รู้จัก 26 เรือนจำกักขังอาชญากรและผู้กระทำความผิด ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ดินแดนที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
เรือนจำ เป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่กักขังอาชญากรและผู้กระทำความผิด ระหว่างเข้ารับโทษและรอกลับคืนสู่สังคม ซึ่งเรือนจำหลายแห่งขึ้นชื่อเรื่องสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย ความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและการเอาชีวิตรอดอย่างแสนสาหัส
26 เรือนจำต่อไปนี้ คือเรือนจำที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น เรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก จากจำนวนนักโทษที่เสียชีวิตขณะถูกคุมขัง ปัญหาความแออัดและสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย
อันดับ 1. ค่าย 22 ประเทศเกาหลีเหนือ
ค่ายหมายเลข 22 หรือ ค่ายกักกันโฮรยองในเกาหลีเหนือ เป็นค่ายกักกันนักโทษการเมือง (Kwan-li-so) ที่มีเป้าหมายในการกักขังและใช้แรงงานนักโทษอย่างหนัก ติดอันดับ 1 ใน 26 เรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก ขึ้นชื่อด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เรือนจำแห่งนี้คุมขังนักโทษราว 50,000 คน ท่ามกลางสภาพที่โหดร้าย รวมถึงการบังคับใช้แรงงาน การทรมาน และความอดอยากอย่างหนักที่สุด
มีรายงานว่าได้ปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2555 รายงานดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมและรายงานต่างๆโดยก่อนปิดตัวในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการเพียง 1,500-2,000 คน องค์กรสิทธิมนุษยชนได้เน้นย้ำถึงการละเมิดสิทธิอย่างรุนแรงของค่าย แต่การเข้าถึงและข้อมูลยังคงมีจำกัดเนื่องจากความลับและการโดดเดี่ยวของเกาหลีเหนือ
อันดับ 2. เรือนจำกิตารามา ประเทศรวันดา
เดลีสตาร์เคยรายงานว่า กิตารามา เป็นเรือนจำที่แออัดที่สุดในโลก คุมขังนักโทษกว่า 7,000 คนในพื้นที่ที่ออกแบบไว้สำหรับนักโทษเพียง 400 คน นักโทษส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดาในปี พ.ศ. 2537 เนื่องจากความแออัดยัดเยียดอย่างรุนแรง นักโทษจึงต้องยืนเท้าเปล่าบนพื้นสกปรก นำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงและต้องตัดแขนขา ในปี พ.ศ. 2538 เพียงปีเดียว มีนักโทษเสียชีวิตจากสภาพเช่นนี้มากกว่า 1,000 คน
อันดับ 3. เรือนจำดิยาร์บากีร์ ประเทศตุรกี
ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่รู้จักกันในนาม นรกแห่งดิยาร์บากีร์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2523 เรือนจำแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเรือนจำทหารภายใต้กฎอัยการศึก โดยมีเป้าหมายอย่างชาวเคิร์ด มีผู้เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง 299 คน เนื่องจากสภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะและการทรมานในเรือนจำ คำให้การเผยให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างโหดร้าย เช่น การช็อตไฟฟ้าและการข่มขืน ปัจจุบันเรือนจำแห่งนี้ยังคงประสบปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นที่เลื่องลือในกลุ่มเรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก
อันดับ 4. เรือนจำคารันดิรู ประเทศบราซิล
เรือนจำคารันดิรูในเซาเปาโล ประเทศบราซิล ติดอันดับ 4 ในรายชื่อเรือนจำที่เลวร้ายที่สุดในโลก เรือนจำแห่งนี้ เคยเกิดเหตุการณ์จลาจลอันอื้อฉาวในปี พ.ศ. 2535 ซึ่งทำให้นักโทษเสียชีวิต 111 คน ระหว่างที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ เหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาร้ายแรงในระบบเรือนจำของบราซิล ซึ่งรวมถึงปัญหาความแออัดยัดเยียดและสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและเรียกร้องให้มีการปฏิรูป ก่อนจะถูกปิดและทำลายลงในปี 2002 เพื่อสร้างเป็นสวนสาธารณะในปัจจุบัน
อันดับ 5. เรือนจำอูริบานา ประเทศเวเนซุเอลา
มีรายงานที่ตีพิมพ์ใน Insight Crime ระบุว่าในปี 2013 เกิดการจลาจลที่เรือนจำอูริบานาในเวเนซุเอลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 61 ราย โศกนาฏกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแออัดยัดเยียดและสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ในเรือนจำเวเนซุเอลา ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบเพื่อป้องกันความรุนแรงและการสูญเสียชีวิตในอนาคต
