วันที่ 22 ส.ค. 65 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงตัวตายภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.พระครู อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะประสานแพทย์เวร รพ.บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูรอบบ้านที่เกิดเหตุ บ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบร่างนายสมยศ อุดมศรี อายุ 33 ปี ปัจจุบันเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ปฏิบัติหน้าที่อยู่ประจำที่ว่าการ อ.ลำปลายมาศ นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอนภายในบ้าน สภาพสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ
ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบบริเวณขยับข้างขวามีรอยกระสุนปืนยิงทะลุศีรษะด้านซ้าย 1 นัด คราบเลือดไหลนองพื้น พบปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นปืนที่ซื้อในโครงการสวัสดิการ ตกอยู่บริเวณเท้าของผู้ตาย และซองใส่ปืนวางอยู่ข้างศพ ทั้งพบขวดเหล้าขาวตั้งอยู่ 1 ขวดถูกเปิดดื่มไปแล้ว พร้อมจานใส่มะม่วง คาดว่าใช้กินแกล้มเหล้า มีดปลายแหลม 1 เล่มใช้สำหรับปาดมะม่วงวางอยู่ข้างจานด้วย นอกจากนั้น พบรอยกระสุนปืนทะลุประตูและหลังคาบ้านด้วย แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย สันนิษฐานว่าน่าจะคิดสั้นใช้ปืนยิงตัวตายเอง ส่วนสาเหตุก็น่าจะน้อยใจภรรยาที่ไปทำงานกรุงเทพฯ ทำให้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน
นายอุเทน พรมรี อายุ 29 ปี คู่เขยกับผู้ตาย และเป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า เมื่อวานช่วงเย็นเห็นนายสมยศนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียว ที่แคร่หน้าบ้าน จนถึงช่วง 2 ทุ่ม ก็เห็นเข้าบ้านไปก็นึกว่าเข้าไปนอนตามปกติ กระทั่งช่วงเช้าภรรยาผู้ตายโทรมาหาน้องสาวตัวเองว่าติดต่อสามีไม่ได้ โทรไปก็ไม่รับสาย จึงวานให้ช่วยไปดูที่บ้าน
ตนไปเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงตัดสินใจงัดหน้าต่างส่องดู ก็เห็นนอนตะแคงข้างเตียง ตอนแรกคิดว่าเมาแล้วนอนหลับแต่เรียกก็ไม่ตื่น จึงปีนเข้าไปดู ก็ต้องแทบช็อก เพราะนายสมยศนอนแน่นิ่ง มีเลือดไหลเต็มพื้น
อาผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีลูกติดมา 1 คน อายุ 9 ปี และมามีลูกกับภรรยาคนนี้อีก 1 คน อายุ 5 ปีสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด ปกติสามีภรรยาคู่นี้จะทะเลาะกันเป็นประจำ จนกระทั่งล่าสุดภรรยาไปทำงานต่างจังหวัด จากนั้นได้ทะเลาะกันทางโทรศัพท์ เหมือนจะหึงหวงกันเป็นประจำ ที่ผ่านมานายยศเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอหลายครั้ง แต่มีคนห้ามได้ทัน
ด้าน น.ส.นภาพร มีโคตรกอง อายุ 28 ปี น้องเมียผู้ตาย เล่าว่า ทั้งสองอยู่กินด้วยกันมาหลายปีแล้วมีลูกสาวอายุ 4 ขวบ ก่อนหน้านี้พี่สาวก็ทำงานอยู่ใน จ.บุรีรัมย์ ส่วนพี่เขยเป็น อส. หลังจากพี่สาวซื้อรถเก๋งผ่อนมาได้ประมาณ 5 เดือน รายได้จากการทำงานก็ไม่เพียงพอจ่ายค่างวด จึงคุยกับพี่เขยว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่างวดรถ ก็เพิ่งจะเดินทางไปล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
