่ต้องจ่ายเองบ้าง สภาพจิตใจของน้องจูนก็คงมีความรู้สึกเสียใจ แต่เขาไม่สามารถพูดและแสดงออกผ่านสื่อได้ เพราะมีบางคนสั่งน้องจูนห้ามพูดกับสื่อฯ แต่ตนเป็นแม่ค้าไม่ได้เป็นข้าราชการ ก็ขอพูดแทนความรู้สึกลูกทั้งหมด
ในเรื่องของผลการพิพากษา ทางครอบครัวมิอาจไปล่วงเกินอำนาจที่ศาลตัดสิน แต่จากการสอบพยาน 17 ปาก ใช้เวลาในการสอบพยาน ปากละ 4 เดือน ซึ่งให้การในทิศทางเดียวกัน และทางครอบครัวก็มีหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม และถึงแม้ว่าผลออกมาเป็นแบบนี้ ก็ต้องน้อมรับและสู้ต่อไป
สุดท้ายนี้ ตนขอขอบคุณอมรินทร์ ทีวี และสื่อทุกช่อง ที่เขามาช่วยเหลือ และตีแผ่นำเสนอความจริง ส่วนหลังจากนี้ก็ต้องสู้กันต่อไป น้องจูนก็กลับไปทำงาน และรักษาตัวเหมือนเดิม ส่วนตนไม่โกรธแค้นฝังใจ ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย มีแค่เงินเยียวยาครอบครัว 1 ล้านบาท หลังจากเกิดเหตุนั้น ซึ่งตนต้องหาเงินด้วยการขายขนมออนไลน์เพื่อช่วยหาเงินมาจุนเจือครอบครัว หากใครอยากช่วยเหลือน้องจูน ก็ช่วยอุดหนุนสินค้าในเฟซบุ๊กแฟนเพจ "ปังปัง coffee1365"
นางสาวสุกฤตา สุภานิล หรือ จูน อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจว่า ตนขอขอบคุณทุกกำลังใจ ตนอ่านทุกข้อความ และคอมเมนต์ตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งมีกำลังใจขึ้นเยอะมาก ๆ สภาพร่างกายตอนนี้ตนรู้ตัวเองว่าตนเหมือนกลับไปเป็นเด็ก อายุ 13 ปี ต้องทำกายภาพ ฝึกเดิน ฝึกจับช้อนกินข้าว และบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ทั้งเสียรูปลักษณ์ และทำให้ขาดรายได้ไป ซึ่งตนต้องมาเริ่มใหม่ทั้งหมด แต่มีแม่ก็จะคอยให้กำลังใจเสมอ ในตอนนี้ตนอยากจะสู้ต่อไป ปลดหนี้ 800,000 บาทให้แม่ และช่วยแม่ขายขนมออนไลน์ด้วย
Advertisement