อันดับ 6. เรือนจำอานิซิโอ โจบิม (Anísio Jobim) ในบราซิล
เรือนจำอานิซิโอ โจบิม ในประเทศบราซิล เคยประสบเหตุจลาจลที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2017 เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ แต่เป็นการปะทะกันระหว่างสมาชิกแก๊งคู่แข่ง เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ส่งผลให้นักโทษ 56 คน เสียชีวิต
อันดับ 7. โทโป ชิโก ในเม็กซิโก
ในปี พ.ศ. 2559 เกิดการจลาจลรุนแรงที่เรือนจำโทโป ชิโก ในเมืองมอนเตร์เรย์ ประเทศเม็กซิโก คร่าชีวิตนักโทษไป 49 ราย จากการแย่งชิงอำนาจในเรือนจำ มีการจุดไฟเผาห้องวัสดุ ทำให้ไฟลุกลามออกมานอกเรือนจำในช่วงระหว่างเกิดเหตุ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพอันเลวร้ายและความรุนแรงภายในเรือนจำ กระตุ้นให้เกิดการเรียกร้องให้ปฏิรูปเรือนจำและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย
อันดับ 8. เรือนจำเบลลาวิสตา ประเทศเอกวาดอร์
เรือนจำเบลลาวิสตา ประเทศเอกวาดอร์ เคยเกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้นภายในเรือนจำ มีนักโทษ 40 คนเสียชีวิตจากเหตุจลาจลรุนแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับแก๊งคู่แข่งระหว่าง Los Lobos และ R7 ไม่เพียงครั้งนั้นเอกวาดอร์ต้องเผชิญกับเหตุจลาจลในเรือนจำที่ร้ายแรงอีกหลายครั้ง เช่นกรณีนักโทษ 108 คนหลบหนีและสูญหาย
อันดับ 9. เรือนจำหญิงแห่งชาติเพื่อการปรับตัวทางสังคม ในประเทศฮอนดูรัส
เรือนจำหญิงแห่งชาติเพื่อการปรับตัวทางสังคมในฮอนดูรัส เคยเผชิญกับปัญหาความแออัดยัดเยียดและความรุนแรง ผู้ต้องขังจำนวนมากต้องเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ ขาดสุขอนามัยและการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน เรือนจำแห่งนี้ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ แต่กลับทำให้ความยากลำบากของผู้ต้องขังยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีรายงานบ่อยครั้งเกี่ยวกับการทารุณกรรมและการละเลย สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์อันเลวร้ายที่ผู้ต้องขังหญิงต้องเผชิญ เคยมีผู้หญิงมากกว่า 40 คนเสียชีวิตจากเหตุจลาจลในเรือนจำฮอนดูรัส จากการถูกเผา บาดแผลจากกระสุนปืน และการถูกแทงด้วยมีด
อันดับ 10. เรือนจำกลาดานี รัฐจอร์เจีย
ตั้งอยู่ในทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย มีชื่อเสียงในด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างโหดร้าย เรือนจำกลาดานีอยู่ในอันดับที่ 10 ของรายชื่อเรือนจำที่โหดร้ายที่สุดในโลก หนังสือพิมพ์ Atlanta Journal-Constitution เคยรายงานว่ามีนักโทษเสียชีวิต 35 คน โดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุการณ์อื้อฉาวที่เรือนจำกลาดานีในกรุงทบิลิซี รัฐจอร์เจีย มีชื่อเสียงในด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างโหดร้าย ในปี 2012 มีการเปิดโปงการทรมานนักโทษโดยเจ้าหน้าที่คุมขัง รวมถึงการข่มขืนและการทำร้ายร่างกาย ในวิดีโอที่บันทึกโดยอดีตเจ้าหน้าที่คุมขัง วิดีโอดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงและการปฏิรูปการปฏิบัติต่อนักโทษทั่วประเทศ
อันดับ 11. เรือนจำนิวเม็กซิโก (Penitentiary of New Mexico : PNM) ในสหรัฐอเมริกา
PNM เป็นเรือนจำชายที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด ประกอบด้วยเรือนจำสามแห่งแยกกัน ได้แก่ ชั้น 2 ชั้น 5 และชั้น 6 เรือนจำระดับ 6 แห่งนี้เป็นเรือนจำระดับสูงสุดสำหรับนักโทษประหารชีวิตและบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ในปี พ.ศ. 2523 เรือนจำ PNM ได้ประสบเหตุจลาจลในเรือนจำ มีเหตุนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 33 รายเหตุการณ์นี้ตอกย้ำสถานะของเรือนจำ PNM ให้เป็นหนึ่งใน 25 เรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก
อันดับ 12. เรือนจำแอตติกา สหรัฐอเมริกา
เรือนจำแอตติกา ตั้งอยู่ที่เมืองแอตติกา รัฐนิวยอร์ก เป็นเรือนจำที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด คุมขังอาชญากรฉาวโฉ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เรือนจำนี้ขึ้นชื่อจากเหตุการณ์จลาจลในปี พ.ศ. 2514 ซึ่งเป็นการจลาจลที่ยาวนานและนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิผู้ต้องขัง ที่นักโทษยึดอำนาจและจับเจ้าหน้าที่ 42 คนเป็นตัวประกันเป็นเวลา 4 วัน เหตุจลาจลครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 43 ราย
