กรณีชุดสืบสวน นำโดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 เข้าจับชายชาวต่างชาติ ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น โดยจับที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซอยนานา ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ โดยชายดังกล่าวยอมรับว่าชื่อนายโรเบิร์ต แอนดริว กอร์ดอน ผู้ต้องหาและเป็นบุคคลตามภาพถ่ายจริง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 2 ต.ค.64 เวลาประมาณ 10.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า ต้องยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากนายโรเบิร์ต แอนดริว กอร์ดอน ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
พ.ต.อ.ปรีชา ให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ต้องหา ตั้งแต่เวลา 22.00 - 01.00 น. โดยผู้ต้องให้การณ์รับสารภาพว่า เป็นบุคคลในคลิปจริง ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาอ้างว่า ได้ทะเลาะกับภรรยาชาวจ.อำนาจเจริญ จากนั้นได้ขี่รถวิบากหนีออกจากบ้าน และตระเวณมาที่ จ.ขอนแก่น ก่อนจะมีการเสพยาเสพติด 1 เม็ด จากนั้นก็มาใช้บริการร้านนวดดังกล่าว กระทั่งเกิดอารมย์ทางเพศ และลงมือก่อเหตุ ซึ่งผู้หายังอ้างอีกว่า ขณะขืนใจน.ส.หญิง (นามสมมติ) ฝ่ายหญิงได้หยิบขวดน้ำหวานเพื่อจะต่อสู้ จึงต้องแย่งขวดน้ำหวานและใช้ทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิง
หลังสอบปากคำเสร็จ ผู้ต้องหาก็ได้แจ้งความประสงค์ตามสิทธิ์ไม่ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย โดยการสอบปากคำผู้ต้องหาเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.64) ได้มีภรรยาของผู้ต้องหาเข้าร่วมฟังการสอบปากคำด้วย เนื่องจากเป็นบุคคลที่ผู้ต้องหาให้การไว้วางใจ
ขณะที่เวลา 10.30 น. นายป๋อง (นามสมมติ) ลูกชายของผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้บาดเจ็บประมาณ 7 คน ได้เดินทางมาที่ร้านนวดจุดเกิดเหตุ เพื่อรอดูบรรยากาศทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ปรากฏว่าไม่มีทำแผนแต่อย่างใด
จากนั้นเวลา 12.00 น. ลูกชายของผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี รวมถึงสอบถามพนักงานสอบสวน กรณีที่ผู้ต้องไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งนี้ได้มีญาติของผู้บาดเจ็บบางส่วนเข้าไปสอบถามสิบเวร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณหน้าห้องคุมขัง เนื่องจากญาติอยากเจอหน้าผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาต
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จำนวน 3 นาย เพิ่งเดินออกมาจากห้องคุมขัง และให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า นายโรเบิร์ต ขณะอยู่ในห้องคุมขังในช่วงเช้าถึงช่วงเที่ยงวันนี้ มีอาการเคร่งเครียด เจ้าหน้าที่จึงไปเอาเชือกผูกรองเท้าออกจากรองเท้าของผู้ต้องหา เนื่องจากกลัวว่าผู้ต้องหาจะทำร้ายตัวเอง
ทีมข่าวได้คลิปวงจรปิดในห้องขัง เป็นวินาทีที่ตำรวจ 3 นาย ดึงเชือกออกจากรองเท้าผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุทำร้ายตัวเอง
หลังพบพนักงานสอบสวนเสร็จ นายป๋อง (นามสมมติ) ลูกชายของผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ตนพร้อมญาติเดินทางไปที่ร้านนวดจุดเกิดเหตุ เพื่อรอดูหน้าผู้ต้องหาตอนทำแผน เนื่องจากอยากเห็นหน้าผู้ต้องหา อยากรู้ว่าเขาทำกับแม่ตนอย่างไรบ้าง ทำไมเขาถึงได้มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมขนาดนั้น แต่ปรากฏว่าไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด
ในช่วงเที่ยงวันนี้ ตนจึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามพนักงานสอบสวนว่าทำไมผู้ต้องหาถึงไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลกับตัวเองว่า เพราะเขากังวลถึงเรื่องความปลอดภัย จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ทะเลาะกับภรรยา จากนั้นก็ขี่รถมอเตอไซค์มายังจ.ขอนแก่น และเสพยาเสพติด 1 เม็ด ก่อนจะมาใช้บริการร้านนวดแล้วเกิดอารมณ์จนกระทั่งก่อเหตุ ตนจึงอยากให้คนร้ายรับโทษถึงที่สุด
"พรุ่งนี้ (4 ต.ค.64) ตอนฝากขังผู้ต้องหา ผมก็จะเดินทางมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อที่จะดูหน้าเขา สำหรับภรรยาของผู้ต้องหานั้น ก็ยังไม่มีติดต่อมาขอโทษกับครอบครัว ส่วนอาการแม่ตอนนี้ ก็ดีขึ้นเล็กน้อย สามารถกระดิกนิ้วมือ พยักหน้า ลืมตาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดคุยหรือได้" ลูกชายคนเจ็บ กล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับน.ส.แก้มบุ๋ม (นามสมมติ) ภรรยาของนายโรเบิร์ต ผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ว่า หลังจากทราบข่าวว่านายโรเบิร์ต ไปก่อเหตุ ตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะเป็นแบบนี้ ตนคบหากับนายโรเบิร์ตได้ 5 ปี เขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน นายโรเบิร์ต ที่ตนรู้จักเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ๆ
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะกันจริง ตามประสาสามีภรรยา และเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.64) ตนได้นั่งร่วมฟังการสอบปากคำ ก็ได้บอกให้นายโรเบิร์ต พูดความจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าโกหก แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ขณะนี้สภาพจิตใจตนจึงน่ำแย่มาก ๆ ไม่พร้อมที่จะมาเจอกับนักข่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุประมาณ 2 วัน ช่วงที่นายโรเบิร์ต หลบหนี ตนได้ส่งข้อความไปหาสามีทุกวันว่าเขาอยู่ที่ไหน สบายดีไหม บางวันเขาก็อ่านข้อความที่ส่งไป บางวันเขาก็ไม่อ่าน และเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.64) ตอนอยู่ในห้องสอบสวน นายโรเบิร์ตบอกกับตนว่า "ไอขอโทษ ที่ทำลายชีวิตยู และทำลายชีวิตครอบครัวยู" และเขาก็รู้สึกผิดมาก ๆ
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากชุดสืบสวนที่สามารถจับภาพของฝรั่งที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายสาวร้านนวด เป็นภาพนิ่งจำนวน 4 ภาพ โดยภาพนิ่งดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งคนก่อเหตุ ขี่รถผ่านบริเวณสี่แยกอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เวลา 13.02 น. ของวันเกิดเหตุ (27 ก.ย.64) โดยจุดดังกล่าวห่างจากร้านนวดจุดเกิดเหตุประมาณ 47 กิโลเมตร
ช่วงที่ 1 ฝรั่งนั่งรอในร้านพนักงานจึงเดินไปเตรียมเตียง ก่อนที่ฝรั่งจะเปิดกางเกงนำอวัยเพศออกมา
ช่วงที่ 2 พนักงานเชิญฝรั่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ช่วงที่ 3 ฝรั่งเดินเปลือยกายออกมา หยิบผ้าไปปอาบน้ำ ส่วนพนักงานเดินออกมารอ
ช่วงที่ 4 ฝรั่งเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วนำผ้าขนหนูเช็ดเนื้อเช็ดตัว
ช่วงที่ 5 พนักงานเดินมาล้างมือ เป็นจังหวะที่ฝรั่งใช้ผ้ารัดคอต่อสู้หวังจะข่มขืน
ช่วงที่ 6 พนักงานพยายามหนีออกมาด้านนอก ทำให้ฝรั่งตามมาทำร้าย
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังคอนโดมิเนียมภายในซอยนานา ชั้นที่นายโรเบิร์ตเข้าพักอาศัยคือชั้น 3 ห้อง 303 โดยเข้าพักเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 เช็กอินเวลา 10.15 น. โดยจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ที่หลังตึก เดินเข้าไปเช็กอินก่อนที่จะเข้าพัก และไม่ได้มีความเคลื่อนไหว มีเพียงแค่เดินเข้าออกตึกเพื่อไปซื้อของเท่านั้น
ทีมข่าวยังได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาประมาณ 09.54 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าไปประสานกับทางพนักงานของคอนโด ได้เข้าไปขอดูสัญญารวมถึงการลงทะเบียนขอเช่าพักห้องแบบรายวัน เอกสารดังกล่าวยืนยันว่าพตรงกับชื่อและนามสกุลของนายโรเบิร์ต ผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับเจ้าของห้องพักเพื่อที่จะขึ้นไปควบคุมตัว
จนกระทั่งหมอนวดได้เดินออกมาจากห้องของนายโรเบิร์ต จากนั้นก็ได้มีการมัดผมและใส่หน้ากากอนามัยสีชมพูก่อนที่จะเดินลงจากลิฟต์ และตัวของนายโรเบิร์ตไม่ได้ลงไป เพียงแค่เปิดประตูห้องออกมา และเดินไปที่ห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องหมายเลข 302 แอบไปหยิบผ้าเช็ดตัวของห้องอื่นเพื่อไปใช้งานเอง โดยไม่บอกให้ทางคอนโดรับทราบ
เวลา 09.55 น. นายโรเบิร์ตได้ออกมาจากห้องพักหมายเลข 303 บริเวณชั้น 3 พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าและหมวกกันน็อกสีส้ม ซึ่งตอนนั้นนายโรเบิร์ตไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจดักรออยู่บริเวณหน้าลิฟต์ชั้นล่าง จึงได้ลงไปเพื่อที่จะไปเช็กเอาต์
นายโรเบิร์ตทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาติดตามตัว จึงได้เตรียมที่จะหลบหนี ตัดสินใจที่จะลงมาเช็กเอาต์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่หน้าลิฟต์ชั้น 1 ทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการใส่กุญแจมือพาไปนั่งที่โซฟาใต้ล็อบบี้ของคอนโด มีการตรวจค้นร่างกายเพื่อหาอาวุธ จากนั้นมีการเปิดหน้ากากอนามัยเพื่อบันทึกภาพใบหน้าเป็นการยืนยันตัวตน
Advertisement