รักษาด้วยน้ำร้อนราดไม่มีในตำรา เสี่ยงไตวายช็อกดับ ป้องกันชักจากไข้

ไม่มีการช่วยชีวิตใดใช้น้ำร้อนราด เสี่ยงไตวาย ติดเชื้อในกระแสเลือดช็อกเสียชีวิต เผย วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง อาการชักจากไข้

ถือเป็นข่าวใหญ่ช็อกสังคมกับกรณีของ หมอใช้น้ำร้อนราดลงบนตัวเด็กโดยอ้างเป็นวิธีช่วยชีวิต คำกล่าวอ้างดังกล่าวสร้างความสับสนให้แก่สังคมอย่างหนักเพราะผู้กล่าวอ้างนั้นเป็น "หมอ" อาชีพที่ได้รับความเคารพ และเป็นเสียงที่สังคมไทยมักเชื่อฟังที่สุด... แต่การเอาน้ำร้อนราด มันใช่หรอ?

ล่าสุด เพจฯ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ยืนยัน ไม่มีการช่วยชีวิตใดใช้น้ำร้อนราด พร้อมระบุรายละเอียดว่า

"เมื่อลูกถูกน้ำร้อนลวก ...

เมื่อวานเกิดข่าวเด็กถูกน้ำร้อนราดที่อกที่คลินิกหนึ่ง จนเกิดบาดแผลพุพองผิวหนังลอก พ่อแม่พาไปตรวจที่ รพ. อำเภอและส่งต่อไปยัง รพ. ศูนย์ เนื่องจากอาการรุนแรงและเสี่ยงต่อชีวิตได้ ...

วันนี้จึงหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกันว่า ทำไมโดนของร้อนหากใหญ่พอ หากโดนตรงตำแหน่งสำคัญ จึงเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากทางการแพทย์

อันดับแรกก่อน ... ไม่มีการราดน้ำร้อนในการรักษาโรคใดในทุกสารบบทางการแพทย์แน่ๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หากเด็กไข้ขึ้น จงกินยาลดไข้ และอาจเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนโดยใช้น้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป หรือจะพาไปอาบน้ำก็ได้ไม่ว่ากัน หากทำให้เด็กสบายตัวขึ้น ไม่ขัด ไม่เช็ดแรง เพราะไม่ได้ช่วยให้ไข้ลงเร็วขึ้น ใครบอกว่าขัดแรง ๆ แล้วไข้ลงเร็ว ให้เอาผ้าไปขัดผิวมันดูบ้าง 555 ให้สาสม (มิสซิสสร เข้าสิง)

เอาล่ะ เมื่อถูก Burn ไม่ว่าจะด้วยน้ำร้อนลวก ไฟช็อต น้ำตาเทียนหล่นใส่ เผลอไปจับกระทะหรือยกของร้อนแบบไม่ระวัง ... ผิวหนังจะได้รับอันตราย ... ไล่ระดับตามความรุนแรง ... น้อยที่สุดก็แค่รู้สึกแสบร้อนผิวแดงแล้วหายเอง พวกนี้จะทายาสีฟัน ทาบัวหิมะแบบจีน หรือทาว่านหางก็ได้ อาการน้อยไม่มีปัญหา ทางการแพทย์เรียกว่า 1st degree Burn

แต่หากรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่ 2nd degree burn (ลงไปถึงชั้นหนังแท้บางส่วน) จะเกิดตุ่มน้ำใส หรือผิวหนังลอกแสบร้อนมาก หากถุงน้ำลอกออกจะเห็นพื้นแผลสีชมพูชื้น น้ำเหลืองซึม แบบนี้รักษาราว 2-3 สัปดาห์จึงหาย

หรือ 3rd degree burn (ทำลายทุกชั้นผิว) เกิดแผลขาวซีด เหลือง น้ำตาลไหม้ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเพราะเส้นประสาทไปหมดแล้ว อันนี้อันตรายสุด ๆ ไม่หายเอง และเมื่อหายจะเกิดแผลเป็นรุนแรง ยึด ดึงรั้งได้ อาจต้องปลูกถ่ายผิวหนัง

ปัญหาของการถูกความร้อนจนผิวหนังลอก เพราะผิวหนังคืออวัยวะที่สำคัญมาก ป้องกันการติดเชื้อ ควบคุมสารน้ำและอุณหภูมิร่างกาย หากผิวหนังลอกเป็นบริเวณกว้าง ร่างกายจะขาดน้ำรุนแรงได้ ไตวายได้ ในขณะเดียวกันก็ติดเชื้อรุนแรงลงชั้นผิวด้านล่างได้ ติดเชื้อในกระแสเลือดและช็อกได้เลย

ดังนั้น หากพื้นที่ในการถูกความร้อนใหญ่ อย่างเด็กในข่าว แบบนี้ต้องไป รพ. ศูนย์ เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องบริหารสารน้ำ น้ำเกลือให้ดี ไม่งั้นไตวายได้ เกลือแร่ในเลือดผิดปกติได้ ชักได้ และเสียชีวิตได้เลยครับ

อีกเรื่องคือ หากเป็น 3rd degree burn ในตำแหน่งที่สำคัญ เช่นที่ใบหน้า มือ และข้อต่อต่าง ๆ ที่อาจเกิดแผลดึงรั้งจนเกิดอันตราย คิดสภาพ Burn ที่มือแล้วมีแผลเป็นดึงรั้งทั้งมืออาจทำให้มือขยับไม่ได้ พิการได้เลยนะ หรือหากเป็นที่จมูก หรือตา อันนี้อันตรายต่อการมองเห็นและการหายใจได้

