"โกตดิวัวร์" จากอาณาจักรโกโก้ สู่เวทีจักรวาล ทำไมประเทศนี้จึงน่าสนใจ?

รู้จักโกตดิวัวร์ อยู่ตรงไหนบนแผนที่โลก จากขุมพลังโกโก้สู่เสือเศรษฐกิจ และการใช้เวทีนางงามสร้างทูตวัฒนธรรม ผลักดัน Soft Power ทำไมประเทศนี้จึงน่าสนใจ?

จากผลการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด ผลปรากฎว่า ฟาติมา บอช จากเม็กซิโก เป็นผู้ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล 2025 และรองทั้ง 4 ประกอบด้วย รองอันดับ 1 ปวีนา ซิงห์ จากประเทศไทย , รองอันดับ 2 เอสเตฟานิ อาบาซาลิ จากประเทศเวเนซุเอลา , รองอันดับ 3 อาห์ติซา มานาโล จากประเทศฟิลิปปินส์ และรองอันดับ 4 โอลิเวีย ยาเซ จากประเทศโกตดิวัวร์

หลังการประกวดเสร็จสิ้นลง มีหลากหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการพูดถึงสาวงามจากประเทศโกตดิวัวร์ ที่ไม่บ่อยนักเราจะได้ยินชื่อของประเทศนี้ ทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบชิงมงกุฎบนเวทีการประกวดนางงามระดับโลก

รู้จักโกตดิวัวร์ อยู่ตรงไหนบนแผนที่โลก?

โกตดิวัวร์ (Côte d'Ivoire) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไอวอรีโคสต์ มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (République de Côte d'Ivoire) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของแอฟริกาตะวันตก มีพื้นที่ประมาณ 322,500 ตารางกิโลเมตร มีพรมแดนติดกับกินีทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไลบีเรียทางทิศตะวันตก มาลีทางตะวันตกเฉียงเหนือ บูร์กินาฟาโซทางตะวันออกเฉียงเหนือ กานาทางตะวันออก และอ่าวกินีทางใต้ ด้วยจำนวนประชากร 30.9 ล้านคนใน ค.ศ. 2023 โกตดิวัวร์จึงเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในแอฟริกาตะวันตก โดยมีอำนาจบริหารสูงสุดเป็นของประธานาธิบดี

โกตดิวัวร์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา มีผู้นับถือศาสนาต่างๆ เช่น ศาสนาอิสลาม คริสต์ และศาสนาพื้นเมือง เช่น ลัทธิวิญญาณนิยม ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ และภาษาพื้นเมือง โดยรวมแล้วมีภาษาต่าง ๆ ที่พูดกันประมาณ 78 ภาษาในโกตดิวัวร์

ประเทศนี้มีความซับซ้อนที่โดดเด่นคือ มีเมืองหลวงคู่ ระหว่าง ยามูซูโกร (Yamoussoukro) ที่เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ และ อาบีจาน (Abidjan) เมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการบริหารโดยพฤตินัย มีประชากรมากถึง 5.686 ล้านคน ในปี 2023 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอำนาจทางเศรษฐกิจยังคงรวมศูนย์อยู่ที่เมืองท่าแห่งนี้

หลังจากผ่านช่วงความขัดแย้งทางการเมืองในปี 2011 ทำให้ประเทศกลับมาผงาดในฐานะกลไกขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของแอฟริกาตะวันตก มีโกโก้เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ กลายเป็นเสือเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง รวมถึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการใช้กลยุทธ์ Soft Power เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ ให้แก่ประเทศ

ในปี 2020 โกตดิวัวร์เป็นผู้ส่งออกเมล็ดโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลกและมีรายได้สูงในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นเสมือนหัวใจหลีกสำคัญทางเศรษฐกิจ Ivorian โดยคิดเป็น 15–20% ของ GDP ปัจจุบัน โกตดิวัวร์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่า ที่รัฐบาลตั้งเป้าแปรรูปเมล็ดโกโก้ให้ได้ 50% ของผลผลิตทั้งหมดภายในประเทศ ภายในปี 2026