อันดับ 13. เรือนจำลาโมเดโล ในโคลอมเบีย
เรือนจำลาโมเดโล ตั้งอยู่ในโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เป็นเรือนจำของกลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายในปีกเหนือ และกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลฝ่ายขวาในปีกใต้ โดยพื้นที่ระหว่างเรือนจำทั้งสองแห่งนี้เป็นสมรภูมิรบ ในบทความที่ตีพิมพ์โดยอัลจาซีราห์ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 เกิดการจลาจลขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย และบาดเจ็บ 83 รายนอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของอาชญากรฉาวโฉ่ที่สุดของโคลอมเบียอีกด้วย
อันดับ 14. เรือนจำเมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา
เรือนจำเมนโดซา ในอาร์เจนตินา ขึ้นชื่อเสียงเป็นหนึ่งในเรือนจำที่เลวร้ายที่สุดในโลก เนื่องจากปัญหาความแออัดอย่างรุนแรง ทำให้สภาพความเป็นอยู่ต่ำกว่ามาตรฐาน มีการคุมขังจำนวนนักโทษมากกว่าที่เรือนจำจะรองรับได้ประมาณ 3 เท่า ข้อมูลจากองค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่ามีนักโทษเสียชีวิต 22 คนจากการปฏิบัติที่โหดร้าย เรือนจำแห่งนี้สามารถรองรับนักโทษได้ 600 คน แต่ปัจจุบันมีผู้ต้องขังมากกว่า 1,600 คน ห้องขังมีพื้นที่เพียง 43 ตารางฟุต มักคุมขังนักโทษไว้มากถึงห้าคน ซึ่งหลายคนถูกบังคับให้นอนบนพื้นโดยไม่มีที่นอน เรือนจำต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น การทรมาน การเสียชีวิต การดูแลทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ และการขาดระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม ซึ่งบังคับให้ผู้ต้องขังต้องใช้ถุงและขวดพลาสติกเป็นห้องน้ำ
อันดับ 15. เรือนจำกาเดเรย์ตา, นวยโวเลออง ในเม็กซิโก
เคยเกิดการจลาจลขึ้นภายในเรือนจำส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย ความวุ่นวายเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดจากปัญหาความแออัด ความขัดแย้งระหว่างแก๊งนักโทษ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่ไม่เพียงพอ
อันดับ 16. เรือนจำลาซาบาเนตา ในเวเนซุเอลา
เรือนจำลาซาบาเนตาในเวเนซุเอลาขึ้นชื่อเรื่องสภาพความรุนแรงและไร้มนุษยธรรม เรือนจำแห่งนี้เต็มไปด้วยปัญหาความแออัด โรคระบาด และความรุนแรงจากกลุ่มแก๊งนักโทษ ผู้ต้องขังมักเผชิญกับการปฏิบัติอย่างโหดร้ายและขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายของเรือนจำทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้เรือนจำแห่งนี้เป็นหนึ่งในเรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก
อันดับ 17. เรือนจำพาร์ค บริดเจนด์
เรือนจำพาร์กในเมืองบริดเจนด์เคยถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เนื่องจากเหตุการณ์ที่น่าวิตกเมื่อมีผู้ต้องขังเสียชีวิต 10 รายในช่วงเวลาเพียงกว่าสามเดือน ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดของนักโทษ การเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องนี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสภาพของเรือนจำ และประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมยาเสพติด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ต้องขัง
อันดับ 18. เรือนจำรักษาความปลอดภัยสูงสุดคามิติ ในเคนยา
เรือนจำรักษาความปลอดภัยสูงสุดคามิติ ตั้งอยู่ในประเทศเคนยา มีชื่อเสียงในด้านสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย นักโทษบางคนถูกสังหารขณะพยายามหลบหนี หรือเสียชีวิตจากการถูกทรมานโดยเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงภายในเรือนจำแห่งนี้
อันดับ 19. เรือนจำเซาเทิร์นโอไฮโอ (Southern Ohio) ในสหรัฐอเมริกา
เรือนจำเซาเทิร์นโอไฮโอ เคยเกิดการจลาจลนานถึง 11 วัน ในปี 1993 การจลาจลครั้งนี้ได้สร้างรอยแผลลึกในประวัติศาสตร์ของรัฐ ท่ามกลางความโกลาหลมีนักโทษเสียชีวิต 9 ราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 ราย การจลาจลครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเรือนจำมีความซับซ้อนเพียงใด และตอกย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการพัฒนาเรือนจำให้ดียิ่งขึ้น
อันดับ 20. ค่ายกักกันอ่าวกวนตานาโม ในคิวบา
ค่ายกักกันอ่าวกวนตานาโมติดอันดับที่ 20 จาก 26 เรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก และเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลกเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ถูกคุมขังอย่างโหดร้าย การทรมาน การคุมขังโดยไม่มีกำหนด ไม่มีการพิจารณาคดี และการละเมิดสิทธิมนุษยชน เคยมีนักโทษ 9 คนเสียชีวิตขณะถูกคุมขังในค่ายกักกันแห่งนี้
อันดับ 21. เกาะไรเกอร์ส รัฐนิวยอร์ก
เป็นเกาะที่ตั้งของศูนย์กักขังที่ใหญ่ที่สุดของนครนิวยอร์ก ดำเนินการโดยกรมราชทัณฑ์นิวยอร์กซิตี้ (NYCDOC) และขึ้นชื่อเรื่องสภาพความเป็นอยู่ที่โหดร้าย นักโทษต้องเผชิญกับปัญหาความแออัด ความรุนแรง และการดูแลทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ รายงานการละเมิดสิทธิของผู้คุมและกิจกรรมแก๊งที่แพร่หลายยิ่งทำให้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายยิ่งเลวร้ายลง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จึงเกิดเสียงเรียกร้องให้ปิดสถานกักขังและปฏิรูปสถานกักขัง
อันดับ 22. เรือนจำกัวเตมาลา
บีบีซีเคยรายงานว่า ในปี พ.ศ. 2562 เกิดการจลาจลรุนแรงขึ้นในเรือนจำแห่งหนึ่งในกัวเตมาลาระหว่างผู้ต้องขัง จนถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงกัน ส่งผลให้นักโทษเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า 7 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับปรุงการบริหารจัดการเรือนจำและการปฏิรูปเพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมเช่นนี้ในอนาคต
อันดับ 23. ค่ายกักกัน ลาฮอร์ ปากีสถาน
ติดอันดับที่ 23 ในรายชื่อเรือนจำที่อันตรายที่สุด เรือนจำแห่งนี้เคยพบว่ามีจำนวนนักโทษเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลและลึกลับ มีนักโทษเสียชีวิต 6 รายภายใน 12 วัน จากการบาดเจ็บที่ศีรษะและโรคเรื้อรัง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสภาพของเรือนจำและสถานพยาบาล
อันดับ 24. เรือนจำรัฐซานเควนติน สหรัฐอเมริกา
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของซานฟรานซิสโกในชุมชนซานเควนติน เป็นเรือนจำถาวรแห่งแรกและเป็นเรือนจำประหารชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ ในปี พ.ศ. 2525 เกิดการจลาจลขึ้นภายในเรือนจำ ส่งผลให้นักโทษเชื้อสายฮิสแปนิกและแอฟริกันอเมริกันต้องต่อสู้กันเอง ทำให้มีนักโทษ 6 คนเสียชีวิตจากความรุนแรงเหตุการณ์นี้ตอกย้ำความตึงเครียดภายในระบบเรือนจำ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีมาตรการเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างกลุ่มและปรับปรุงความปลอดภัย
อันดับ 25. เทอร์เรโฮต สหรัฐอเมริกา
เป็นที่อยู่ของนักโทษที่มีชื่อเสียง เช่น โชคาร์ ซาร์นาเยฟ ผู้ก่อเหตุวางระเบิดการแข่งขันบอสตันมาราธอนในปี 2013 เรือนจำแห่งนี้ได้รับฉายาว่ากวนตานาโมเหนือ เคยเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์สภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ การดูแลทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอและเสียงดังรบกวน ตามบทความของ WFYI เคยมีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำแห่งนี้ทั้งหมด 2 คนในเดือนมกราคม ปี 2024 ถูกฆาตกรรมโดยนักโทษอีกคนหนึ่ง
อันดับ 26. เรือนจำถนนอาร์เธอร์ ประเทศอินเดีย
เรือนจำถนนอาร์เธอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเรือนจำกลางมุมไบ อยู่ในอันดับที่ 26 จากรายชื่อเรือนจำที่อันตรายที่สุดในโลก เป็นเรือนจำที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของมุมไบ และประสบปัญหาร้ายแรงจากการขาดแคลนเจ้าหน้าที่และความแออัดภายในเรือนจำ เรือนจำได้รับการออกแบบให้รองรับผู้ต้องขังได้ 800 คน แต่กลับมีนักโทษมากกว่า 2,000 คนทำให้เกิดความตึงเครียดและความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในหมู่นักโทษ ปัญหาด้านสุขอนามัย สภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ การทุจริต และการปฏิบัติที่รุนแรงต่อผู้ต้องขัง จนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้นเป็นประจำภายในเรือนจำ
Advertisement