จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายนายเสาร์แก้ว หรือแก้ว เรือนใจ อายุ 54 ปี ลูกจ้างของหน่วยศึกษาการพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้ำดอยผาหิ้ง ถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง ที่บริเวณลำคอ 7 จุด และหลัง 2 จุด เหตุเกิดป่าเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวง หมู่ 6 ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ หลังจากได้หายตัวออกจากบ้านไป 1 วัน เพื่อไปเก็บเมล็ดกระบกนั้น
วันที่ 4 ธ.ค.64 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ใหญ่บ้าน บ้าน หมู่ 6 ต.บ้านปิ่น อ.ลอง จ.แพร่ โดยพบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาปรึกษา และวางแผนไล่ล่าตัวคนร้าย
นายสมคิด ชุ่มเย็น อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา เผยว่า วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็น ได้ออกจากบ้านไปรับจ้างตัดไม้ไผ่ ก่อนที่จะกลับมาที่บ้าน เพื่อมาเอาอาวุธปืนไปสวน ที่อยู่ห่างจากจุดที่นายแก้ว ผู้ตาย ถูกยิงประมาณ 1.5 กม. เมื่อไปถึงสวนเห็นกระรอกกำลังกินมะละกอจึงได้หยิบอาวุธปืนขึ้นมายิง 1 นัด ซึ่งไม่โดนกระรอก ก่อนที่จะกลับมาเผาเศษใบไม้ แต่อากาศชื้น เศษใบไม้เผาไม่ติดประกอบบรรยากาศหนาว จึงจะกลับบ้าน สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดมาจากทางเหนือ ซึ่งเป็นจุดที่พบนายแก้วเสียชีวิต
ขณะนั้นไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ามีคนยิงไล่สัตว์ป่า ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ช่วงเช้าตนกำลังตัดไม้ไผ่ ได้รับแจ้งว่านายแก้วหายตัวออกจากบ้านไป จึงได้ไปช่วยค้นหา จนทราบว่านายแก้วถูกยิงเสียชีวิต ขณะเดียวกันตนได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีชาวบ้าน เห็นว่าช่วงค่ำ วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ตนได้สะพานปืนขี่รถออกจากบ้านไปทางป่า จากนั้นตำรวจได้เชิญไปตรวจเขม่าปืน พร้อมกับยึดอาวุธปืนไว้ตรวจสอบ
ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนร้ายที่ยิงนายแก้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับนายแก้ว เจอกันก็พูดจาทักทายกันดี ซึ่งตอนนี้ไม่ได้กังวลอะไร ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีพยานเห็นขณะที่อยู่สวน
ล่าสุด เมื่อประมาณ 17.30 น. นายสมคิด ชุ่มเย็น อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ สารภาพว่าเป็นมือยิง ทางญาติจึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนที่ตำรวจจะไปควบคุมตัวไปทำแผนฯ โดยนายสมคิดร้องไห้พร้อมกับก้มกราบขอโทษจุดที่นายแก้วเสียชีวิต และได้เดินชี้จุดที่ปลอกกระสุนหล่น ก่อนนำไปทิ้งด้านล่างห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม.
ภายหลังได้นำตัวนายสมคิด ผู้ก่อเหตุ มาที่ สภ.ลอง เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง นายสมคิด กล่าวอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงหมูป่ากินเมล็ดกระบก เสียงดังมาก จึงได้ย่องไปดู เห็นเป็นหมูป่าสีดำตัวใหญ่มาก จึงได้ลั่นไกปืนไปในระยะ 10 เมตร พอยิงเสร็จได้วิ่งไปดู กระทั่งพบว่าเป็นคนด้วยความตกใจจึงรีบเก็บปลอกกระสุน และรีบกลับบ้าน ส่วนตัวแล้วไม่มีเรื่องบาดหมางกับนายแก้ว
นายสมคิด ชุ่มเย็น อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวนายแก้วและนายแก้ว บอกว่าที่กระทำลงไปนั้น เพราะเห็นนายแก้วเป็นหมูป่าที่ตัวใหญ่มาก พอยิงเสร็จเห็นว่าเป็นคน ด้วยความตกใจจึงรีบกลับบ้าน ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมรับสารภาพก่อนหน้านี้ เพราะว่า กลัวนางปรานอม ภรรยา จะรับไม่ได้ถึงขั้นช็อก
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพานำพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ
นอกจากนี้ตำรวจได้อนุญาตให้ญาติเข้าไปพูดคุย นางปรานอม ยาซ้อน อายุ 56 ปี ภรรยานายสมคิด ได้เข้าไปในห้อง ทั้งสองได้กอดให้กำลังใจกันและกัน นางปรานอม ยาซ้อน อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เผยว่า ภายหลังจากที่ทีมข่าวและตำรวจเข้าไปสอบถาม ช่วงเย็นพบว่านายสมคิดมีอาการเหม่อลอย ตนไปให้อาหารปลามา จึงได้สอบถาม จนนายสมคิดร้องไห้ พร้อมสารภาพว่าเป็นคนยิงนายแก้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นหมูป่าตัวใหญ่ ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมบอกใครกว่าตนเองจะรับไม่ได้ กระทั่งตำรวจเข้ามาในหมู่บ้าน นายสมคิดมองว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน จึงตัดสินใจที่จะขอสารภาพ
โดยที่ผ่านมานายสมคิดไม่เคยมีพิรุธให้ตนเห็น ตนขอโทษครอบครัวนายแก้วผู้ตาย หลังจากนี้จะเข้าไปพูดคุยด้วย หากมีโอกาสจะให้นายสมคิดบวชและขอขมาศพนายแก้ว นอกจากนี้ จะช่วยเงินทำศพ ไม่ละทิ้ง ไม่มั่นใจว่าทางญาตินายแก้วจะยินยอมหรือไม่ ทั้งนี้ ตนขอประกันตัวนายสมคิด ไม่ขอทอดทิ้ง เพราะตนก็รักของตน นายสมคิดก็เป็นคนดี ไม่เคยทำให้ตนเดือดร้อน
Advertisement