ยอดขายรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีปริมาณรวม 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดย โตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาดด้วยยอดขายสะสมเจ็ดเดือนแรกที่ 132,049 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.5%
ตลาดรถยนต์โดยรวมในเดือนกรกฎาคม 2568 เติบโตขึ้นเล็กน้อย 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ในขณะที่ตลาดรถกระบะมีแนวโน้มลดลง สะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ยอดขายรวมในเดือนกรกฎาคม 2568
ยอดขายสะสม 7 เดือน (มกราคม - กรกฎาคม 2568)
ยอดขายสะสมของ โตโยต้า ยังคงเป็นผู้นำตลาดอย่างชัดเจน แม้ว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อย 1.5% จากปีที่ผ่านมา ส่วนยอดขายของอีซูซุและฮอนด้าลดลงค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคอาจชะลอการซื้อรถในกลุ่มนี้
ยอดขาย รถยนต์ไฮบริด (HEV) ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีจำนวน 11,144 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24% จากปีที่แล้ว และมียอดขายสะสม 7 เดือนแรกอยู่ที่ 78,354 คัน ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ xEV ทั้งหมดสูงถึง 51% การเติบโตนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้บริโภคที่หันมาใช้รถยนต์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
แนวโน้มในอนาคต
รายงานคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมมีแนวโน้ม ทรงตัว เนื่องจากหลายปัจจัยที่อาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ ได้แก่
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2568 ยังคงมีความท้าทาย แต่การเติบโตของรถยนต์นั่งและรถยนต์ไฮบริดก็เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดไทย