จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Tiwakron Kongkeaw” แชร์รูปภาพใบหน้าของตัวเอง ที่มีลักษณะบวมช้ำ และมีเลือดไหลออกมา หลังจากถูกทำร้าย พร้อมข้อความที่ระบุว่า “ได้มาโรงพยาบาลรอบนี้ ได้นอนยาวแน่ มันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันตั้งใจกะเอาตาย”
ล่าสุด (2 ส.ค.) นายทิวากร กองแก้ว อายุ 26 ปี ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน พอถึงบริเวณแยกบางสีทอง ตนก็ขี่รถอยู่ในเลนกลาง ขณะนั้นคู่กรณีอยู่เลนซ้ายสุด แต่กลับมาปาดหน้ารถ โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ตนจึงหักหลบไปเลนขวา ยอมรับว่าขณะนั้นโมโห และไม่พอใจ เพราะหากตนหักหลบไม่ทัน อาจจะไม่รอด จึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง พร้อมตะโกนด่าคู่กรณี ก่อนที่คู่กรณีจะบีบแตร และจอดรถขวางตน แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ทางคู่กรณีจึงพูดว่า “มึงด่าใคร มึงให้นิ้วกลางใคร” ตนก็ตอบว่า “ให้มึงนั่นแหละ”
หลังจากนั้นตนก็รู้สึกวูบ จำได้เลือนลางว่าคู่กรณีถืออาวุธคล้ายเหล็กยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ไว้ด้านหลัง แล้วตีเข้าไปที่หน้าตน 1 ครั้ง และเหมือนจะตีอีก 1 ครั้ง แต่มีรถตามมาบริเวณด้านหลัง ทางคู่กรณีจึงรีบขับรถออกไป ขณะนั้นตนยังมีสติ จึงสามารถจำเลขทะเบียนรถไว้ได้ และได้ไปที่สภ.บางกรวย เพื่อเข้าแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้ไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลบางกรวยก่อน แต่เนื่องด้วยที่โรงพยาบาลอุปกรณ์ไม่พร้อมจึงได้ทำเพียงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แล้วมาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์
ทางด้าน นายทิวากร กล่าวอีกว่า ลักษณะของคู่กรณีเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ตัวล่ำๆ ตอนช่วงที่คู่กรณีเข้ามาทำร้ายร่างกายก็ใช้เวลาประมาณ 2 นาที ตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายร่างกาย และตนก็ไม่ได้ตอบโต้ ซึ่งแพทย์ที่รักษาบอกว่า กระดูกที่โหนกแก้มแตก แต่มีการเย็บแล้ว , เลือดคลั่งในโพรงจมูก , ฟันแตก 3 ซี่ , เส้นเลือดฝอยที่ตาซ้ายแตก และช้ำที่เบ้าตา ต้องรักษาอาการไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้ตนต้องหยุดงาน เพราะตามองไม่ค่อยเห็น ยอมรับว่าหลังจากนี้ หากหายดีแล้วต้องใจเย็นกว่านี้ เพราะช่วงเกิดเหตุตนใจร้อนเอง จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ขณะที่ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ศักดิ์ แก้วดอนรี สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย ให้ข้อมูลว่า ได้รับแจ้งจากแฟนสาวของผู้เสียหายเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 60 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยมีการตรวจสอบทะเบียนรถแท็กซี่คันที่ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า แท็กซี่คันก่อเหตุเป็นแท็กซี่อู่ และเป็นแท็กซี่เก่าระยะเวลากว่า 10 ปี ตอนนี้จึงไม่สามารถระบุได้ว่า มีใครเช่าซื้ออยู่หรือไม่ ฉะนั้นต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนตามตัวก่อน โดยยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อนามสกุลได้ เพราะยังอยู่ในระหว่างการชี้ตัวคนร้าย และตามจับกุมตัว เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Tiwakron Kongkeaw