ถึงแม้จะเป็นผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ แต่สินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2023 กลับเป็น ทองคำ ($4.28 พันล้าน) ตามมาด้วยเมล็ดโกโก้ ($3.68 พันล้าน) นอกจากนี้โกตดิวัวร์ยังเป็นผู้ส่งออกโกโก้เพสต์รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย

เมืองแหล่งมรดกโลก 5 แห่ง รากฐานสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว

นอกจากความแข็งแรงทางเศรษฐกิจ โกตดิวัวร์ยังมีแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วถึง 5 แห่ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการท่องเที่ยว ประกอบด้วย

• เมืองประวัติศาสตร์กรองด์-บัสซัม (Historic Town of Grand-Bassam)ขึ้นทะเบียนในปี 2012 เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของโกตดิวัวร์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นตัวอย่างของการวางผังเมืองอาณานิคมที่มีการแบ่งเขตเฉพาะสำหรับการค้า การบริหาร และที่พักอาศัยสำหรับชาวยุโรปและชาวแอฟริกัน

• มัสยิดรูปแบบซูดานทางตอนเหนือ (Sudanese style mosques in northern Côte d'Ivoire) ขึ้นทะเบียนในปี 2021

• อุทยานแห่งชาติ Comoé (Comoé National Park) ขึ้นทะเบียนในปี 1983

• อุทยานแห่งชาติ Taï (Taï National Park) ขึ้นทะเบียนในปี 1982

• เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Mount Nimba Strict Nature Reserve ขึ้นทะเบียนในปี 1982

นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมอาหารที่โดดเด่น โดยมีอาหารประจำชาติคือ อัตติเอเก (Attiéké) ทำมาจากมันสำปะหลังหมักที่ถูกนำมาขูดและทำให้เป็นเม็ดคล้ายกับคูสคูส เมนูนี้เป็นอาหารที่เข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่แพง และเป็นส่วนสำคัญของมื้ออาหารในครอบครัวและงานเฉลิมฉลองของชาวโกตดิวัวร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนอยู่ในรายการตัวแทน มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ของ UNESCO

แม้จะมีสถานที่น่าสนใจมากมาย แต่การเดินทางระหว่างประเทศ ยังคงได้รับคำแนะนำให้ผู้เดินทาง ใช้ความระมัดระวังในระดับสูงมาก เนื่องจากความเสี่ยงจากอาชญากรรมรุนแรง และภัยคุกคามจากการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับมาลีและบูร์กินาฟาโซ

การส่งเสริมนางงามเพื่อผลักดันเป็นทูตวัฒนธรรม และ Soft Power ของประเทศ

ในบริบทโลกปัจจุบัน การประกวดนางงามไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญของกลยุทธ์ Soft Power และการทูตวัฒนธรรม ซึ่งทางองค์กร Miss Côte d'Ivoire (COMICI) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 มีภารกิจหลักในการส่งเสริมความสง่างาม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของประเทศ ผ่านเวทีการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

การประกวด Miss Côte d'Ivoire ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมกลยุทธ์ Soft Power และการทูตวัฒนธรรม ผู้ชนะการประกวดจะทำหน้าที่เป็น ทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม (Tourism Ambassador) เพื่อใช้เวทีโลกในการนำเสนอแฟชั่น ศิลปะ และมรดก Ivorian

ดังเช่นกรณีล่าสุด ที่ โอลิเวีย ยาเซ (Olivia Yacé) ในฐานะตัวแทนประเทศ ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์ส 2025 บทบาทของสาวงามรายนี้จะกลายเป็นผู้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ที่เป็นมิตร ทันสมัย และสง่างาม ให้กับประเทศซึ่งเป็นการช่วยลบล้างการรับรู้เชิงลบจากประวัติศาสตร์ความขัดแย้งในอดีต ในฐานะทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนในด้านการท่องเที่ยว สาธารณสุข และการพัฒนาระหว่างโกตดิวัวร์กับประเทศคู่ค้า เช่น ประเทศไทย การใช้ Soft Power ผ่านนางงามจึงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อ้างอิงข้อมูลจาก :

Ivory Coast , oamarkets , oec.world , Miss Côte d'Ivoire Contest 2025 , List of World Heritage