ส่วนพี่เขยและหลานสาวก็อยู่บ้าน แต่พี่สาวก็จะโทรมาหาพี่เขยและหลานประจำ เพิ่งโทรมาตอน 5 โมงเย็นวานนี้ แต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน จากนั้นก็เห็นพี่เขยนั่งดื่มเหล้าคนเดียว ส่วนหลานพอเห็นพ่อเมา จึงไปอยู่กับยายและตนเอง แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งตอนเช้าพี่สาวโทรศัพท์มาบอกให้ไปดูที่บ้าน เพราะติดต่อพี่เขยไม่ได้ ตนจึงให้แฟนไปดู กระทั่งพบว่าพี่เขยใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว สาเหตุก็น่าจะน้อยใจที่พี่สาวไปทำงานไกล เพื่อหาเงินมาจ่ายค่างวดรถ ทำให้ไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน จึงได้คิดสั้นเพราะก่อนหน้านี้พี่เขยก็พยายามจะฆ่าตัวตายด้วยผูกคอตายแล้วหลายครั้ง แต่ตนและญาติก็มาช่วยไว้ได้ทัน แต่ครั้งนี้ไม่สามารถช่วยได้
ด้าน น.ส.กฤษณา มีโคตรกอง อายุ 33 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองอยู่กินกับสามีมา 6 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ตนเองกับสามี เริ่มมีปัญหากันเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว หลังจากตนเองเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้สามีเกิดความหึงหว มักจะขุดเรื่องเก่าขึ้นมาคุยตลอด จนต้องโทรศัพท์คุยด้วยทุกชั่วโมง
วันเกิดเหตุ ประมาณบ่าย 2 ก่อนที่สามีจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย ยอมรับว่าทะเลาะกันรุ่นแรงมาก แล้วพูดคำสุดท้ายว่า "ทุกอย่างกูทำเพื่อมึง" กระทั่งสามีทุบโทรศัพท์ที่กำลังคุยกันอยู่ต่อหน้าลูก ลูกก็วิ่งหนีไปที่บ้านยาย
จากนั้นตนเองก็พยายามโทรหาสามีตลอด แต่สามีก็ไม่รับสาย จนทำให้ต้องโทรศัพท์ไปหาแม่ เพื่อให้เดินไปดูสามี แต่แม่บอกว่าไม่ว่างเพราะกำลังไปนา กระทั่งช่วงค่ำแม่เดินไปดู พบบ้านปิดไฟเงียบแต่รถสามีจอดอยู่หน้าบ้าน ทำให้ทุกคนไม่ได้เอะใจ คิดว่าสามีคงเมาหลับอยู่ในบ้าน
ตนยอมรับว่าเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าสามีจะกล้าลงมือยิงตัวตาย ซึ่งก่อนหน้านี้สามีเคยวิดีโอคอลมาผูกคอตายแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นคนที่บ้านไปช่วยไว้ทัน สำหรับปืนที่สามีใช้ยิงตัวตายก็เป็นปืนที่ตนเองเก็บเงินซื้อให้สามี หลังได้งานเป็น อส. ยืนยันสามี ไม่ได้เครียดเรื่องรถยนต์ที่เพิ่งออกมา แต่มีปัญหาเรื่องการหึงหวงจนเป็นเหตุให้สามีฆ่าตัวตาย ยอมรับว่าตนเคยนอกใจสามีจริง เพราะสามีเคยนอกใจก่อน
ทั้งนี้ มีแชตที่ภรรยาผู้ตายส่งมาให้ทีมข่าว เป็นแชตที่ผู้ตายมักจะหึงหวงภรรยาของตัวเองหลังจากโทรไปแล้วไม่รับสาย คิดว่าภรรยาอยู่ กับคนอื่นอ้างว่าทำงาน ซึ่งภรรยาก็พยายามอธิบายให้เห็นว่าทำงานติดลูกค้า
ส่วนในเฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่าก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย มีการแชร์ลิงก์ข่าวของทางอมรินทร์ทีวี เมื่อปี 59 โดยคลิปที่ผู้ตายแชร์ เป็นคลิปเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายที่เจอเมียมีชู้คาเตียง เอาผิดอย่างไรได้บ้าง...แล้วถ้าผัวมีชู้ละ ??? อ้อ ไปเป็นชู้กับผัวเมียคนอื่น จะโดนอะไรไหม ทนายสงกานต์มีคำตอบ #คลายทุกข์ชาวบ้าน #AmarinTV34
Advertisement