กรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายจักรภัทร กิจเนตรอายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.กระบี่ คดีฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพร้อมของกลางเป็นชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ ไม้ไผ่ยาว 1 เมตร และมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ 1 เล่ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดเกิดเหตุ
สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ ใช้มีดแทงพลทหารวุฒิชัย คงผอม อายุ 22 ปี ชาว อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นทหารสังกัดค่ายสุริโยไท หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 25 จ.ปัตตานี เสียชีวิต
เหตุเกิดที่ริมถนนบ้านคลองนิน หมู่ 6 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากภรรยาเก่าของผู้ต้องหาไปคบหากับผู้ตาย
สืบเนื่องจากตำรวจภูธรเกาะลันตาได้รับแจ้งจาก รพ.เกาะลันตา ว่ามีเหตุคนถูกแทงเสียชีวิต ระหว่างนำส่ง รพ. เหตุเกิดริมถนนบ้านคลองนิลหมู่ 6 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จึงไปตรวจสอบที่ รพ.เกาะลันตา พบผู้เสียชีวิต มีบาดแผลถูกของมีคมบาดบริเวณต้นแขนซ้าย หน้าอกซ้ายถูกแทงด้วยอาวุธมีด 1 แผล
ต่อมาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 2 จุด จุดแรกเป็นจุดที่คนร้ายก่อเหตุบริเวณหน้าร้านขายของชำ ริมถนนบ้านคลองนิน ที่เกิดเหตุพบกระบอกไม้ไผ่ยาว 1 เมตรตกอยู่ 1 อัน และฝักใส่มีดทำด้วยไม้ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จุดที่ 2 เป็นจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กม. พบรถ จยย. ล้มอยู่ข้างทาง ทราบว่าเป็นรถที่ผู้ตายขี่หนีมาจากจุดเกิดเหตุ
วันที่ 4 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นางเยาะ เปาะเดี้ย อายุ 65 ปี ยายของผู้ต้องหา เล่าว่า หลานชายคบหากับ น.ส.เกศิณี อดีตภรรยาประมาณ 5 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วยลูกสาวอายุ 4 ขวบ ลูกชาย อายุ 2 ขวบ และลูกสาวอายุ 1 ขวบ
โดยที่ผ่านมาหลานชายทำงานรับจ้างอยู่กับภรรยาที่เกาะลันตา จ.กระบี่ จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลานชายติดทหารไปประจำการอยู่ที่ปัตตานี และเมื่อช่วง 5-6 เดือน ที่ผ่านมาทราบว่าหลานชายเลิกรากับ น.ส.เกศิณี กระทั่ง 2 เดือนที่ผ่านมา หลานชายปลดประจำการออกมาจากค่ายทหาร กลับไปอยู่ที่เกาะลันตา และมีแฟนใหม่แล้ว แต่หลานก็เคยบอกว่าผู้ตายซึ่งเป็นแฟนใหม่ของ น.ส.เกศิณี ชอบมาเยาะเย้ย ตนก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ ต่างคนต่างอยู่
กระทั่งวันที่ 2 พ.ย. เวลา 18.00 น. นายจักรภัทร หลานชายโทรศัพท์มาบอกว่าช่วงกลางดึกวันที่ 1 พ.ย. ได้ไปแทง แชฟนใหม่ของ น.ส.เกศิณี เสียชีวิต สาเหตุเพราะอีกฝ่ายชอบมาท้าทาย และชอบหวงไม่ให้ตัวเองเจอลูกที่อยู่กับ น.ส.เกศิณี ตนจึงบอกให้เข้ามอบตัว ห้ามหนี เพราะทำไปแล้วต้องยอมรับ
โดยตนก็เสียใจจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ตั้งแต่ทราบเรื่อง ที่ผ่านมาหลานชายนิสัยดีไม่เคยเกเร ไม่คิดว่าจะกล้าก่อเหตุแบบนี้
ส่วนตัวไม่ได้เข้าเยี่ยมหลานหลังเกิดเหตุ ขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ให้หลานสู้คดีด้วยตัวเอง เพราะก่อเหตุจริง
ด้านนางศิริพร ทรัพย์ฤทธิ์ อายุ 53 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายคบหากับ น.ส.เกศิณี ประมาณ 6-7 เดือน โดยทราบว่ารู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ซึ่งลูกเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในค่ายจังหวัดปัตตานี ส่วนฝ่ายหญิงอยู่เกาะลันตา จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าลาพักไว้ 10 วัน แต่จะไปหาแฟนที่เกาะลันตาก่อนกลับมาหาตนที่บ้านวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งช่วงที่อยู่เกาะลันตาลูกชายก็โทรศัพท์มาหาตลอด กระทั่งกลางดึกวันที่ 1 พ.ย. เพื่อนของน.ส.เกศิณี โทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกอดีตสามีน.ส.เกศิณีแทงเสียชีวิต ตนช็อกทำอะไรไม่ถูก
ช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ย. เดินทางไปรับศพลูกพบว่าลูกถูกแทงที่หน้าอก 1 จุด และบริเวณร่างกายอีก 1 จุด เชื่อว่าผู้ก่อเหตุวางแผนมาฆ่าลูกชาย และอาจจะไม่ได้ทำคนเดียวเพราะคนเห็นเหตุการณ์บอกว่ามีเพื่อนร่วมด้วยอีก 2 คน ที่ผ่านมาลูกชายเช่าให้ฟังว่า น.ส.เกศิณี เคยมีสามีและมีลูกติด ตนก็ถามว่าจะมีปัญหาหรือไม่ ลูกยืนยันว่าไม่มี เพราะฝ่ายชายก็มีแฟนใหม่แล้ว
โดยลูกของตนรักฝ่ายหญิงมาก เคยไปหาที่เกาะประมาณ 3 ครั้ง ตนยังเคยคุยกับแฟนของลูกชายยืนยันไม่รังเกียจ ขอให้ดูแลกันให้ดี อย่าทำร้ายกันก็พอ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุต้องการอะไร เพราะเลิกกันไปแล้ว ลูกชายตนก็รักทั้งแฟนที่ลูกที่ติด มีการดูแลเหมือนลูกตัวเอง
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าโกรธแฟนลูกชายด้วย แต่อีกฝ่ายเข้ามากราบศพและขอโทษตนแล้ว ตนจึงอโหสิกรรมให้ เพราะคิดว่าโกรธไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ลูกชายตนก็รักแฟนคนนี้ ส่วนผู้ก่อเหตุขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการถึงที่สุด
Advertisement