ที่ประชุมสิ่งแวดล้อมโลก COP27 มีมติครั้งประวัติศาสตร์! จัดตั้ง "กองทุนชดใช้ความเสียหายจากโลกรวน" ให้ประเทศยากจน ตกลงกันได้ในนาทีสุดท้ายหลังจากเจรจาต่อสู้กันมานานกว่า 30 ปี
วันนี้ (20 พ.ย. 2565) ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (COP27) ซึ่งมีผู้แทนจากเกือบ 200 ประเทศเข้าร่วม ที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ สามารถบรรลุข้อตกลงการจัดตั้ง Climate Damage Fund หรือ กองทุนชดใช้ความเสียหายจากโลกรวน ได้สำเร็จเป็นครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากที่มีการต่อสู้กันในประเด็นนี้มายาวนานกว่า 30 ปี.png)
กองทุนนี้นับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของประเทศขนาดเล็กทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรุนแรง เช่น กรณีน้ำท่วมใหญ่ในประเทศปากีสถาน ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพราะหัวใจหลักของกองทุน Climate Damage Fund คือการที่ประเทศร่ำรวย จะจ่ายชดเชยค่าเสียหายที่เกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศอย่างรุนแรง ให้กับประเทศที่ยากจน เพื่อที่ทุกฝ่ายจะสามารถร่วมกันทำตามเป้าหมาย ป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม มติการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวยังอยู่ในขั้น "เบื้องต้น" เท่านั้น โดยรายละเอียดอีกมากยังไม่มีการสรุปชัดเจนออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนเงินของกองทุนดังกล่าว และเงื่อนไขรายละเอียดของการจ่ายชดเชยให้ประเทศยากจน
นอกจากนี้ ข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฯ ยัง "ขาด" รายละเอียดในเชิงผูกมัดที่เป็นรูปธรรมอีกหลายอย่าง เช่น ไม่มีการกำหนดว่าจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเท่าไร และไม่มีการพูดถึงว่าจะลดการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งรวมถึงน้ำมันและก๊าซ ลงอย่างไร
สำหรับประเด็นถกเถียงว่า ประเทศไหนบ้างที่ต้องมีส่วนร่วมในการจ่ายชดเชยค่าความเสียหายจากภาวะโลกรวนให้แก่ประเทศยากจนนั้น จะถูกนำไปหารือต่อในการประชุมครั้งหน้า COP28 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE) ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มประเทศร่ำรวยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็สาเหตุหลักของภาวะโลกรวนมากที่สุด