เจาะนาฬิกาหรูจากซีรีส์ “สันติ VS เฮียคณิน” นัยยะ “ทำตัวให้สมกับนาฬิกา”
“หรูไปไม่มีหรอก ทำตัวให้สมกับนาฬิกา” หนึ่งในซีนเด็ดจาก “สงครามส่งด่วน” ซีรีส์จาก Netflix ที่กลายเป็นไวรัลข้ามคืน Amarin Online พาไปเปิดมูลค่านาฬิกาหรูของ “สันติ VS เฮียคณิน” พร้อมนัยยะที่ซ่อนอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากก้าวแรกของจุดเริ่มต้นธุรกิจ “เฮียคณิน” เจ้าของธุรกิจ Easy Express ยื่นนาฬิกาแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่งให้ “สันติ” เด็กดอย CEO มือใหม่ แล้วกล่าวว่า “หรูไปไม่มีหรอก ทำตัวให้สมกับนาฬิกา”
นาฬิกาหรูเรือนนั้นที่ทำเอาตาลุกวาว เป็นนาฬิกา มูลค่าหลักแสน ที่สะท้อนความใจป๋า ใจใหญ่ใจโตดุจราชสีห์ ก่อนจะตัดมาที่ซีน เฮียสุดที่รักหักเหลี่ยมโหด เมื่อ “เฮียคณิน” กำลังสวมใส่นาฬิกาแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่ง มูลค่าหลักล้าน ก่อนจะออกไปงานแถลงข่าวเปิดตัว CEO ที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่ “สันติ”
เรื่องราวตามล้าง ตามแค้น ตามส่งด่วน หลังจากนั้น “นาฬิกา” เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่บูสเตอร์ความแค้นของตัวละครอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจะไปลองค้นหานัยยะ การทำตัวให้สมกับนาฬิกา หมายความว่าอย่างไร?
คำว่า “ทำตัวให้สมกับนาฬิกา” มีนัยยะที่ซ่อนอยู่หลายมิติ ไม่ใช่แค่การแต่งกายให้เข้ากับนาฬิกา ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ
แต่เป็น “กระจกสะท้อนตัวตนและสถานะทางสังคมของผู้สวมใส่” การ “ทำตัวให้สมกับนาฬิกา” ที่เห็นในซีรีส์นั้นยังหมายถึง “การพัฒนาและยกระดับตัวเอง” ให้มีคุณสมบัติที่ “คู่ควรกับสิ่งของที่มีค่า”
1. บุคลิกภาพที่โดดเด่น เพราะนาฬิกาหรูเป็นเครื่องประดับที่ดึงดูดสายตา ดังนั้นผู้สวมใส่อาจจะต้องมีบุคลิกมั่นใจในตัวเอง มีความเป็นผู้นำ สง่างาม ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง สะท้อนถึงความหนักแน่นและมีวุฒิภาวะ
2. ความรับผิดชอบและการบริหารจัดการ การจะครอบครองนาฬิกาหรูได้นั้นอนุมานได้ว่า ต้องเป็นผู้ที่มีความสำเร็จในชีวิต การทำตัวให้สม จึงหมายถึงการเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง สามารถบริหารจัดการทั้งการงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงวินัยและความมุ่งมั่น
3. มารยาททางสังคม ผู้สวมใส่นาฬิการาคาสูง สังคมย่อมคาดหวังความแพงในตัวตนเจ้าของที่สมกับนาฬิกา ควรรู้จักมารยาททางสังคมที่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด การควบคุมอารมณ์ได้ดี มีความสุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น และรู้จักกาลเทศะ
4. การสวมใส่นาฬิกาหรูควรมาพร้อมกับความรู้และความเข้าใจในคุณค่าของมัน ไม่ใช่แค่ราคาแต่เป็นประวัติศาสตร์ งานฝีมือ และกลไกอันซับซ้อน สะท้อนให้เห็นถึงการรู้จักคุณค่าของสิ่งของ ไม่ใช่แค่เพื่อสามารถพูดคุยเรื่องนาฬิกาได้อย่างลึกซึ้ง แต่เพื่อช่วยเสริมให้คุณดูมีกึ๋นมากขึ้น
สำหรับนาฬิกาของ “สันติ” คือ Rolex Submariner ref. 168000
เป็นนาฬิการุ่นหายาก ผลิตในปี 1987-1988 โดยได้นำเอาองค์ประกอบที่ดีที่สุดของ Rolex Submariner ทั้งรุ่นวินเทจและรุ่นโมเดิร์นมารวมไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
นาฬิกา Rolex รุ่นนี้ผลิตในช่วงเวลาสั้นมาก ผลิตขึ้นเพียง 7-9 เดือน ราคามือสองอยู่ที่ประมาณ 11,299 ดอลลาร์สหรัฐ - 21,762 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 369,036 บาท ถึง 710,812 บาท
ส่วนนาฬิกาของ “เฮียคณิน” คือ Patek Philippe Naulilus 5811
ไอคอนของความสปอร์ตที่สง่างาม นาฬิการุ่นนี้ได้รับการตีความใหม่จากดีไซน์สุดคลาสสิก โดดเด่นด้วยตัวเรือนและสายนาฬิกาสีทองคำขาว รวมถึงหน้าปัดสีน้ำเงินซันเบิร์สต์พร้อมขอบสีดำไล่เฉด สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของนาฬิกา Nautilus ได้รับการเสริมแต่งด้วยการเล่นสีแบบซาตินและขัดเงา เข็มนาฬิกาแบบบาตองกลมสีทองขาว เคลือบเรืองแสงสีขาว สายนาฬิกามีตัวล็อกแบบพับที่ได้รับสิทธิบัตรพร้อมระบบปรับล็อกได้ กันน้ำลึก 30 ม. เม็ดมะยมขันเกลียว ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ ราคา ราคา 2,715,600 บาท (อ้างอิงราคาจาก www.patek.com)
ภาพจาก : www.farfetch.com , www.patek.com , Netflix Thailand
Advertisement
