เกียรติธนา มั่นใจธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

29 ม.ค. 67

เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT มั่นใจธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ คาดยังเติบโตได้ระหว่าง 2-2.5% เนื่องจากความต้องการยังอยู่ในอัตราสูง แต่ผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานและได้รับความวางใจยังมีน้อย

นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่าปี 2566 ที่ผ่านมาธุรกิจโลจิสติกส์ต้องเจอปัญหาและความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเรื่องราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามตลาดโลก และคู่แข่งในตลาดโลจิสติกส์ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการแชร์ส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่เดิม ทั้งยังทำให้เกิดสงครามราคาอย่างดุเดือดตามมา

มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน)

สำหรับภาพรวมของภาคธุรกิจขนส่งสินค้าอันตราย อาทิ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์และก๊าซรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้อัตราเติบของตลาดประมาณ 2.0 – 2.5% ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวทั้งในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ขณะที่การแข่งขันของธุรกิจไม่รุนแรงนัก เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่ได้รับการยอมรับในตลาดยังมีน้อยราย และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าอันตรายยังคงมีโอกาสทำกำไร

“แต่หากมองภาพรวมของธุรกิจขนส่งในปีนี้ เรายังคงมองว่าตลาดยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนตลาดเพราะธุรกิจขนส่งถือว่าเป็นธุรกิจบริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายสินค้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสินค้าในแต่ละขั้นของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่วัตถุดิบ สินค้าขั้นต้น สินค้าขั้นกลาง และสินค้าสำเร็จรูป ภาวะของธุรกิจจึงขึ้นกับปริมาณสินค้า ซึ่งผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจหลายแห่งได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกจากการลงทุนภาคเอกชนของประเทศจีนที่จะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายการอนุมัติลงทุนของ BoI ประกอบกับการส่งออกสินค้าการเกษตร ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว ส่งผลให้ผลผลิตมวลรวมของประเทศเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน” นางสาวมินตรา กล่าว


ด้าน นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจโลจิสติกส์โดยการให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทั้งทางทะเลและทางอากาศ โดยจะเป็นผู้จัดหาระวางชั้นนำที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ รวมทั้งเป็นผู้พิจารณาติดต่อสายการเดินเรือ และสายการบินดำเนินการต่อรองและจองระวางที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ทั้งนี้ KIAT ได้ขยายเครือข่ายโดยเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกต่าง ๆ ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถให้บริการรับจัดการขนส่งทางทะเลและทางอากาศครอบคลุมจุดการค้าสำคัญในประเทศต่าง ๆ เพื่อรองรับการฟื้นตัวภาคการผลิตของเศรษฐกิจไทยและโลก

เมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ

KIAT ยังคงนโยบายการจัดซื้อรถหัวลากจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือในตลาดเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งให้ความสำคัญในความเข้มงวดการตรวจสภาพรถและการซ่อมบำรุงเพื่อให้รถในกองรถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานขับรถเพื่อเพิ่มทักษะการทำงาน ในขณะที่การบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงได้มีการสั่งซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากผู้จัดจำหน่ายหลายรายซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและไม่มีการผูกขาดกับผู้จัดจำหน่ายรายใดรายหนึ่ง จึงไม่มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้จัดจำหน่าย

“ปี 2567 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากด้วยสภาพเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวจากการส่งออกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ขยายตัวสูงขึ้น ประกอบกับการส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนจากภาครัฐ KIAT จึงมุ่งมั่นจะขยายธุรกิจต่อไปตามแผนธุรกิจและโอกาส โดยจะพยายามรักษาและเพิ่มอัตรากำไรและผลตอบแทนการลงทุนให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจขนส่งและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งมุ่งสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและความเข้มแข็งในธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งทางถนน ทางอากาศ และทางน้ำ เพื่อให้มีรากฐานที่มั่นคงและขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะต้องเร่งการพัฒนาในหลายด้านพร้อมๆกัน ทั้งในด้านการบริหารการขนส่ง ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารต้นทุน การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยี และ การควบคุมคุณภาพให้อยู่ในระดับที่ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องพึงพอใจ นอกจากความมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่นยืนแล้ว เรายังคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญตามมาตรฐานการปฏิบัติการขับขี่ที่เข้มงวดเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน กล่าวคือ KIAT ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการดำเนินการเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและสาธารณชนด้วย” นายเมฆ กล่าว

advertisement

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม