Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
วิทยุทรานซิสเตอร์ ผู้ช่วยแผ่อิทธิพลเพลงลูกทุ่งไทยให้ขยายไปทั้งประเทศ

วิทยุทรานซิสเตอร์ ผู้ช่วยแผ่อิทธิพลเพลงลูกทุ่งไทยให้ขยายไปทั้งประเทศ

13 มิ.ย. 68
10:26 น.
แชร์

"บ้านนานุ่งถุง บ่าหาบกระบุงลุยนา พูดภาษาไทยเดิมท้องตลาด

ฟังวิทยุเอเอ็มมิได้ขาด มีวิทยุราคาร้อยกว่าบาท

บ้างฟังในกระจาด บ้างก็พาดขอบกระบุง

อยากมีสุขใจก็เอื้อมมือไปหมุนเข็ม เปิดเอเอ็มฟังเพลงของลูกทุ่ง

ยามไถเราไถทำไปด้วยใจมุ่ง อาหารพอหามีกินทั้งปลากุ้ง

ผักเบี้ย ผักบุ้ง มีทั้ง ปลาร้า ปลาเค็ม..."

บทเพลง "สาวเอเอ็ม" ของราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ยังคงกึกก้องอยู่ในหัวใจของคนไทย แม้เธอจะจากไปแล้วหลายสิบปี เพลงนี้ได้กล่าวถึงสาวบ้านนาที่ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง โดยเมื่อย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วิทยุทรานซิสเตอร์ถือเป็นของคู่บ้านคนไทย นิยมใช้รับฟังข่าวสาร ความบันเทิง และเสียงเพลง ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ใส่ถ่านเพียงไม่กี่ก้อนก็ใช้ได้ หลายคนจึงมักจะพกวิทยุติดตัวไปฟังในระหว่างทำไร่ ทำนา หรือระหว่างทำงาน

อุดม วิทยะสิรินันท์ ผู้ให้กำเนิด "ธานินทร์" ตำนานวิทยุคู่คนไทย

คุณอุดม วิทยะสิรินันท์ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและตำนานของแบรนด์วิทยุ "ธานินทร์" (Tanin) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของทุกครัวเรือนไทย เขาไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการ แต่คือผู้บุกเบิกที่มองเห็นโอกาสและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงใจคนไทยทั้งประเทศ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความมุ่งมั่นในคุณภาพ

เนื่องจากสมัยก่อน วิทยุและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต้องนำเข้ามาจากจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นหลัก คุณอุดมซึ่งเป็นครูสอนพิมพ์ดีดธรรมดาๆ เล็งเห็นโอกาสนี้จึงหุ้นกับเพื่อนๆ เปิดร้าน "นภาวิทยุ" นำเข้าวิทยุมาจากต่างประเทศ จนกิจการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กับหุ้นส่วน จึงแยกออกมาเปิดร้านใหม่กับบรรดาพี่น้อง ภายใต้ชื่อ "ห้างหุ้นส่วนจำกัดธานินทร์วิทยุ"

จากนั้นในช่วงปี 2504 ประเทศไทยได้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างรวดเร็วจาก คนไทยหันมาให้ความสนใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองผ่านวิทยุกันมากขึ้น คุณอุดมซึ่งที่มีความรู้และความสนใจในด้านอิเล็กทรอนิกส์ และมองว่าคนไทยเองก็มีความสามารถในการผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้ จึงผลิตวิทยุขึ้นมาภายใต้ชื่อแบรนด์ "ซิลเวอร์" (Silver) ออกวางจำหน่าย แต่ว่าชื่อ Silver ไปตรงกับแบรนด์ของต่างประเทศ เขาจึงหันมาใช้ชื่อว่า "ธานินทร์" ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากวิทยุของเขาสามารถรับคลื่น AM ได้ชัด แถมมีราคาถูกกว่าวิทยุนำเข้า

"ฉันคนชาวนาหน้าตาเซ่อ

ฟังทรานซิสเตอร์ก็พอใจ

ไปไหนก็เอาไปด้วย ขึ้นเขาลงห้วยก็เอาไป

ฟังเพลงตะลุงบ้านนา ฟังเพลงตะลุงบ้านนา

บางทีก็บ้าฟังไป ร้องไป

สาวทรานซิสเตอร์ ว่างนะเออรักฉันไหม

รักกันไม่ผิดหวัง ขอเพลงให้ฟังฉันก็พอใจ

ขับร้องเพลงให้เก่ง ประกวดร้องเพลงวัดไหน เราก็ไป"

ต่อมาคุณอุดมจึงได้ร่วมมือกับพี่น้อง จัดตั้ง บริษัท ธานินทร์อุตสาหกรรม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท โดยเขามาพร้อมกับการประกาศตัวว่านี่คือสินค้า "เมดอินไทยแลนด์" พร้อมกับสโลแกนว่า "ทุกบาทคุ้มค่าด้วยธานินทร์" ซึ่งจุดแข็งเรื่องราคา ใช้งานง่าย สามารถจูนคลื่นวิทยุทั้ง AM / FM พกพาสะดวก และกระแสรณรงค์ให้คนไทยใช้ของไทย ทำให้วิทยุทรานซิสเตอร์ธานินทร์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัดและชนบท เพราะบริษัทของเขานำวิทยุไปตระเวนขายตามงานวัด งานกาชาด ฯลฯ จนผู้คนรู้จักชื่อ "ธานินทร์" ต่างจับจองซื้อหาไปใช้ฟังข่าวสาร ฟังเพลง โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง ที่เนื้อหาและท่วงทำนองเข้าไปถึงหัวจิตหัวใจของชาวไร่ ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน ไม่ต่างกับวิทยุทรานซิสเตอร์ธานินทร์ที่เข้าถึงท้องไร่ ท้องนา โรงงาน ซึ่งสามารถพูดได้ว่า วิทยุทรานซิสเตอร์ธานินทร์ เป็นผู้ช่วยแผ่อิทธิพลเพลงลูกทุ่งไทยให้ขยายไปทั้งประเทศ ธานินทร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยในปี 2526 สามารถทำรายได้ถึง 800 ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 3 ของไทย รองจากยักษ์ใหญ่ในขณะนั้นอย่าง โซนี่ (Sony) และเนชั่นแนล (National) หรือปัจจุบันคือ พานาโซนิค (Panasonic)

จากวันที่รุ่งโรจน์สู่วันที่ร่วงโรย

หลังก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ ทำให้คู่แข่งจากประเทศญี่ปุ่นแก้เกมด้วยการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาประกอบในประเทศไทยทำให้ต้นทุนต่ำลงมาก แต่ธานินทร์เองยังต้องนำเข้าวัสดุจากต่างประเทศจึงทำให้ต้นทุนสูงกว่า ประกอบกับเกาหลีและไต้หวันปฏิวัติอุตสาหกรรมใช้เครื่องจักรแทนคน สามารถผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้วันละนับแสนชิ้น ขณะที่ธานินทร์ที่เทคโนโลยีด้อยกว่าผลิตได้วันละหลักพันเครื่อง จึงทำให้ของเริ่มค้างสต็อก ขณะเดียวกันปัญหาการเงินที่สะสมมานาน ทำให้เกิดวิกฤติจนต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ ก่อนที่จะถูกบริษัทในเครือสหยูเนี่ยนเข้ามาเทกโอเวอร์ในปี 2532 เกิดเป็น 2 บริษัทใหม่ แต่การผลิตและจัดจำหน่ายวิทยุยังคงทำในนามของ บริษัทธานินทร์อีเล็คโทรนิกส์ อยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ธานินทร์ยังทำเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ "อัลทรอน" (Altron) ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมคือ โทรทัศน์ โดยยังคงจุดแข็งการเป็นแบรนด์สัญชาติไทย ราคาเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์การใช้งาน

ปัจจุบันวิทยุ "ธานินทร์" ยังคงได้รับความนิยมในตลาดต่างจังหวัดอยู่ แม้จะไม่ได้อยู่ในจุดที่สูงแบบเมื่อก่อน แต่ด้วยราคาหลักร้อยแต่สามารถแลกความสุขจากข่าวสารและเสียงเพลง จึงทำให้ยังคงยึดความประทับใจจากลูกค้าได้เสมอ แต่ที่คงไม่เปลี่ยนไปคือ "ธานินทร์" คือตำนานสำคัญที่ช่วยรันวงการลูกทุ่งไทยให้ยืนหยัดยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้

Advertisement

แชร์
วิทยุทรานซิสเตอร์ ผู้ช่วยแผ่อิทธิพลเพลงลูกทุ่งไทยให้ขยายไปทั้งประเทศ