ดังนั้น การถูกของร้อน มิใช่เรื่องเล่น ๆ นะครับ หากบาดแผลใหญ่ หรือโดนในตำแหน่งที่สำคัญ ควรไป รพ. ทันทีเลย"

ขณะที่เพจฯ หมอม็อด หมอเด็กขอเล่า ยืนยัน ราดน้ำร้อนลงบนตัวเด็กไม่ต่างโดนเผาทั้งเป็น ย้ำไม่ใช่วิธีรักษา อันตรายถึงไตวายเสียชีวิตได้

เด็กโดน “น้ำร้อนราดอก” อ้างว่าช่วยรักษาอาการช็อก ฟังข่าวนี้แล้วรู้สึกสงสารเด็กจับใจ… ขนาดเราโดนน้ำร้อนลวกมือ ยังเจ็บแทบตาย แต่นี่โดนเอาราดลงที่หน้าอก — เหมือนโดนเผาทั้งเป็น

จากข่าวเขียนไว้ว่า หลังจากโดนน้ำร้อนราด เด็กมีแผลไหม้ขนาดใหญ่ที่หน้าอก และผลตรวจเลือดพบว่า “ค่าไตสูงผิดปกติ” แล้วการราดน้ำร้อนมันรักษาอะไร? ค่าไตสูงมันเกิดจากอะไร? เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ

การราดน้ำร้อนลงบนร่างกายเด็ก ไม่ว่าจะเพื่อรักษาอะไร ไม่มีอยู่ในวิธีรักษาของ..

❌ แพทย์แผนปัจจุบัน

❌ แพทย์แผนไทย

❌ หรือแม้แต่แพทย์แผนจีน

ทำแบบนี้มีแค่ “แผนของหมอเถื่อน หมอปลอม” เท่านั้นครับ

คิดง่ายๆ เลย… น้ำร้อน = ทำให้ผิวหนังไหม้ กลายเป็นแผล แล้วการสร้างบาดแผลขึ้นมา จะเรียกว่ารักษาได้ยังไงกัน?

แล้วแผลไหม้เกี่ยวอะไรกับ “ไตวาย”?

เกี่ยวมากและอันตรายมากด้วย แผลไหม้รุนแรง = กล้ามเนื้อถูกทำลาย ในกล้ามเนื้อมีสารที่ชื่อ myoglobin เมื่อเซลล์กล้ามเนื้อแตก สารนี้จะไหลออกมามากๆ → ไหลไปที่ไต เพื่อขับออกจากร่างกาย แต่ถ้ามีมากเกินไป = ไปอุดตันท่อไต

ทำให้ไตไม่สามารถทำงานได้ → เรียกว่าไตวาย

ยังไม่หมด…

เด็กคนนี้มีไข้สูง อยู่แล้ว แถมมีแผลไหม้ขนาดใหญ่อีก แปลว่า… เด็กกำลัง “เสียน้ำ” ทางร่างกายอย่างรุนแรง ลองนึกถึงแผลไหม้ เหมือนรูรั่วที่น้ำไหลออกตลอดเวลา น้ำในร่างกายลดลง → เลือดไหลเวียนไม่ดี→ ไตก็ทำงานไม่ไหว → ไตวายได้อีกเช่นกัน

สิ่งที่น่ากลัวไม่แพ้แผลไหม้ คือปัจจุบัน มีคนที่อ้างว่าเป็นหมอเยอะมาก ทั้งๆ ที่…

❌ ไม่ได้เป็นหมอจริง

❌ หรือเป็นหมอจริง แต่ไม่ได้เป็นหมอเฉพาะทางตามที่แอบอ้าง

ก่อนพาเด็กไปรักษากับใคร ตรวจสอบชื่อกับ “แพทยสภา” ก่อนเสมอ เพราะหมอทุกคนในประเทศไทย จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนแพทยสภา ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ถ้าหาไม่เจอ → ระวังให้ดี นั่นอาจไม่ใช่หมอจริง และไม่ควรฝากชีวิตลูกไว้กับคนแบบนั้น

สรุปอีกที

• ไม่มีศาสตร์การแพทย์ไหนแนะนำให้ “ราดน้ำร้อน” เพื่อรักษา
• แผลไหม้รุนแรง + เสียน้ำจากไข้และแผล = เสี่ยงไตวาย
• ตรวจสอบชื่อผู้รักษากับเว็บไซต์แพทยสภาก่อนเสมอ

อาการชักจากไข้ไม่ส่งต่อสมองหรือพัฒนาการเด็ก

คำแนะนำจาก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุ อาการชักจากไข้ ไม่ได้ส่งผลต่อสมองหรือพัฒนาการในเด็ก

อาการชักจากไข้ วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง

1. จัดให้เด็กอยู่ในท่านอน อย่าใหักระทบกระแทก

2. สังเกตอาการชัก ไม่เอาอะไรงัดปาก หรือกดหน้าอก

3. อาการชักส่วนใหญ่หยุดเอง ใน 5 นาที แต่ถ้าไม่หยุดชักให้ โทร 1669

เด็กมีไข้ป้องกันอย่างไรไม่ให้ชัก

ให้ยาลดไข้ พาราเซตามอล ทุก 4-6 ชม. และเช็กตัวลดไข้ อาการชักจากไข้ส่วนใหญ่เกิดใน 24 ชม.แรกนับตั้งแต่มีไข้ โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ยาป้องกันการชักจากไข้สูงเนื่องจากผลข้างเคียงของยามีมากกว่าอาการชักจากไข้เอง