การเงิน

ข่าวลือ "จับแจ๊คหม่า" ฉุดหุ้นจีนเกือบ 9 แสนล้านบาท

3 พ.ค. 65
ข่าวลือ "จับแจ๊คหม่า" ฉุดหุ้นจีนเกือบ 9 แสนล้านบาท

ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงยับ หลัง Alibaba ดิ่งหนักเกือบ 10% จากข่าว "แจ๊ค หม่า" ถูกจับ มูลค่าหายวับเกือบ 9 แสนล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นจีนยังเปราะบาง


ราคาหุ้นอาลีบาบา ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ดิ่งลงหนักถึง 9.4% เมื่อช่วงเช้าวันนี้ คิดเป็นมูลค่าที่หายไปมากถึง 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (เกือบ 9 แสนล้านบาท) และยังสะเทือนไปทั้งตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วงเช้า เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า ทางการจีนได้จับกุมชายคนหนึ่งที่มีนามสกุลว่า "หม่า" เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของชาติ ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่าอาจจะเป็น "แจ๊ค หม่า" ผู้ก่อตั้งบริษัทอาบาบา โฮลดิงส์ ที่เคยถูกรัฐบาลจีนเพ่งเล็งก่อนหน้านี้

แจ๊ค หม่า


อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของอาลีบาบาได้ปรับตัวขึ้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน จนลดลงเหลือเพียง 1.76% เมื่อมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นว่า คนที่ถูกจับกุมตัวไปมีชื่อ-นามสกุล 3 พยางค์ แต่หม่ามี 2 พยางค์ (ชื่อจริงคือ หม่า หยุน)

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดจีนยังคงมีความเปราะบางสูง โดยเฉพาะต่อภาคเทคโนโลยี ที่รัฐบาลจีนเคยปูพรม "ปรับทัศนคติ" บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่มาแล้ว ตั้งแต่ Alibaba, Tencent, Baidu ไปจนถึงยักษ์ใหญ่อื่นๆ ว่า แม้บริษัทเหล่านี้จะสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศเพียงไร แต่สำหรับประเทศจีนแล้ว "ความมั่นคงของชาติ" ย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่น

artboard1copy3_19


อาจกล่าวได้ว่าจุดเริ่มต้นของการปูพรมปรับทัศนคติครั้งใหญ่ในจีน มาจากสุนทรพจน์ของ แจ๊ค หม่า เมื่อเดือน ต.ค. 2563 ที่มีการกล่าวพาดพิงธนาคารกลางจีน (PBOC) ในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังมีความล้าหลังอยู่ หลังจากนั้นเป็นต้นมา อาลีบาบาถูกปฏิเสธไม่ให้บริษัทลูก Ant Group เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ อาลีบาบาถูกสอบถามผูกขาดตลาด และถูกปรับเป็นเงินถึง 2,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 9.6 หมื่นล้านบาท) แจ๊ค หม่า ต้องลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารของอาลีบาบา

จุดเริ่มต้นดังกล่าวยังนำมาซึ่งการปูพรม "กำราบ" ภาคเทคโนโลยีในจีนทั้งระบบ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เกม บริการเรียกรถ การศึกษา บริการส่งอาหาร และอีคอมเมิร์ซ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีนในภาพรวมไปด้วย แม้กระทั่ง "ชาร์ลี มังเกอร์" คู่หูนักลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในอาลีบาบามอย่างยาวนาน ยังต้องตัดสินใจลดสัดส่วนการลงทุนในอาลีบาบาลงม

ทั้งนี้ หม่า ซึ่งแปลว่า "ม้า" เป็นนามสกุลที่มีคนใช้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ในจีน ในขณะที่เมืองหังโจว ซึ่งมีประชากรราว 12 ล้านคน มีคนนามสกุล หม่า อยู่มากกว่า 10,000 คน

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT